หน้าแรก | ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด | ตลาดออนไลน์ | อัตราค่าลงโฆษณา
www.cmprice.com เว็บไซต์ของฅนเชียงใหม่ ผ้าพันคอราคาถูก ราคาส่ง เชียงใหม่ ลำพูน

หน้าแรก » เว็บบอร์ด
ห้องแก๋งโฮ๊ะ
เว็บบอร์ด » ห้องแก๋งโฮ๊ะ
รายละเอียดของห้อง : พูดคุยกันเรื่องทั่วๆ ไป, สัพเพเหระ, อยากถาม อยากตอบ
กระทู้ที่ตอบกลับล่าสุด | สร้างกระทู้ใหม่ | ดูกระทู้ทั้งหมด | ค้นหากระทู้ :
บ้านผมถูกไฟไหม้เพราะโคมลอยครับ

แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV
บ้านผมถูกไฟไหม้เพราะโคมลอยครับ
โพสต์โดย โน้ต cmprice , วันที่ 02 พ.ย. 57 เวลา 08:07:37 IP: Hide ip    


กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน


 

© เนื้อหาข่าว/กระทู้

 

ขอเกริ่นก่อนนะครับ ว่าไม่เคยตั้งกระทู้มาก่อน หากใช้ภาษาได้ไม่ดีพอ หรือผิดพลาดประการใด ขออภัยล่วงหน้าครับ
กระทู้นี้ผมอยากแชร์ประสบการณ์ ฝากให้ทุกท่านลองพิจารณาดูนะครับ ขอเข้าเรื่องเลยแล้วกัน

ตอนนั้นผมเรียนอยู่ ม.4 บ้านของผมถูกไฟไหม้เมื่อประมาณ 7-8 ปีที่แล้วในคืนวันลอยกระทงครับ เนื่องจากโคมลอยมาตกใส่หลังคา คือบ้านมีลักษณะเป็นเต้นท์ผ้ายาง เรียงต่อๆกันหลายหลังครับ ก็ถือว่าใหญ่พอสมควรเพราะว่าเป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์ แต่ว่าภายในก็มีการโบกปูนทำเป็นห้องๆสำหรับออฟฟิศและอยู่อาศัยแน่นหนา ภายในก็จะมีเฟอร์นิเจอร์มากมาย ตั้งแต่โซฟา ตู้ โต๊ะ เตียง ที่นอน ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไม้และที่นอนกาบมะพร้าวครับ(เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี) ทีนี้ตอนที่โคมลอยมาตก ให้จินตนาการว่ายางโดนเผาครับ มันจะหยด เลยลุกลามรวดเร็วมาก จนไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เสียหายทั้งหมด เหลือเพียงแค่ตู้เซฟ กับรถครับที่ไม่ถูกเผา นี่คือเรื่องย่อ แต่ผมจะขอเล่าถึงเหตุการณ์อย่างละเอียดนะครับ เพื่อสะท้อนจิตใจของผมและครอบครัวว่ามันเป็นอย่างไร ณ ตอนนั้น


เรื่องมีอยู่ว่าผมออกไปงานวันลอยกระทงกับเพื่อนที่ศาลากลางครับ (อ้อ! ลืมบอกว่าบ้านของผมอยู่แถวท่าน้ำนนท์) ก็ไปช่วยแม่เพื่อนขายกระทง เพราะเราว่างๆ กะว่าเสร็จงานจะได้ลอยกระทงกับเพื่อนด้วย กว่าจะแยกกัน กลับมาถึงบ้านตัวเองก็เที่ยงคืนกว่าครับ วันนั้นบอกตรงๆว่าเพลียแล้วคิดว่าคงหลับยาวแน่ๆหลังจากผ่านมาทั้งวัน พอกลับมาถึงเตรียมตัวจะนอน แม่ก็มาทักครับ แกยังไม่หลับ ก็บอกผมว่าอยากลอยกระทง พาไปลอยกระทงตอนนี้ได้ไหม? เพราะแม่ตัดผมตัดเล็บน้องๆใส่กระทงไว้(ตามความเชื่อของแม่) แต่ยังไม่ได้เอาไปลอย เพราะน้องยังเล็ก ไม่อยากพาออกไปตอนคนเยอะๆ กลัวว่าจะอันตราย ตอนนั้นน้องยังแบเบาะครับ ส่วนอีกคนอยู่อนุบาล ผมโตมากเพราะคนละพ่อ // ดูแกไม่สบายใจครับ ถ้าไม่เอาไปลอย แกตั้งใจไว้แล้ว ก็ไม่อยากเอาเศษผมกับเล็บน้องไปทิ้ง ด้วยว่าท่าน้ำมันไม่ได้ไกลมากด้วย ผมเลยพาแม่เดินออกมากันสองคนที่ท่าน้ำนนท์

