3 คุณแม่ชาวไอที หนุนลูกเข้าสู่โลกไซเบอร์ พร้อมเปิดโอกาสให้ลองและเรียนรู้ รับยังห่วงความปลอดภัย เตรียมประกบใกล้ชิดตัวต่อตัว ชี้เสริมทักษะได้หลายอย่างทั้งภาษาและอารมณ์...
ท่ามกลางความรักที่ยังครุกรุ่นอยู่รอบตัว ทีมข่าวไอทีออนไลน์ หยิบ 3 คู่แม่ลูกไอที มาพูดถึงความรักความผูกพันยุคดิจิตอล เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศอบอุ่นของเดือนส.ค. เดือนของ "วันแม่" ...
นางภูมิจิต ศิระวงศ์ประเสริฐ กรรมการ คณะอนุกรรมการศึกษาผลกระทบทางสังคมจากการใช้ไอซีที เล่าถึงลูกชายวัยซนอายุ 8 ขวบ ด.ช.จงเจตน์ ญอง ให้ฟังว่า เพราะเป็นเด็กที่เห็นแม่ใช้งานคอมพิวเตอร์และโซเชียลเน็ตเวิร์กมาตั้งแต่เด็ก จึงไม่ค่อยถามอะไรมากนัก ประกอบกับตนให้ลูกเล่นเกมตั้งแต่อายุ 3 ขวบ และเมื่อเดือนต.ค.ปีที่ผ่านมาได้สมัครเฟซบุ๊กให้เขา แต่จะคอยควบคุมอยู่ด้วยตลอดเวลาและไม่ให้เล่นเกม อาจมีบ้างที่เราปล่อยให้เขาเล่นเกมบนโซเชียล แต่ทุกเกมต้องเป็นเกมที่เราเคยเล่นมาก่อน
"วันที่ทำให้เรารู้ว่าลูกใช้คอมพิวเตอร์เป็นคือ เขามาบอกว่าเปิดเพลงออนไลน์ได้ เลยบอกให้ลองเปิดให้ดู ซึ่งเค้าก็ทำได้จริงๆ ที่ให้เขาเล่นเกมก็เป็นการศึกษาไปในตัว จะเน้นเฉพาะเกมที่สอดแทรกความรู้ เพราะอย่างน้อยก็ทำให้เขาเข้าใจศัพท์เบื้งต้นที่ต้องเจอบ่อยๆ เช่น new , continue , exit นอกจากนี้ ยังใช้เมนูคอมพิวเตอร์เฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น"
ส่วนตัวไ่ม่สนับสนุนให้ลูกเล่นเกมออนไลน์ เพราะอาจทำให้เขาติดหรือเกิดความรู้สึกอยากเล่นต่อเนื่อง ทั้งยังมีอันตรายหลายด้าน โดยเฉพาะพวกมัลแวร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยด้านข้อมูล ในบางครั้งที่ลูกงอแงอยากเล่นเกมก็ไม่เคยตามใจเขา จะห้ามเด็ดขาดว่าไม่ให้เล่น แต่ความที่ลูกอายุแค่ 8 ขวบ ก็ยังเป็นการง่ายที่จะดึงความสนใจเขาไปหาสิ่งอื่นได้
คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในบ้านจะมีพาสเวิดทั้งหมด ถ้าไม่อยู่ก็ไม่อยากให้เขาเล่นตามลำพัง ไม่รู้ว่าจะค้นอินเทอร์เน็ตเจออะไรบ้าง แต่พวกสื่อหรือภาพลามกยังไม่ค่อยเป็นห่วงเท่ากับเรื่องความปลอดภัยข้อมูล ถ้าเปรียบเทียบระหว่างโทรศัพท์เคลื่อนที่กับคอมพิวเตอร์ บอกตามตรงว่าห่วงการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่มากกว่า เพราะไม่รู้ว่าเขาใช้ทำอะไร
"ถ้าลูกโตเป็นวัยรุ่น เราจะไม่บล็อกเขาแน่นอนเพราะมันไม่ได้ผล จะปล่อยให้เขารู้ไปเลย แต่จะเน้นทำความเข้าใจเรื่องความปลอดภัยในการใช้ให้เขา"
น.ส.กรกมล ศรีเอี่ยม เจ้าของตำนาน "ขอแต่งงานออนไลน์" เปิดเผยในฐานแม่ของลูกชายตัวน้อยวัย 1 ปี 4 เดือน น้องเป็ป หรือ ด.ช.ปภากร พงษ์วิทยภานุ ว่า แม้ยังอยู่ในวัยเด็กแต่ลูกชายก็ชอบเล่นคอมพิวเตอร์ ทุกครั้งที่พ่อแม่ใช้ก็จะชอบเข้ามากดปุ่มต่างๆ เสมอ โดยลูกชายก็มีเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ส่วนตัวด้วย ในช่วงแรกเคยทวิตแทนลูกอยู่บ้างแต่ช่วงหลังจะเมนชันเขาเข้ามาในทวิตเตอร์ เพื่อให้เขารู้ว่ามีเรื่องราวอะไรเคยเกิดขึ้นบ้าง
ในฐานะแม่ก็เป็นห่วงการเติบโตของลูก โดยเฉพาะการที่ชีวิตในโลกความเป็นจริงลดลงและถูกแทนด้วยโลกไซเบอร์ จึงพยายามแบ่งเวลาในโลกจริงและโลกเสมือนให้เขาอย่าเหมาะสม ส่วนวิธีเตรียมพร้อมรับมือปัญหาต่างๆ ในช่วงวัยรุ่นของลูกนั้น เริ่มตั้งแต่เขายังอยู่ในวัยเด็ก โดยการนำเสนอสิ่งที่เป็นความสนใจตามช่วงวัย เช่น พาไปสวนสัตว์ ฟังเพลง เล่นดนตรี หรือพาไปเจอคนเยอะๆ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสร้างความสมดุลในโลกจริงให้เขาได้
ส่วนการใช้คอมพิวเตอร์นั้น โดยส่วนตัวไม่ได้วางแผนอะไร แต่คุณพ่อ (ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ TARAD.com) มีการวางแผนไว้ว่าจะซื้อคอมพิวเตอร์ให้ลูกตั้งแต่ 3 ชวบ เพื่อปลูกฝังสิ่งดีดี อาทิ การสอนภาษา แต่อย่างไรก็จะไม่ปล่อยให้ลูกใช้คอมพิวเตอร์โดยลำพังอย่างแน่นอน
ส่วน นิโคล เทริโอ นักร้องชื่อดัง เล่ารายละเอียดผ่าน @nikkitheriault ว่า จะคอยแนะนำการใช้คอมพิวเตอร์และสอนลูกอยู่ตลอด แต่จะไม่ปล่อยให้เล่นเกมเด็ดขาด
เทคโนโลยีและวิถีที่ทันสมัยก็เหมือนเหรียญที่มี 2 ด้านเสมอ แล้วแต่คุณ(แม่)จะเลือกใช้ด้านไหนมากกว่ากัน "มืด" หรือว่า "สว่าง"...!?!