เหลือเวลาเพียงไม่กี่เดือน ความคึกคักของตลาดแรงงานก็จะเริ่มขึ้นอีกครั้ง เมื่อมีบัณฑิตใหม่ไฟแรงก้าวออกจากรั้วมหาวิทยาลัยมาเคาะประตูองค์กรที่พวกเขาใฝ่ฝันจะร่วมงาน หากคงไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าเป้าหมายของเขาคือบริษัทใหญ่ชั้นนำ อันเป็นที่รู้กันว่าโดยมากแล้วบริษัทเหล่านี้ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจไอทีมักจะรับบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์อย่างน้อยๆ 2-3 ปี ความเชื่อดังกล่าวอาจทำให้หลายคนมองว่าทางเดินของบัณฑิตใหม่ค่อนข้างจะตีบตันและไร้ทางเลือก แต่นั่นก็เป็นเพียงความเชื่อที่มีส่วนผสมของความจริงและการคาดเดาคละกันไป ซึ่งไม่มีใครจะให้คำตอบได้ดีไปกว่าผู้บริหารในแวดวงไอทีที่เป็นผู้มองหาบุคลากรมาเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ นายสุพจน์ ศรีนุตพงษ์ ผู้จัดการฝ่ายการศึกษา บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทซอฟต์แวร์ข้ามชาติรายใหญ่ องค์กรในฝันของเหล่านิสิตนักศึกษาอันดับต้นๆ ตามการสำรวจของนิตยสาร e-commerce บอกว่า แม้ว่าโดยปกติแล้วมักจะรับแต่ผู้มีประสบการณ์เข้ามาร่วมงาน แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาก็ได้มีการจัดโครงการ Executive trainees ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาจบใหม่ได้ทดลองทำงานกับไมโครซอฟท์เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยจะรับสมัครในช่วง ปลาย พ.ย. ถึงต้น ธ.ค. ตามงานจ๊อบแฟร์ของมหาวิทยาลัย เมื่อปีที่ผ่านมาได้ไปออกบูธที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีนักศึกษาทั้งจากจุฬาฯ เกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยอื่นๆ รวมถึงคนที่สมัครผ่านไปรษณีย์ก็เป็นจำนวนนับร้อย แต่ไมโครซอฟท์รับได้เพียงปีละประมาณ 10 กว่าคนเท่านั้น “การรับสมัครจะรับทุกสายงานที่มี และน้องๆ จะได้ทำงานจริง มีการอบรมให้ความรู้เบื้องต้นก่อน และจะมีพี่เลี้ยงคอยดูแลเมื่อแยกแผนก ในการทำงานก็ไม่ใช่แค่ซีร็อกซ์หรือซื้อกาแฟแต่จะมีการทำชิ้นงาน ได้ตัดสินใจด้วยตัวเองจริงๆ เมื่อครบ 1 ปี ทุกคนก็จะมีประสบการณ์ในการทำงานมากพอ และก้าวสู่ตลาดแรงงานที่แท้จริง ส่วนใครที่หน่วยก้านดี และไมโครซอฟท์มีตำแหน่งงานว่างก็อาจได้ร่วมงานเลย เพราะปกติแล้วไมโครซอฟท์มักจะรับแต่ผู้มีประสบการณ์ 3-5 ปีขึ้นไปทั้งนั้น จึงถือเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับเด็กจบใหม่” ผู้จัดการฝ่ายการศึกษา บริษัท ไมโครซอฟท์ เล่าถึงสิ่งที่บัณฑิตจบใหม่จะได้รับจากไมโครซอฟท์ในระยะเวลา 1 ปี ผู้บริหารของไมโครซอฟท์ บอกด้วยว่า การคัดสรรคนเข้าร่วมงานของไมโครซอฟท์นั้นไม่ได้พิจารณาจากเกรด และไม่ได้จำกัดสาขาวิชา แต่จะเน้นไปที่เรื่องของภาษาอังกฤษในระดับที่สื่อสารได้ และมีทัศนคติที่ดีต่อการทำงาน มีความคล่องแคล่ว เรียนรู้ได้เร็ว และปรับตัวได้ดี เพราะการทำงานในองค์กรขนาดใหญ่และเป็นระดับสากล สภาพแวดล้อมค่อนข้างจะกดดันพอสมควร ส่วนจุดอ่อนของนักศึกษาจบใหม่ส่วนใหญ่ที่พบก็คือเขาจะยังไม่ค่อยเข้าใจสังคมการทำงานมากนัก ยังมีความสนุกแบบเด็กมหาวิทยาลัยอยู่ ในขณะที่ชีวิตการทำงานต้องเป็นอีกอย่างหนึ่ง แต่จากการที่รับน้องๆ มาร่วมงานตามโครงการเมื่อปีที่แล้ว จนถึงตอนนี้พบว่าหลายคนมีความสามารถและจัดว่ามีหน่วยก้านดีถึงครึ่งต่อครึ่งทีเดียว อีกหนึ่งองค์กรไอทีที่ติด 1 ใน 5 บริษัทในฝันของนิสิตนักศึกษาจากการสำรวจของนิตยาสาร e-commerce อย่าง ทรู ยักษ์ใหญ่วงการสื่อสาร นายไพบูลย์ ต.