ตอนนั้นคนซาหมดแล้วครับ หลังจากลอยกระทงเสร็จ เราก็แวะทานก๋วยเตี๋ยวกัน ใช้เวลาอยู่พักหนึ่ง จากนั้นในขณะที่กำลังเดินกลับบ้าน ก็เห็นมีคนวิ่งแตกตื่นแล้วตะโกนว่าไฟไหม้ๆ ตอนนั้นยังไม่ได้คิดอะไร แต่ก็ตกใจ เลยมองตาม ก็เห็นฟ้าบริเวณนั้นเป็นสีแดงครับ แม่ก็บอกว่าทางนั้นมันแถวบ้านเราเลย ใจไม่ดีเนอะ ผมก็บอกแม่ว่าอย่าคิดมาก แล้วก็พากันรีบเดินกลับอย่างไว สักพักก็มีคนขี่จักรยานวิ่งสวนมาครับ แล้วตะโกนเหมือนกันว่าไฟไหม้ๆ เราเลยโบกให้เขาหยุดแล้วถามว่าไฟไหม้ที่ไหน? พอเขาตอบว่าร้านเฟอร์นิเจอร์เท่านั้นแหละครับ แม่กรี๊ดเลย แล้ววิ่งนำผมไปอย่างเร็ว

แม่กรี๊ดว่าลูกกูๆ! (ขออภัยถ้าไม่สุภาพนะครับ) ผมรีบวิ่งตามแม่ไป จับมือ แล้วบอกใจเย็นๆ ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก ได้แค่วิ่งไปให้เร็วที่สุดที่จะทำได้ ประคองแม่ด้วย กลัวแม่จะล้ม เพราะแม่ดูสติแตกแล้ว เราก็กลัวมาก ในใจยังคิดว่าหวังว่าคงยังไม่น่าจะใหญ่โต แต่เปล่าเลยครับ ผิดคาด พอใกล้ถึงบ้านเราก็เห็นคนเป็นร้อย(ไม่เว่อร์นะครับ) มุงรอบบ้านเรา พร้อมกับรถดับเพลิงอีก 3 คัน กำลังฉีดน้ำ ตอนนั้นไฟมันท่วมจนพีคมากแล้ว รัศมีสูงประมาณตึก 3 ชั้น (นี่คือมองจากไกลๆนะครับ ยังไม่ถึง) ตอนนั้นเข่าอ่อน เราสองคนแม่ลูกวิ่งแทรกผลักคนอื่นออกหมดเลย แม่ก็ตะโกนหาน้องเหมือนคนสติแตก ผมก็ด้วยครับ คุมอะไรไม่อยู่เลย จนกระทั่งชาวบ้านรั้งเราทั้งคู่ไว้แล้วบอกว่า เด็กๆออกมากันหมดแล้ว เราถึงหยุดแล้วมันตื้อไปหมด ถามชาวบ้านว่าคนในบ้านอยู่ตรงไหนกัน ก็มีคนพาเราไปเจอน้องๆกับพ่อเลี้ยงครับ นั่งอยู่ริมฟุตบาตไกลๆ มือนึงอุ้มคนเล็ก อีกมือจับคนโต มันทั้งโล่งใจทั้งเศร้าใจ หลายอารมณ์มาก สงบใจได้ไม่ทันถึงนาทีก็ต้องเหลียวกลับไปมองครับ ว่าไฟยังไหม้อยู่

เรากลับไปถามหาสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆจากชาวบ้านครับ ว่าใครอยู่ไหนบ้าง?  เพราะอยู่กันเยอะ มีครอบครัวลุงด้วย มีลูกๆ แล้วก็คนงานอีกหลายคน ก็ทำให้รู้ว่าตอนนี้ทุกคนออกมาแล้ว แต่เห็นว่ามีคนแก่ติดอยู่!! ตอนนั้นหัวใจมันระเบิดเลยครับ นึกได้ว่ามีคุณตาอยู่ด้วย เวลานั้นมันคิดอะไรไม่ทันครับ แล้วทั้งหมดที่เล่าก็รวดเร็วมาก คุณตาของผมเป็นอัมพฤกด้วย ขยับได้แค่ครึ่งตัวด้านขวา ฉะนั้นแกไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แน่ พอแม่ได้ยินอย่างนั้นก็กรี๊ดอีกรอบครับ ทีนี้จะวิ่งฝ่าไฟเข้าไป แกตะโกนเรียกคุณตาว่าพ่อๆ! ผมนี่กอดแม่แน่นเลย แม่ดื้อจะลุยเข้าไปให้ได้ ซึ่งผมมองด้วยสายตาแล้วมันไม่ทันจริงๆครับ ไฟสูงมาก แม้จะยังมีหลายส่วนยังไม่ถูกเผา แต่ว่าข้างในมันต้องเหมือนเขาวงกตไฟแน่ๆ เพราะตู้ เตียง วางเรียงกั้นเป็นทางเดินไว้ แม่ไม่ไหวแน่ถ้าเข้าไป ตัวผมเองก็ด้วย แม่กรี๊ดๆทั้งดิ้นทั้งทุบให้ผมปล่อย ร้องไห้สติแตก ผมก็ไม่ต่างกัน แต่ผมเสียแม่ไปไม่ได้ อยากเข้าไปช่วยตา แต่ต้องตัดใจ ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายมาก เพราะต้องประคองแม่ไว้ ในขณะที่จิตใจของตัวเองก็แย่พอกัน

อยู่ๆลุงของผมก็วิ่งมาจากอีกทางครับ แกวิ่งฝ่าคนเข้ามาพร้อมกับชาวบ้านที่อาสา แล้วอ้อมไปหลังบ้าน ซึ่งเป็นซอกแคบๆติดกับบ้านคนอื่น พอให้เดินได้แทรกเขาไปได้ พวกเขาเอาค้อนทุบๆๆๆกำแพงจนแตกในที่สุด พอกำแพงแตกเท่านั้นแหละครับ ไฟพุ่งฟู่ๆๆออกมาจากช่องเลย แต่ยังพอมองเห็นว่าข้างในยังไม่ไหม้หมดครับ พวกเขาก็เข้าไปในตัวบ้าน สักพักลุงก็แบกคุณตาอย่างทุลักทุเล พยายามจะออกมาจากกำแพงแตกๆ ผมกับแม่ก็ทำได้แค่ภาวนาครับ เข้าไปช่วยไม่ได้จริงๆ เพราะไฟพวยพุ่งออกมาเป็นระยะ สุดท้ายลุงก็ร้องขอความช่วยเหลือ จนอาสารุดเข้าไปแทน แล้วลุงก็วิ่งหนีออกมาพร้อมกับเนื้อตัวที่ไหม้พองและเยิ้มรุนแรงจากการถูกเผา ลุงไหว้แม่แล้วบอกว่าพี่ไม่ไหวจริงๆ คือทุกคนเข้าใจ แล้วหันกลับไปมองที่เดิม ก็เห็นพี่อาสาแบกคุณตาขี่หลังครับ ดูทุลักทุเลเหมือนกัน เนื่องจากทางแคบและลึกกว่าจะออกมาได้ แล้วคุณตาก็ค่อนข้างตัวใหญ่ ประกอบกับพื้นตรงนั้นเป็นดินโคลนครับ ชุ่มไปด้วยน้ำจากรถดับเพลิงด้วย พี่คนนั้นเลยลื่นหงายหลัง และทำคุณตาหัวฟาดกับพื้น พอพี่เขาลุกได้ก็ไหว้คุณตาบอกว่าผมขอโทษ ผมไม่ไหวๆ แล้ววิ่งออกมาเลยครับ ตอนนั้นคุณตาตะโกนไล่หลังมาว่าไอ้หนุ่ม อย่าทิ้งตาๆ คือบอกตรงๆว่าใจจะสลายที่ทำอะไรไม่ได้เลย // พี่อาสาวิ่งออกมาทั้งกราบทั้งไหว้พวกเราครับ ตอนนี้ทั้งตัวพี่เขาเองก็ชุ่มไปด้วยแผลไฟไหม้ครับ เราเข้าใจว่าทุกคนทำสุดความสามารถแล้ว เราสงสารเขาด้วยซ้ำที่เข้าไปเสียงให้ มองกลับไปคือเห็นไฟมันพุ่งๆมาลนคุณตาครับ ในลักษณะที่แกนอนดิ้นๆเหมือนจะขาดใจ ทำได้แค่พยายามสาดน้ำเข้าไปให้ไฟมันดับบ้าง แล้วก็หาทางจะเข้าไปช่วยต่อ เสียงแกแผ่วลงๆ ไฟก็ยังคงสูงและลามอยู่อย่างนั้น มันโหดร้ายมากที่เราทำได้แค่ไม่หลบตา มองดูแกอย่างนั้น พยายามกันอยู่นานกว่าจะสามารถกลับไปช่วยแกได้อีก พอหามคุณตาออกมาได้ก็สายไปแล้วครับ แกไปแล้ว

