หากยังจำกันได้ เฟซบุ๊กเคยประกาศในงานแถลงข่าวประจำปี f8 ว่าบริษัทเตรียมเปลี่ยนหน้าโปรไฟล์ผู้ใช้แบบใหม่ ในชื่อ "Timeline" โดยอธิบายว่า โพลไฟล์รูปแบบใหม่นี้ เปรียบเสมือนการบันทึกเรื่องราวในช่วงเวลาต่างๆ ของชีวิตของผู้ใช้นับตั้งแต่เกิด กระทั่งปัจจุบัน
 ทั้งนี้ เฟซบุ๊กได้เสนอคลิปวิดีโอแนะนำการใช้งานในชื่อ "Introducing Timeline -- a New Kind of Profile" และเชื่อว่าหลายท่านคงชื่นชอบกับรูปแบบการนำเสนอในคลิปวิดีโอที่คล้ายภาพยนตร์ส่วนตัวแสดงประวัติจาก Timeline ของผู้ใช้เฟซบุ๊กตั้งแต่เริ่มใช้งานจนถึงโพสต์ในเวลาปัจจุบันในรูปแบบเอนิเมชันสวยงามและทันสมัย

 เฟซบุ๊กก็ได้จับมือกับเอเจนซีที่ใช้ชื่อว่า Definition 6 และเปิดตัวเครื่องมือในชื่อ "Timeline Movie Maker" เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้เฟสบุ๊กสามารถ Export Timeline ของตนมาเป็นรูปแบบภายนตร์แสดงประวัติส่วนตัวแบบเดียวกับในคลิปวิดีโอ "Introducing Timeline -- a New Kind of Profile"
 โดยแอพพลิเคชัน Timeline Movie Maker อาจถือเป็นกลยุทธิ์ทางการตลาดของเฟซบุ๊ก ในการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กหันมาสนใจหน้าเพจแบบ Timeline ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ค่อนไปในทางลบอยู่ในปัจจุบัน

 สิ่งแรกที่จำเป็นต่อการสร้างคลิปวีดีโอคือ ผู้ใช้จำเป็นต้องมีรูปภาพที่อยู่ในอัลบั้มภาพถ่ายในเฟซบุ๊กอย่างน้อย 75 รูป จึงจะสามารถใช้งาน Timeline Movie Maker ได้ และรูปภาพ-คลิปต่างๆ จะดึงเฉพาะรูปที่ไม่ได้ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวพิเศษไว้ เช่น ภาพ-คลิปสำหรับเพื่อนเฉพาะคนหรือเฉพาะกลุ่ม ซึ่งรูปหรือคลิปดังกล่าวจะไม่ถูกดึงมาใช้สร้างเป็นคลิปวีดีโอ

 

 สำหรับการใช้งาน "Timeline Movie Maker" ผู้สนใจสามารถเริ่มได้จากเข้าสู่เว็บไซต์ www.timelinemoviemaker.com (แนะนำให้ใช้เว็บบราวเซอร์ Google Chrome ) จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Make Your Movie  แอพพลิเคชันจะให้ผู้ใช้เชื่อมต่อบัญชีเฟซบุ๊ก และตั้งค่าการมองเห็นเวลาต้องการแบ่งปันแอพพลิเคชัน ไปยังหน้าวอลล์ของตน

  เพื่อแสดงรายละเอียดของแอพฯก่อนเข้าใช้งาน ให้คลิกปุ่ม Log In With Facebook

 

 

  จากนั้นระบบจะทำการประมวลผลภาพและเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นบน Timeline ของผู้ใช้ให้โดยอัตโนมัติ

 

 

 และเมื่อขั้นตอนเสร็จสิ้น ระบบจะนำวิดีโอ Timeline ที่สร้างเสร็จขึ้นมาแสดงโดยอัตโนมัติ โดยภาพที่ถูกนำมาแสดงใน Movie Maker จะใช้วิธีการสุ่มตามเวลา ซึ่งรวมถึงภาพของผู้ใช้ที่ถูกบุคคลอื่นแท็ก ก็จะถูกดึงขึ้นมาเช่นกัน      

 หากผู้ใช้ยังไม่ถูกใจกับรูปภาพที่ระบบสุ่มดึงขึ้นมาในวิดีโอ ผู้ใช้ก็สามารถแก้ไขได้เองหลังจากวิดีโอดังกล่าวแสดงจนครบเวลา โดยการกดลบที่ภาพที่ไม่ต้องการให้แสดงในวิดีโอออกได้ และระบบจะขึ้นภาพที่ต้องการให้ ซึ่งผู้ใช้สามารถกดเลือกได้กว่าจะพอใจ เมื่อผู้ใช้ปรับแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้วให้กด Remake Your Movie จากนั้นระบบจะทำการประมวลผลค่าที่ปรับแต่งใหม่ทั้งหมดและแสดงวิดีโอผลลัพธ์ที่ได้ปรับแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ชมอีกครั้ง

 

 นอกจากนั้น การแก้ไขสามารถทำได้ตั้งแต่ การเปลี่ยนเสียงดนตรีประกอบ (Soundtrack) ที่มีให้เลือกตั้งแต่ Original, Nostalgic, Cinematic, Romantic และ Playful ซึ่งผู้ใช้สามารถฟังเพื่อเพื่อทดสอบได้ก่อน

 

 สุดท้ายสำหรับผู้ใช้ Timeline Movie Maker ที่ต้องการนำคลิปวิดีโอของตนไปเผยแพร่ยังหน้าวอลล์ของตนสามารถทำได้ด้วยการกด Share ตามภาพประกอบด้านบน

 

ที่มา : มติชนออนไลน์