ศิริวานิช ผู้อำนวยการและผู้จัดการทั่วไป ด้านกลุ่มลูกค้าบุคคล บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น แลกเปลี่ยนมุมมองให้ฟังว่า สาเหตุที่ทำให้ทรูเป็นหนึ่งในบริษัทไอทีที่บัณฑิตจบใหม่ใฝ่ฝันจะเข้ามาร่วมงานด้วยนั้น คิดว่าน่าจะเป็นผลมาจาก 2 ปัจจัย คือ เรื่องของแบรนด์ที่เปลี่ยนจาก บริษัท เทเลคอมเอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มาเป็นทรู ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นไลฟ์สไตล์ ความสดใสได้อย่างชัดเจน ตรงกับกลุ่มของนักศึกษา และส่วนที่สองคือในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นโฮมโซลูชั่น มิวสิค ทรูไลฟ์ ฯลฯ สำหรับเส้นทางของบัณฑิตจบใหม่ที่จะก้าวมาทำงานกับทรูนั้น ผู้อำนวยการและผู้จัดการทั่วไป ด้านกลุ่มลูกค้าบุคคล บมจ.ทรู เปิดเผยว่า ทรูเปิดโอกาสให้เด็กรุ่นใหม่อยู่เสมอ และเปิดรับทุกสถาบัน ไม่จำเป็นต้องจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังเท่านั้น แต่ขอให้มีความกระตือรือร้น มุ่งมั่น ซื่อสัตย์ มีความจริงใจ เชื่อมั่นว่าตนมีความสามารถที่จะทำได้ ให้เกียรติคนอื่น แคร์คนอื่น รวมถึงมีความคิดใหม่ๆ เหล่านี้เป็นคุณสมบัติของบุคลากรที่ทรูต้องการให้มาร่วมงาน แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เมื่อเข้ามาทำงานวัฒนธรรมของทรูก็จะค่อยๆ หล่อหลอมอยู่แล้ว ที่สำคัญ ขณะนี้ทรูยังมีโครงการที่จะขยายงานในอีกหลายส่วน ทั้งด้านอินเทอร์เน็ตและโมบายล์ รวมถึงเทคโนโลยี VoIP วิทยุโทรทัศน์ ดังนั้น จึงยังต้องการบุคลากรอีกมากในทุกสายงาน อุตสาหกรรมพัฒนาเกม เป็นอีกหนึ่งสาขาของธุรกิจไอทีที่อยู่ในความสนใจของนิสิตนักศึกษาจำนวนไม่น้อย นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด บริษัทผู้พัฒนาเกมของไทย มองตลาดแรงงานในส่วนนี้สำหรับบัณฑิตจบใหม่ว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมเกมในอนาคตยังมีที่ว่างอยู่มากสำหรับนักพัฒนาเกม ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมเมอร์หรือเกมดีไซเนอร์ แม้ว่า ณ ปัจจุบันยังมีบริษัทที่รองรับแรงงานในด้านนี้ไม่มากเท่าที่ควรก็ตาม เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่เพิ่งเริ่มต้น อย่างไรก็ตามตลาดยังขาดแรงงานด้านนี้อยู่มาก และยังต้องการโปรแกรมเมอร์ที่มีใจรักการเล่นเกม มีพื้นฐานการเขียนโปรแกรมโดยเฉพาะ C++ รวมถึงเกมดีไซเนอร์ที่มีจินตนการ ชอบคิดชอบฝัน มีไอเดียใหม่ๆ เพราะต่อไปในส่วนของแอนนิเมชั่น 2D และ 3D จะมีการเติบโตอีกมาก ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ไซเบอร์แพลนเน็ต กล่าวถึงในส่วนของการเปิดรับบัณฑิตใหม่เข้าร่วมงานกับบริษัทว่า ไซเบอร์แพลนเน็ต ไม่ได้ปิดกั้นว่าจะต้องรับเฉพาะผู้มีประสบการณ์หรือไม่อย่างไร แต่ขึ้นอยู่กับความสนใจและความมุ่งมั่นของผู้ที่จะเข้ามาร่วมงาน