หลังจากนั้นก็มีรถพยาบาลมาพาคุณตาไปครับ พร้อมกับยืนยันว่าไม่สามารถช่วยแก เราให้ลุงกับพี่อาสาไปกับรถพยาบาลเพราะแผลมันแย่มากครับ // ถึงตอนนี้ไฟก็ยังคงไหม้อยู่ เราเดินหาสมาชิกคนอื่นที่เหลือแล้วพากันมองไฟลุกต่อไปครับ ตัดใจแล้ว ทีมกู้ภัยบอกว่าดับไม่ได้แล้วครับ ตอนนี้เน้นสกัดไม่ให้ลามไปบ้านอื่น ใช่ครับ ในสายตาเรามันก็ดูจะไม่เหลืออะไรให้หวังแล้ว ชาวบ้านมองเราด้วยความสงสาร หาน้ำหาผ้าห่มมาให้ เรากอดกันร้องไห้มองดูไฟเผาทุกอย่าง จนมันแผ่วลงๆ แล้วในที่สุดก็ดับครับ

เวลาประมาณตีห้า บ้านที่เคยมีตอนนี้เหลือแค่ซากตะโกครับ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและแจ้งว่า พบอีกหนึ่งศพ เป็นเถ้ากระดูกในตัวบ้าน ทราบภายหลังว่าเป็นพี่คนงานที่น่าสงสารอีกคนที่เราคุ้นเคยดีครับ แกเป็นคนพิการ หูหนวกเป็นใบ้ คืนนั้นมีงานฉลอง พี่เขาก็คงจะเมาด้วยแล้วคงไม่ได้ยินด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นกว่าจะรู้ตัวก็คงสาย นอกจากนี้ยังพบว่ามีโครงเสาเหล็กของเต้นท์ทับหน้าอกแกด้วย สะเทือนใจมากครับ แล้วก็เลยพบหลักฐานของเหตุเพลิงไหม้นี้ ว่าคือซากของโคมลอย ตกอยู่บริเวณที่นอนห้องผม และเป็นห้องต้นเพลิง // เรื่องนี้ขนลุกมากครับ ทำให้ย้อนคิดไปว่าถ้าแม่ไม่ชวนผมออกมา ตอนนี้ผมคงไม่รอด

หลังจากที่เจ้าหน้าที่เช็คทุกอย่าง เราจึงมีโอกาสเดินสำรวจรอบๆ มันน่าเศร้าใจมากครับที่เห็นทุกอย่างเป็นเศษเถ้าถ่าน มันหมดแล้วจริงๆ ผมไม่แน่ใจว่าตอนนั้นเราสูญไปเท่าไหร่ แต่มันหนักหนาจริงๆ ไม่มีที่ซุกหัวนอน จนต้องไปอาศัยชาวบ้านแถวนั้นอยู่พักใหญ่ ทุกท่านใจดีกับเรามากจริงๆ สภาพเราตอนนั้นมันแย่ที่สุด แต่ละคนเลอะเขม่า หัวฟู รุงรัง คราบน้ำตาเปรอะเหมือนคนบ้า กว่าจะคิดว่าชีวิตมันต้องดำเนินยังไงต่อไปมันใช้เวลามากครับ

