ดัน Windows 7 สร้างกระแสตลาดไอทีทั่วโลก ให้สิทธิ์ลูกค้าชาวไทยสัมผัสเทคโนโลยีล่าสุด ด้วยราคาโปรโมชัน 3,777 บาท จ่อเปิดเป็นทางการ 31 ต.ค.นี้...
ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีส่งผลให้บรรดาผู้ผลิตสินค้าและนวัตกรรม เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเอง เพื่อรองรับความต้องการใช้งานของผู้บริโภค และเหมาะสมต่อการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ ด้วยประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถดำเนินชีวิตประจำวัน ทำงาน และเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย สอดคล้องกับกระแสความนิยมที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน โดยล่าสุด ไมโครซอฟท์ได้สร้างกระแสความคึกคักแก่วงการไอทีทั่วโลก ด้วยการประกาศเปิดตัวระบบปฏิบัติการ Windows 7 ด้วยเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการทำงาน ปกป้องเครื่องคอมพิวเตอร์ และการประหยัดพลังงาน...
นางสาวปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า วานนี้ (22 ต.ค.) ทั่วโลกประกาศเปิดตัวระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 อย่างเป็นทางการ โดยในช่วงเปิดทดสอบเวอร์ชันเบต้ามีผู้สนใจร่วมทดสอบถึง 8 ล้านคนทั่วโลกจาก 113 ประเทศ แบ่งเป็นผู้ทดลองจากประเทศไทยจำนวน 100,000 คน ถือเป็นโปรแกรมที่มีการทดสอบเวอร์ชันเบต้ามากที่สุดโปรแกรมหนึ่ง ด้วยเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ที่ได้รับการพัฒนา เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม วินโดวส์ 7 มีกำหนดเปิดตัวในประเทศไทย วันที่ 31 ตุลาคม ถึง 1 พฤศจิกายน 2552 ด้วยราคาโปรโมชัน 3,777 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
เทคโนโลยี TouchPack
กก.ผจก.บ.ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) ชี้แจงต่อว่า ราคาดังกล่าวถือเป็นราคาพิเศษที่มีจำหน่ายเพียงในประเทศไทย จากราคาปกติประมาณ 8 พันกว่าบาท โดยเบื้องต้น บริษัทฯ จะยังคงราคาจำหน่ายดังกล่าวต่อไปอย่างไม่มีกำหนด เพื่อสนับสนุนให้ผู้บริโภคชาวไทยหันมาใช้โปรแกรมลิขสิทธิ์มากขึ้น สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐและนักพัฒนาไทยในปัจจุบัน ที่ให้ความสำคัญในการต่อต้านสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ส่วนการป้องกันโปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์นั้น ผู้ใช้จะไม่สามารถใช้งานได้ทุกฟีเจอร์เช่นเดียวกับโปรแกรมลิขสิทธิ์ นอกจากนี้ ความสามารถในการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ก็จะลดลงอย่างต่อเนื่อง จนเหลือเพียงแค่ความสามารถในการบันทึกข้อมูล
น.ส.ปฐมา ให้ข้อมูลอีกว่า การพัฒนาวินโดวส์ 7 เป็นความร่วมมือระหว่างวิศวกรของไมโครซอฟท์ นักออกแบบ ลูกค้า และคู่ค้าของบริษัทฯ รวมถึง การรับฟังความต้องการของผู้ใช้วินโดวส์กว่า 160,000 คนใน 200 ประเทศ นอกจากนี้ ยังมีนักพัฒนาซอฟต์แวร์ นักทดสอบ และ บล็อกเกอร์ชาวไทยอีก 50 คน ร่วมพัฒนาโปรแกรมดังกล่าว ทั้งนี้ ยังมีผลงานของนักออกแบบชาวไทยชื่อ “Pomme Chan” ถูกคัดเลือกให้เป็นวอลเปเปอร์อย่างเป็นทางการของวินโดวส์ 7 อีกด้วย ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมของวินโดวส์ 7 ในประเทศไทย ผ่าน www.windows7thailand.com และ www.facebook.com/windows7thaifan
ฟีเจอร์ Homegroup
กก.ผจก.บ.ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) เปิดเผยรายละเอียดด้วยว่า การใช้งานวินโดวส์ 7 ไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง ราคาแพง หรือเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด จากการทดสอบพบว่า ระบบปฏิบัติการดังกล่าวสามารถใช้งานได้ดีทั้งในคอมพิวเตอร์รุ่นเก่า โน้ตบุ๊ค และเน็ตบุ๊ค ด้วยการตอบสนองที่รวดเร็ว ทำให้ลูกค้าได้สัมผัสประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งานอย่างเต็มเปี่ยม โดยหากผู้ใช้ประสบปัญหาด้านการใช้งาน ก็สามารถเลือกใช้ฟังก์ชัน XP Mode ได้เช่นเดิม อย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟทเชื่อว่า การเปิดตัววินโดวส์ 7 จะช่วยกระตุ้นตลาดไอที ทั้งด้านฮาร์ดแวร์ แอพพลิเคชัน ตัวแทนจำหน่ายสินค้า และเศรษฐกิจให้ดีขึ้น
ด้าน นายพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด แสดงความเห็นว่า วินโดวส์ 7 มีลูกเล่นใหม่ที่น่าสนใจจำนวนมากและสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย สามารถรองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งมัลติมีเดียและรูปแบบอื่น ทำให้อัสซุสพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี สอดคล้องกับการใช้งานแพลตฟอร์มดังกล่าว โดยโน้ตบุ๊คตระกูล UL Series ของอัสซุส เลือกใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 เพื่อมอบประสบการณ์ควบคู่การประหยัดพลังงาน ภายใต้ยูสเซอร์อินเทอร์เฟสที่สมบูรณ์
ส่วน นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการและผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้ข้อมูลว่า ก เชื่อว่า ความร่วมมือระหว่างอินเทลและไมโครซอฟท์ในการเปิดตัววินโดวส์ 7 จะทำให้ผู้บริโภคทั่วไปและลูกค้าระดับองค์กรมีประสบการณ์ใช้งานคอมพิวเตอร์ดีขึ้น ด้วยประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานที่โดดเด่น นอกจากนี้ อินเทลยังมีส่วนร่วมกับไมโครซอฟท์ในการพัฒนาวินโดวส์ ตั้งแต่การนำวิศวกรช่วยพัฒนานวัตกรรม ทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์อีกด้วย
Wallpaper ฝีมือนักออกแบบไทย
กระแสการตอบรับเทคโนโลยีดังกล่าว ถือเป็นแนวโน้มแห่งโลกอนาคต ที่จะสามารถตอบสนองความต้องการและผสมผสานรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายได้อย่างลงตัว ภายใต้ความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภค ตลอดจนการจำหน่ายในราคาที่ลดลงกว่าครึ่ง จากอดีตที่โปรแกรมลิขสิทธิ์เคยมีราคาเฉียดหลักหมื่น
จนกระทั่งยุคปัจจุบันที่ผู้ผลิตและเจ้าของลิขสิทธิ์ได้ปรับลดราคาลง ด้วยความมุ่งหวังให้ลูกค้าปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค โดยหันกลับมาสนับสนุนเทคโนโลยี ที่เกิดจากการกลั่นกรองกระบวนการคิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย...
ปิยุบล ตั้งธนธานิช
itdigest@thairath.co.th