ไอซีที–นักกฎหมาย ชมรมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ เตือนโพสต์ข้อความด่า ว่า วิจารณ์ ผู้อื่น ผิดกฎหมายหมิ่นประมาท-อาญา ชี้โทษสูงสุดคุก 5ปี แนะคนโพสต์แล้วควรลบทิ้ง เปรยถ้าผู้เสียหายเอาเรื่องก็ดำเนินคดีได้ ย้ำยุติปัจจัยเสี่ยง โพสต์ รีทวีต และส่งต่อ...

หลังจากกระแสข่าวฟิล์ม-แอนนี่ ยังแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ข่าวที่ออกตามหน้าหนังสือพิมพ์ หรือโทรทัศน์ วิทยุ เท่านั้น แต่ยังแพร่ระบาดไปยังอินเทอร์เน็ต อย่างเว็บพันทิป หรือ กระทู้ตามเว็บบอร์ดต่างๆ  โดยเฉพาะกลุ่มโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่าง เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ ด้วย จนบางประโยคอาจถึงเข้าข่ายหมิ่นประมาทเลยก็ว่าได้

 

นายอารีย์ จิวรรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที กล่าวว่า กรณีดังกล่าว เป็นคดีส่วนบุคคล ถ้าเกิดความเสียหายขึ้น ผู้เสียหายต้องมาร้องทุกข์ที่กระทรวงไอซีที หรือสถานีตำรวจ แต่ถ้ามาที่สถานีตำรวจ ก็จะลงบันทึกประจำวันไว้ จากนั้นจะส่งมาที่กระทรวงไอซีที เพื่อให้เจ้าหน้าที่ค้นหาข้อมูล หรือเป็นพยานในศาลตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 หรือ พ.ร.บ.คอมฯ

 

ทั้งนี้ หากไม่มีผู้ร้องเรียน ก็ไม่สามารถดำเนินคดีได้ ขณะเดียวกัน หากผู้เสียหายไม่สามารถมาแจ้งด้วยตนเอง อาจมอบให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าแจ้งความได้ ทุกสถานีตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ 

สำหรับศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยอินเตอร์เน็ต หรือ ไอซอค (Internet Security Operation Center : ISOC) ก็จะดำเนินการค้นหาข้อมูลเชิงลึก และระวังในส่วนมที่เข้าข่ายอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ส่วนคดีฟิล์ม-แอนนี้นั้น มองว่า เข้าข่ายการอาชญากรรมคอมพิวเตอร์เพียงเล็กน้อย แต่มีความกระทำความผิดทางพ.ร.บ.คอมฯ ตามมาตรา 14 (1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

ผู้อำนวยการสำนักกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงไอซีที กล่าวต่อว่า ข้อความที่โพสต์ผ่านเว็บไซต์ ต่างๆ นั้น อยู่ที่ผู้เสียหาย โดยกระทรวงไอซีทีมีหน้าที่เตรียมข้อมูลให้ ทั้งนี้ ต้องพิจารณาอีกครั้งว่าข้อมูลที่ได้มานั้น เป็นเท็จหรือไม่ ส่วนการทำงานของกระทรวงไอซีที นั้นตั้งแต่ทันที ถึงหนึ่งสัปดาห์ โดยขึ้นอยู่กับข้อมูล หากผู้ใดกระทำความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายอารีย์ เตือนอีกว่า การโพสต์ข้อความผ่านกระทู้บนอินเทอร์เน็ตนั้น ยอมรับว่ามีประโยชน์ถ้าใช้ให้เกิดประโยชน์และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน หรือ อย่าทำผิด พ.ร.บ.คอมฯ ไม่เช่นนั้น จะทำให้เสียเวลา อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้ง    

 

ด้าน นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ที่ปรึกษากฎหมาย ชมรมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ชี้แจงว่า ข้อความที่อยู่ในอินเทอร์เน็ต คือ การใส่ความนั้นไม่ได้ผิดแค่กฎหมายอาญา หรือ หมิ่นประมาทเพียงอย่างเดียว แต่จะผิด พ.ร.บ.คอมฯ ด้วย และเป็นเรื่องที่น่ากลัว  เพราะยอมความไม่ได้ ทั้งนี้ ในแง่ของการฟ้องร้องก็เช่นเดียวกับเรื่องทั่วไป คือ พริ้นข้อความออกมา แล้วทดสอบไอพีแอดเดรสว่าคนที่ล็อกอินมาจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือไอเอสพี รายใด จึงขอล็อกไฟล์ แล้วดำเนินคดี

