นายวินัย อยู่สบาย หัวหน้ากลุ่มงานตรวจสอบการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) และพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 เปิดเผยว่า หลังจาก พ.ร.บ.มีผลบังคับใช้ เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ไอซีทีได้รับการประสานจากตำรวจในพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้ช่วยสืบค้นหลักฐานในคดีที่เป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์แล้วกว่า 100 คดี โดยส่วนใหญ่เป็นการหมิ่นประมาทด้วยการตั้งกระทู้หรือเขียนข้อความโจมตี และใส่ร้ายกันบนเว็บบอร์ดสาธารณะ ทั้งที่เป็นการหมิ่นประมาทบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงต่างๆ และหมิ่นประมาทบุคคลทั่วไป
"ไอซีทีทำงานประสานกับตำรวจในแต่ละ สน.ที่ขอให้ช่วยสืบค้นหลักฐานให้ แต่การจะส่งฟ้องหรือไม่นั้น ตำรวจจะเป็นผู้พิจารณา ส่วนที่เป็นคดีฟ้องร้องกันในชั้นศาลแล้วขอให้ไอซีทีไปเป็นพยานให้นั้น ขณะนี้มีแล้ว 10-20 คดี" นายวินัยกล่าว และว่า
อย่างไรก็ตาม การกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. อย่างเดียวโดยไม่เข้าข่ายเป็นความผิดทางอาญาหรือทางแพ่ง อาทิ การแฮกระบบหรือแฮกข้อมูลจากคอมพิวเตอร์นั้น ในขณะนี้ยังไม่เกิดเป็นคดีฟ้องร้องกันในชั้นศาล อย่างกรณีเว็บไซต์ของกระทรวงไอซีทีที่ถูกแฮกไปเมื่อกลางปีก่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามและสืบค้นข้อมูลหลักฐาน ซึ่งเกือบ เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยไอซีทีกำลังปรึกษากับทางตำรวจว่าจะทำสำนวนฟ้องร้องอย่างไรต่อไป
ส่วนการสืบค้นพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดบนคอมพิวเตอร์นั้น แม้ไอซีทีจะลงนามในข้อตกลงร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปเมื่อ 2 เดือนก่อน เพื่อให้ชัดเจนว่าแต่ละส่วนงานจะประสานกันอย่างไร แต่ขณะนี้ก็มีความยุ่งยากพอสมควร โดยเฉพาะการติดตามข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้มีน้ำหนักเพียงพอที่ศาลจะเชื่อมั่นได้ว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ที่มีความยุ่งยากซับซ้อนมาก ประกอบกับผู้เสียหายเองก็ไม่มีความรู้ในข้อกฎหมายและการเก็บข้อมูลเบื้องต้น
ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้ผู้ที่เสียหายจากการทำความผิดผ่านคอมพิวเตอร์ ขอให้ปรึกษาผู้รู้ด้านกฎหมายก่อนจะดำเนินการใดๆ เพื่อให้ทราบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเข้าข่ายในเรื่องใด และเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ด้วยหรือไม่ หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อมาที่กระทรวงไอซีทีก่อนก็ได้
นอกจากนี้ ไอซีทียังมีโครงการจะนำวิทยากรเดินสายไปพบกับตำรวจในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และขั้นตอนในการประสานงาน รวมถึงทราบว่าแต่ละหน่วยงานจะช่วยเหลือกันได้อย่างไร คาดว่าจะเริ่มโครงการได้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์นี้ |