โดยขณะนี้เปิดรับทั้งในส่วนของฟรีแลนซ์และงานประจำ แต่จะมุ่งเน้นไปที่งานฟรีแลนซ์มากกว่า ซึ่งถ้าใครมีผลงานก็อาจทดลองส่งมาให้พิจารณาได้ ในมุมของธุรกิจไอทีที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคโดยเฉพาะอย่าง เอ็นฟอร์ซ บริษัทซิเคียวริตี้ของคนไทย ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามทั้งในไทยและเวียดนาม นายนักรบ เนียมธรรม ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียวริตี้ ซิสเต็มส์ เอพี จำกัด บอกว่า การเข้ามาร่วมงานกับเอ็นฟอร์ซไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์มากมาย เพราะบริษัทมีนโยบายให้โอกาสกับเด็กอยู่แล้ว พร้อมกันนี้ได้มีโครงการ join nForce ที่เดินสายไปตามมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อพบปะพูดคุยกับนิสิตนักศึกษาถึงอนาคตการทำงาน และการร่วมงานกับเอ็นฟอร์ซ หากใครต้องการร่วมงานและมั่นใจว่าตนเก่งจริงก็สามารถเดินเข้ามาคุยกันได้เลย โดยคุณสมบัติหลักๆ ที่จะพิจารณาก็คือ ความสามารถในสายงานที่นักศึกษาอยากจะเป็น เช่นถ้าต้องการทำงานด้านซิเคียวริตี้ก็ต้องมีความรู้พื้นฐานในด้านนี้บ้าง ไม่จำเป็นต้องได้เกียรตินิยมขอเพียงให้เก่งในสายที่จะก้าวไปก็พอ ทั้งนี้ ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเก่งมากมายอะไร เพราะเอ็นฟอร์ซรู้ดีว่าเด็กจบใหม่ควรมีพื้นฐานในระดับใด และจากปีที่ผ่านได้รับบัณฑิตใหม่เข้าร่วมงาน 2 คน ก็พบว่าทั้งคู่เป็นบุคลากรที่มีความสามารถในระดับที่น่าภูมิใจเลยทีเดียว ผู้บริหารเอ็นฟอร์ซ กล่าวต่อว่า นอกเหนือจากความสามารถก็คือเรื่องของทัศนคติที่ดีต่อการทำงาน เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่เปลี่ยนแปลงกันได้ยาก รวมไปถึงเรื่องของวุฒิภาวะทางอารมณ์และการควบคุมอารมณ์ ตลอดจนการสื่อสารกับผู้อื่น คือต้องสนทนาและอธิบายสิ่งต่างๆ ให้คนอื่นเข้าใจได้ เนื่องจากลักษณะงานของเอ็นฟอร์ซคือการพบปะผู้คน ต้องทำงานกับคนจำนวนมาก ทั้งนี้ยอมรับว่าในปัจจุบันเด็กสมัยใหม่มีความสามารถมาก บางคนจบใสก็สามารถใช้งานได้เลย แต่สิ่งที่ต้องเสริมก็คือเรื่องของการทำงานเป็นทีมซึ่งต้องอาศัยเวลาพอสมควร “ในช่วง 4-5 เดือนนับจากนี้ นิสิตนักศึกษาจะต้องรู้แล้วว่าเมื่อจบไปคุณจะทำอะไร ถ้าจะเรียนต่อก็ควรอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบ แต่ถ้าจะทำงานก็ต้องค้นหาตัวเองแล้วว่าคุณอยากทำงานด้านไหนแล้วมุ่งมั่นไปให้ตรงสายงานนั้น เพราะงานในด้านเอ็นจิเนียร์เป็นงานที่สั่งสมประสบการณ์เฉพาะทาง ไม่สามารถเปลี่ยนงานไปมาได้ง่ายเหมือนสายงานอื่น” ผู้บริหารบริษัทไอทีด้านซิเคียวริตี้ที่เติบโตอย่างรวดเร็วฝากทิ้งท้ายถึงว่าที่บัณฑิต คำตอบของผู้บริหารบริษัทไอทีชั้นนำคงจะชี้ให้เห็นแล้วว่าเส้นทางการทำงานบนธุรกิจไอทีสำหรับบัณฑิตจบใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป ไม่ต้องพ่วงเกียตินิยม ไม่ต้องพกประสบการณ์มามากมาย ขอเพียงแต่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และพร้อมที่จะพัฒนาตนเองในสายงานที่ต้องการจะเติบโต เท่านี้ก็ดูจะเพียงพอแล้วสำหรับการเริ่มต้นชีวิตการทำงานที่สดใสนอกรั้วมหาวิทยาลัย… ปาจารีย์ พวงศรี Itdigest@thairath.co.th |