การรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community-AEC) เป็นหนึ่งในสามเสาหลักของกฏบัตรอาเซียน (อ่านบทความ "AEC คืออะไร? ทำไมต้อง AEC? #1" ได้ที่นี่) ที่มีวัตถุประสงค์ที่จะให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความมั่นคง มั่งคั่งทางเศรษฐกิจ และสามารถแข่งขันกับภูมิภาคอื่นๆ ได้โดยมีลักษณะตาม AEC Blueprint ภาพจาก AEC Blog แผนพิมพ์เขียวก่อตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Blueprint) เป็นแผนงานภาพรวมทางด้านเศรษฐกิจที่กำหนดมาตรการและกำหนดระยะเวลาในการ ดำเนินงานที่ชัดเจน เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายของการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดย AEC Blueprint ประกอบด้วย 4 ด้านหลัก สอดคล้องตามเป้าหมายของ AEC ได้แก่ รวมทุกประเทศอาเซียนเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวเพื่อสร้างความแข็งแกร่งของอาเซียนให้เป็นฐานการผลิตที่สำคัญ จึงอนุญาตให้มีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน เงินทุนและแรงงานมีฝีมือระหว่างประเทศอย่างเสรีมากขึ้น รวมทั้งการส่งเสริมการรวมกลุ่มสาขาอาชีพสำคัญของอาเซียนให้เป็นรูปธรรม ภาพจาก ASEANbyMac สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจโดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นของแต่ละประเทศให้พร้อม มีการปรับเปลี่ยนและประสานนโยบายที่จะช่วยสนับสนุนการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ เช่น กฎหมายและนโยบายการแข่งขัน การคุ้มครองผู้บริโภค สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic commerce หรือ e-Commerce หมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์) นโยบายภาษี การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงิน การขนส่ง เทคโนโลยีสารสนเทศ พลังงาน และเหมืองแร่ พัฒนาเศรษฐกิจให้เท่าเทียมกันโดยการส่งเสริมและพัฒนา SMEs การเสริมสร้างสมรรถนะของประเทศสมาชิกอาเซียนใหม่ เพื่อลดช่องว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และสนับสนุนให้ทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอา เซียน การบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจโลกโดยการปรับเปลี่ยนและประสานนโยบายเศรษฐกิจของอาเซียนกับประเทศภายนอก ภูมิภาค ผ่านการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement - FTA) และความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ อย่างใกล้ชิดของอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาต่างๆ เป็นต้น (เช่น ที่ผ่านมาไทยกับเปรู หรือไทยกับนิวซีแลนด์มีการทำข้อตกลงทางการค้าต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดการลงทุนและการค้าขายที่เสรีมากขึ้น) รวมทั้งส่งเสริมการสร้างเครือข่ายการผลิตและการจำหน่ายสินค้าภายในภูมิภาค ให้เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก ประโยชน์ของ AEC ต่อคนไทยประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากการรวมตัวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC เกี่ยวข้องกับทุกคน ทุกภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจ ได้แก่ - นักธุรกิจ รวมถึง SMEs ได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงตลาดอาเซียนที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งในด้านการส่งออกสินค้าและการนำเข้าวัตถุดิบ ด้วยต้นทุนที่ลดลงจากการลด/ยกเลิกอุปสรรคทางการค้า ทั้งด้านภาษีและที่ไม่ใช่ภาษี รวมถึงการลด/ยกเลิกอุปสรรคด้านการค้าการบริการและการลงทุน และการอำนวยความสะดวกทางการค้าการลงทุน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศสมาชิกที่มีความได้เปรียบใน การแข่งขันและสามารถใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของแต่ละประเทศได้อย่างเต็มที่
- นักลงทุน ได้รับประโยชน์จากสิทธิในการลงทุนในประเทศสมาชิกอาเซียน โดยจะได้รับการปฏิบัติเสมือนกับเป็นนักลงทุนในประเทศนั้นๆ รวมถึงการได้รับความคุ้มครองการลงทุนด้วย นอกจากนี้ ยังได้รับประโยชน์จากการรวมตัวของตลาดทุนและการเปิดเสรีบริการด้านการเงินใน อาเซียน ทำให้มีการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่เสรีมากขึ้น และสนับสนุนธุรกิจร่วมทุนกับนักลงทุนในประเทศอื่นๆ ในอาเซียน และช่วยกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนไปยังต่างประเทศ
- ผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ ได้รับประโยชน์จากการเคลื่อนย้ายแรงงานมีฝีมือในอาเซียน ทำให้มีโอกาสในการเข้าไปทำงานในประเทศอาเซียนอื่นได้ง่ายขึ้น และยังช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานฝีมือภายในประเทศด้วย
- ผู้บริโภค ได้รับประโยชน์จากโอกาสในการเลือกซื้อสินค้าและบริการที่หลากหลายและมี คุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม รวมถึงการได้รับความคุ้มครองการบริโภคเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในการบริโภคสินค้าบริการข้ามพรมแดน โดยจะได้รับสินค้าบริการที่มีมาตรฐานกลางร่วมกันรวมถึงได้รับการดูแลจากความ ร่วมมือของหน่วยงานที่รับผิดชอบในอาเซียน
ดูเหมือนว่าจะมีโอกาสเปิดกว้างมากมายเหลือเกินสำหรับให้ผู้ประกอบการคน ไทยสามารถขยายตลาดสินค้าและบริการที่มีคุณภาพไปยังตลาดอาเซียนซึ่งมี ประชากรกว่าหกร้อยล้านคน แต่ในมุมกลับกันต่างประเทศก็สามารถเข้าถึงและมามีส่วนแบ่งตลาดในประเทศไทย ได้เช่นกัน ซึ่งอาจจะก่อผลเสียกับประเทศเรา ยกตัวอย่างเช่น - ถึงแม้การค้าขายในประเทศไทยจะขยายตัวอย่างน้อย 25% ในส่วนของอุตสาหกรรมบางอย่าง เช่น รถยนต์ การท่องเที่ยว การคมนาคม แต่อุตสาหกรรมที่น่าห่วงของประเทศไทยคือ การที่ใช้แรงงานเป็นหลัก เช่น ภาคการเกษตร การก่อสร้าง อุตสาหกรรรมสิ่งทอ จะได้รับผลกระทบ เนื่องจากฐานการผลิตอาจย้ายไปประเทศที่ผลิตสินค้าทดแทนได้ในต้นทุนที่ต่ำ กว่า เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ โดยผู้ลงทุนอาจย้ายฐานการผลิตจากประเทศไทยไปยังประเทศที่มีค่าแรงถูกกว่า เนื่องด้วยบางธุรกิจไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะมากนัก ค่าแรงจึงถูก
- ประเทศไทยจะไม่ขาดแรงงานที่ไร้ฝีมืออีกต่อไป เพราะแรงงานจะเคลื่อนย้ายอย่างเสรี จะมี ชาวพม่า ลาว กัมพูชา เข้ามาทำงานในไทยมากขึ้น และแน่นอนว่าคนเหล่านี้ก็จะมาแข่งขันกับคนไทยบางส่วนในตลาดแรงงานด้วยเช่น กัน
- เนื่องจากแรงงานมีฝีมือสามารถเคลื่อนย้ายไปทำงานที่ต่างประเทศได้ คนไทยที่ใช้ภาษาอังกฤษได้และมีความสามารถบางส่วนจะเคลื่อนย้ายตัวเองไปทำงาน ต่างประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (ที่มีสิงคโปร์เป็นหลัก) เพราะชาวไทยที่มีประสิทธิภาพปัจจุบันได้ค่าแรงถูกมาก จึงไม่แปลกหากจะเคลื่อนย้ายตัวเองไปทำงานในต่างประเทศที่ได้ค่าแรงสูงกว่า
- สาธารณูปโภคในประเทศไทยที่ปัจจุบันถือว่าค่อนข้างเพียบพร้อม หากเตรียมพร้อมไม่ดีอาจขาดแคลนได้เนื่องจากจะมีเพื่อนบ้านจากอาเซียนที่เข้า มาทำงานมาใช้ร่วมกันด้วย เช่น ชาวพม่ามาคลอดลูกในประเทศไทย ก็ต้องใช้โรงพยาบาลในประเทศไทย ทำให้เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ หรือหมอไม่เพียงพอ เป็นต้น
การเตรียมความพร้อมสำหรับ AECจากสภาพทางภูมิศาสตร์แล้วจะเห็นได้ว่าประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการท่อง เที่ยว การคมนาคมในด้านต่างๆ รวมไปถึงการบินอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะว่าอยู่ตรงจุดศูนย์กลางอาเซียนพอดี สภาพแวดล้อมที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันภายใน 3 ปีข้างหน้าย่อมเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน จะมีผลกระทบด้านดีคือ การขนส่งลอจิสติกส์ใน AEC จะพัฒนาอีกมาก การที่เราอยู่ตรงกลางทำให้เราขายของได้มากขึ้น เพราะเราจะส่งของไปท่าเรือทางฝั่งซ้ายก็ได้ ทางฝั่งขวาก็ได้ ที่ดินในไทยบริเวณดังกล่าวก็น่าจะมีราคาสูงขึ้น แต่ในทางตรงข้ามหากเราไม่ปรับตัวเตรียมพร้อม เราก็จะกลายเป็นเพียงแค่ทางผ่านธรรมดาๆ เท่านั้นเอง ภาพจาก futurity สิ่งที่เราควรจะเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลยก็คือ ภาษาอังกฤษ เนื่องจากจะมีคนอาเซียนเข้ามาอยู่ในประเทศไทยมากมายไปหมดและมักจะพูดภาษาไทย ไม่ได้ แต่จะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารแทน (AEC มีมาตรฐานแจ้งว่าจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางใน AEC) อย่างน้อยๆ เราจะได้สื่อสารทางธุรกิจได้ หากสื่อสารไม่ได้แล้วเรื่องอื่นก็คงเป็นไปไม่ได้เช่นกัน และสำหรับการทำธุรกิจในช่วงเวลาต่อจากนี้ไป ถ้ายังหวังว่าจะหาลูกค้าและครองตลาดแค่ในประเทศเท่านั้นก็อาจไม่เพียงพออีก ต่อไป เนื่องจากธุรกิจต่างชาติจะเข้ามาแข่งขันเพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดในประเทศ อย่างแน่นอน AEC จึงถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ธุรกิจและคนไทยต้องปรับตัวและเตรียมพร้อมให้ดี หากเป็นไปได้ก็ควรหาช่องทางเปิดตลาดออกไปในประเทศอาเซียนเพื่อเพิ่มโอกาสใน การเติบโตของธุรกิจ • • • การเปิด AEC เป็นการเปิดโอกาสให้กับคนที่พร้อม หากโอกาสเกิดแล้วคว้าไว้ไม่ได้ โอกาสนั้นก็จะกลายเป็นอุปสรรค นี่คงเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วที่ทุกคนจะตื่นตัวและเตรียมตัวกันให้พร้อม สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ ที่มา ASEAN Secretariat AEC ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กรมการค้าระหว่างประเทศ
|