“การโพสต์ข้อความคอมเมนท์ในเรื่องนี้ ทำให้ผู้อื่นเสียหาย และถ้าข้อความนั้นไม่เป็นจริง นอกจากจะเป็นเรื่องหมิ่นประมาทตามกฎหมายอาญาแล้ว ยังผิดพ.ร.บ.คอมฯ มาตรา 14 (1) เผยแพร่ข้อความที่ปลอม หรืออาจเป็นเท็จทำให้ผู้อื่นเสียหาย หรือ ผิดมาตรา 14 (5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) แต่สิ่งที่น่ากลัว คือ เป็นความผิดอาญาที่ยอมความไม่ได้” ที่ปรึกษากฎหมาย ชมรมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ กล่าว

ส่วนหลักฐานนั้น ผู้เสียหายสามารถแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือ เจ้าหน้าที่ไอซีที และขอให้ตรวจสอบไอพีแอดเดรสที่เข้าไปนั้น เป็นช่วงเวลาไหนจึงจะดำเนินคดีได้

 

สำหรับ กรณีที่ไม่มีผู้แจ้งความ เป็นหน้าที่ของตำรวจ และเจ้าหน้าที่ไอซีที ต้องดำเนินการ เพราะเป็นความผิดต่อรัฐ ไม่ใช่ความผิดส่วนตัว และเป็นความผิดอาญาที่ยอมความไม่ได้ ขณะที่ ในทางปฏิบัตินั้น เจ้าหน้าที่ไม่มีเวลามาตรวจสอบว่าใครโพสต์อะไรบ้าง จึงมักให้ผู้เสียหาย หรือผู้ที่ถูกพาดพิงมาแจ้ง

“ทันทีที่ฟอร์เวิร์ด รีทวีต บีบี ผ่านกัน ตรงนั้นก็ผิดแล้ว เพราะสิ่งแรกคือเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จในแง่ของเว็บไซต์ พอคนเข้าไปดูแล้วรีทวีตก็เป็นเรื่องเผยแพร่ส่งต่อ ตามมาตรา 14 (5) แล้วโทษจำคุก 5 ปี อายุความก็ 15 ปี เยอะมากส่วนคดีหมิ่นประมาท เป็นความผิดอาญา ยอมความได้อายุความแค่ 3 เดือน ซึ่งจะต่างกันมาก” นายไพบูลย์ กล่าว

 

ทั้งนี้ กฎหมายพ.ร.บ.คอมฯ ไม่สามารถพิสูจน์เรื่องส่วนตัวได้ เหมือนคดีหมิ่นประมาท เพราะฉะนั้น จึงมีความเสี่ยงมากกว่า

ที่ปรึกษาชมรมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ แนะนำว่า คนที่โพสต์ข้อความไปแล้ว ก็ควรลบทิ้ง แต่ถ้าผู้เสียหายต้องการเอาเรื่องจริงๆ ก็ตรวจสอบได้ เพราะมีล็อกไฟล์เก็บไว้ อย่างไรก็ตาม หากทราบข้อมูลก็ควรยุติการกระทำที่เข้าข่ายเผยแพร่ เรื่องที่ไม่มั่นใจว่าเป็นข้อความจริงตามนั้นหรือไม่ และหากเข้า พ.ร.บ.คอมฯ แล้วจะไม่มีข้อยกเว้นเรื่องดังกล่าว ในการพาดพิงบุคคลอื่นแล้วก่อให้เกิดความเสียหาย

 

อย่างไรก็ตาม คดีหมิ่นประมาทที่เกิดขึ้นในโลกไซเบอร์มีมากมาย เพียงแต่กรณีของฟิล์ม-แอนนี่ เป็นตัวอย่างที่หลายคนสนใจ แต่ต้องไม่ลืมว่า ข้อความที่โพสต์ไปนั้น ต้องไม่กระทบต่อความเดือดร้อนผู้อื่น หรือ เข้าข่ายหมิ่นประมาท ไม่เช่นนั้น จะกลายเป็นผู้มีคดีติดตัว 

ขณะที่ การแสดงความคิดเห็นที่เกิดขึ้นบนโลกไซเบอร์ ไม่ใช่แค่เสี่ยงต่อคดีหมิ่นประมาทเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของการเผยแพร่ข้อมูลที่ผิดกฎหมาย ทำให้ผู้อื่นเสียหาย หรือเผยแพร่ ส่งต่อ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าข้อมูลอาจปลอม หรือเป็นเท็จ เพราะในทางกลับกัน ข้อมูลที่ขาเมาท์โพสต์ลงไปในเว็บไซต์ ก็ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริง

ทีมข่าวไอทีออนไลน์