ตอนนี้ครอบครัวเราผ่านจุดนั้นมาแล้ว ค่อยๆเริ่มกันใหม่ และมันคงไม่มีทางลืมง่ายๆ เราไม่ได้รับอะไรนอกจากการช่วยเหลือเล็กน้อยจากทางรัฐ เพราะเราทำประกันไม่ได้ครับ ตัวบ้านมันไม่ได้มาตรฐาน(เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจรายละเอียด เพราะตอนนั้นยังเด็ก อยากให้ข้ามไปนะครับ) สำหรับทั้งหมดที่ผมเขียนมานี้ ผมอาจจะเขียนน่าเบื่อ ยืดเยื้อ แต่ผมเขียนด้วยความรู้สึกที่มันเจ็บปวดจริงๆ มันโหดเกินไปจริงๆ เชื่อไหมครับ? ว่าพวกเราไม่ได้คิดจะโทษใครเลย กลับโทษตัวเองในหลายๆเรื่อง เพราะเราไม่รู้จะโทษใคร แล้วไม่รู้ว่าโทษแล้วจะได้อะไร ตอนนี้เมื่อมองกลับไป สำหรับผมมันเป็นบทเรียนราคาแพงมาก ผมคิดว่ากว่าจะผ่านมาได้ ทุกคนเข้มแข็งขึ้นมาก ผมคิดว่าผมโตขึ้นเยอะจากเรื่องนี้ เพราะมันทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงจนถึงปัจจุบัน


อย่างไรก็ตาม ผมอยากฝากเป็นสิ่งเตือนใจถึงทุกท่านในสังคมนะครับ กรุณาเถอะครับ อย่าให้ใครต้องเจอเรื่องราวแบบนี้เลย ตัวผมเองก็ไม่เคยลอยโคมสักครั้งในชีวิต ผมเลยรู้สึกว่ามันก็ตลกดีที่กลับเป็นฝ่ายมาโดน // สำหรับประเพณี มันเป็นสิ่งสวยงามครับ ผมไม่ขอร้องให้หยุด แต่ผมอยากถามว่า มีสักกี่คนครับ? ที่คิดว่าหลังจากที่เราลอยความทุกข์ของตนไปกับโคมไฟแล้ว หลังจากนั้นมันจะเป็นอย่างไรต่อ? มันจะลอยขึ้นไปสู่ฟากฟ้าไม่รู้ดับ หรือหวังว่ามันคงค่อยๆมอดและล่วงลงอย่างสงบ? หรือเราจะให้ใครเก็บมันหลังจากนั้น? // ผมเชื่อว่าทุกท่านปล่อยโคมด้วยเจตนาอันดีครับ ฉะนั้นผมก็หวังเช่นกันว่าเมื่อท่านได้อ่านเรื่องจริงของผมแล้ว อาจเป็นอุทาหรณ์ที่ท่านจะสามารถนำไปเล่าต่อๆกันได้ // ประเพณีที่สวยงาม ผมเชื่อว่ามันจะยังคงสวยงาม หากผู้ที่สานต่อมีความเข้าใจ และสืบสานคงไว้ให้เหมาะสมตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง ไม่จำเป็นต้องเลิก แต่ขอให้สานต่ออย่างประณีต อย่าทำไปด้วยฉาบฉวย ขอเท่านี้แหละครับ

ที่มา http://pantip.com/topic/32794333

 


Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV


ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน

 

 

 

 

 



แจ้งลบกระทู้นี้

อ่าน 2875

แสดงความคิดเห็น โดย โน้ต cmprice IP: Hide ip , วันที่ 02 พ.ย. 57 เวลา 08:07:37
 

 

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 

 
กรุณาอ่าน
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใด ที่ขัดต่อกฎหมายและ ศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ 08-0500-1180 เพื่อให้ผู้ควบคุม ระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
 
 


ปิดโฆษณานี้X

ผ้าพันคอราคาถูก

ปิดโฆษณานี้X

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 


หน้าแรก l หางานเชียงใหม่ | ตลาดออนไลน์ | เว็บบอร์ด | อัตราค่าลงโฆษณา | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี | ติดต่อเรา


เพื่อนบ้านเราทั้งหมด วิธีแลก Link

© cmprice.com since 14 Jan 2005
E-mail: info@cmprice.com
FaceBook : facebook.com/cmprice.fc
TEL. 08-0500-1180
Line id: cmprice









www.cmprice.com ที่นี่มีสิ่งดีๆ รอคุณอยู่
ผู้สนับสนุน แบบพิเศษ

บ้านหนองช้างคืน | เครื่องฟอกอากาศ เชียงใหม่-ลำพูน | ผ้าพันคอราคาถูก | ของชำร่วย | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี