หน้าแรก | ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด | ตลาดออนไลน์ | อัตราค่าลงโฆษณา
www.cmprice.com เว็บไซต์ของฅนเชียงใหม่ เครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!

หน้าแรก » เว็บบอร์ด
ห้องแก๋งโฮ๊ะ
เว็บบอร์ด » ห้องแก๋งโฮ๊ะ
รายละเอียดของห้อง : พูดคุยกันเรื่องทั่วๆ ไป, สัพเพเหระ, อยากถาม อยากตอบ
กระทู้ที่ตอบกลับล่าสุด | สร้างกระทู้ใหม่ | ดูกระทู้ทั้งหมด | ค้นหากระทู้ :
ทำไมต้อง “ครูบา 'เจ้า' ศรีวิชัย” เพราะอะไร เหตุผลใด ต้องอ่าน!

แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV
ทำไมต้อง “ครูบา 'เจ้า' ศรีวิชัย” เพราะอะไร เหตุผลใด ต้องอ่าน!
โพสต์โดย โน้ต cmprice , วันที่ 17 มี.ค. 58 เวลา 14:08:25 IP: Hide ip    


กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน


 

© เนื้อหาข่าว/กระทู้

 


บทความ จาก Pensupa Sukkata
ภาพ ณ พระธาตุดอยงุ้ม โดย
SuperDOM

 

มีหลายคนถามว่า แต่ไหนแต่ไรมา ก็เคยเห็นคนทั่วไปเรียกและเขียนกันว่า “ครูบาศรีวิชัย” มานานหลายปีดีดัก แต่แล้วทำไม จู่ๆ ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมานี้ คนล้านนาจึงตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้คำว่า “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” แทนที่คำว่า “ครูบาศรีวิชัย” เฉยๆ

 

เกิดปรากฏการณ์อะไรขึ้นหรือ ในฐานะที่ตัวดิฉันเองมีส่วนเป็นตัวตั้งตัวตี เป็นผู้เสนอให้ “มูลนิธิสถาบันครูบาเจ้าศรีวิชัย” ใช้คำว่า “ครูบาเจ้า” ไม่ใช่ “ครูบา” ดิฉันขอออกมารับผิดชอบ และทำหน้าที่อธิบายเหตุผลของข้อเสนอดังกล่าว

 

มิใช่เสนอเพราะเห็นว่า “ครูบารูปอื่นๆ ยุคนี้ ใครๆ เขาก็เรียกกันว่าครูบาเจ้ากันทั้งนั้น ไม่ว่าครูบาเจ้าเทือง ครูบาเจ้าอริยชาติ ฯลฯ แล้วทำไมระดับครูบาศรีวิชัย จะใช้ครูบาเจ้าไม่ได้”

 

นั่นไม่ใช่เหตุผล

 

หรือเป็นเพราะว่า “กระแสคนทั้งในลำพูน-เชียงใหม่ ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่ากลุ่มพระเครื่องเชียงใหม่ที่จัดงาน “จอบแรกครูบา” ก็ดี หรือ “กลุ่มธรรมยาตราวิถีครูบา จากลี้ถึงบ้านธิ” ของลำพูนก็ดี ใครๆ เขาก็หันมาใช้คำว่า “ครูบาเจ้า” กันแล้วทั้งนั้นเพื่อเป็นการยกย่องหรือแยกให้ครูบาเจ้าศรีวิชัยโดดเด่นเหนือครูบารูปอื่นๆ แล้วจะให้มูลนิธิสถาบัน ใช้แค่ครูบาศรีวิชัยอยู่องค์กรเดียว เดี๋ยวจะตกรุ่น ไม่ร่วมกระแส ได้อย่างไรกัน

 

นั่นก็ไม่ใช่มูลเหตุ

 

เหตุผลที่แท้จริงก็คือการค้นพบหลักฐานสำคัญที่เป็นลายลักษณ์อักษรแห่งคำที่ใช้เรียกขานนามของ “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” ว่ามีการเรียกว่า “ครูบาเจ้า” จริง หาใช่เป็นคำที่เพิ่งอุปโลกน์ขึ้นมาในยุคหลังๆ เพื่อต้องการจะยกย่องท่านให้ออกหน้าออกตาเกินเหตุไม่

 

หลักฐานเหล่านี้ พบทั้งในจารึกอักษรธรรมล้านนา(ตั๋วเมือง) ที่เขียนโดยเหล่าลูกศิษย์ผู้ติดสอยห้อยตามอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่สมัยที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยยังมีชีวิตอยู่ เป็นจารึกที่พบมากระหว่างปี พ.ศ.2469-2478 เขียนโดยลูกศิษย์ผู้มีนามว่า “ครูบากัญจนะ” (หมายเหตุอย่าสับสนกับ ครูบามหาเถรกัญจนะอรัญวาสี แห่งวัดสูงเม่นเมืองแพร่  ท่านหลังนี้มีชีวิตร่วมสมัยกับรัชกาลที่ 3-4 เกิดก่อนครูบาเจ้าศรีวิชัยร่วม 90 ปี)

 

ครูบากัญจนะ ผู้เป็นลูกศิษย์ครูบาเจ้าศรีวิชัยมีอีกนามว่า “กัญจนภาพ” หรือ  “หนานกั๋น”  เนื่องจากบั้นปลายชีวิตสึกออกมา เป็นชาวแจ้ห่ม เมืองลำปาง ถือเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิที่ “ดูตาก็รู้ใจ” ว่า “จะสนองตอบความต้องการของครูบาเจ้าศรีวิชัยอย่างไรในเรื่องการปฏิสังขรณ์วัด”

 

เป็น “มือก่อสร้างตัวฉกาจ” อีกคนหนึ่ง ที่มีบทบาทสำคัญสูสีกับ “ครูบาอภิชัยขาวปี” ครูบาเจ้าศรีวิชัยมอบหมายให้ครูบากัญจนภาพดูแลวัดที่ควรจะสร้างและบูรณะทั้งหมด ในสายตั้งแต่แจ้ห่ม เมืองปาน งาว วังเหนือ พะเยา แม่ใจ พาน

 

โชคดีที่ครูบากัญจนภาพเป็นพระที่ชอบจดชอบจาร  ทำให้วัดทุกแห่งที่ท่านได้รับมอบหมายจากครูบาเจ้าศรีวิชัยให้ควบคุมดูแลการก่อสร้างนั้น ครูบากัญจนภาพได้ทำจารึกบนแผ่นปูนไว้หมดทุกแห่ง  ตอนนี้เท่าที่พบมีจำนวนมากกว่า  20 ชิ้นแล้ว

 

ข้อสำคัญ ทุกหลักเวลาจะกล่าวถึงครูบาเจ้าศรีวิชัย ท่านจะเขียนคำว่า “ครูบาเจ้าศรีวิไชยชนะ” บางหลักใช้ “ครูบาหลวงไชยาภิกขุ” บางทีเขียนรวมเป็น “ครูบาเจ้าหลวงสีวิไชย” ก็มี

 

นี่คือหลักฐานสำคัญจากลูกศิษย์ตัวเป็นๆ ที่มีอายุร่วมสมัยคอยรับใช้ครูบาเจ้าศรีวิชัย หาใช่หลักฐานที่มาต่อเติมเสริมแต่งมาเรียกขานกันในภายหลังไม่

 

บางทีหลักฐานชิ้นนี้ อาจะทำให้หลายท่านทักท้วงว่า ก็แน่นอนล่ะ เพราะว่าเขียนโดยลูกศิษย์ก้นกุฏิ ก็ย่อมเคารพนบน้อม (โปร) ครูบาอาจารย์ของตนอย่างสูงสุดเป็นธรรมดา แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ในสายตาของคนอื่นที่ไม่ใช่ลูกศิษย์ จะเรียกท่านในเชิงยกย่องดุจเดียวกันด้วยหรือไม่

 

ถ้าเช่นนั้น จะขออ้างอิงหลักฐานจาก “คนอื่น” ที่ไม่ใช่ลูกศิษย์ของท่านอีกชิ้น จะได้ทราบว่าในสายตาคนทั่วไป เรียกท่านว่าอย่างไรกันแน่ ในยุคสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่

 

พบหลักฐานเป็นบันทึกจาก “พระครูศรีวิราชวชิรปัญญา” ผู้เป็นเจ้าคณะแขวงเมืองพยาว (พะเยา) ท่านนี้มีอายุมากกว่าครูบาเจ้าศรีวิชัยถึง 20 กว่าปี  และมีสมณศักดิ์เป็นถึง “พระครู” ที่ได้รับการแต่งตั้งจากมหาเถรสมาคมส่วนกลาง เป็นพระผู้ใหญ่ที่ได้รับการเคารพยกย่องจากคนทั่วล้านนา

 

แต่ก็ยังเขียนจดหมายไปถึงครูบาเจ้าศรีวิชัย โดยข้อความในบันทึกทั้ง 10 กว่าฉบับนั้น (หมายถึงส่งตรงให้ครูบาเจ้าศรีวิชัย 4 ฉบับ และที่เหลือส่งไปขอร้องเจ้านายฝ่ายเหนือเมืองต่างๆ ให้ช่วยคะยั้นคะยอครูบาเจ้าศรีวิชัยยอมรับเป็นประธานในการบูรณะวัดพระเจ้าตนหลวงหรือวัดศรีโคมคำ อีกแรงหนึ่งคล้ายๆ  ขอให้ช่วยกันล็อบบี้)  จดหมายทุกฉบับใช้คำว่า “พระครูบาเจ้าศรีวิชัย” บ้างก็ “สวาธุเจ้าศรีวิชัย” ทั้งสิ้น

 

อันที่จริง คนเหนือก็เรียกขานเจ้าอาวาสวัดว่า “ตุ๊เจ้า” กันอยู่แล้ว เพราะมาจากคำว่า “สวาธุเจ้า” มิได้หมายความว่า เจ้าอาวาสรูปนั้นจะต้องมีเชื้อสายเจ้านายโดยชาติกำเนิด หากแต่ความที่มีศีลธรรมเหนือกว่าฆราวาส  ชาวบ้านจึงมองว่า “สถานะของพระมิได้แตกต่างไปจากสถานะของเจ้าแต่อย่างใด” ทำให้เกิดมีคำเรียกขานว่า “สวาธุเจ้า” ควบคู่ไปกับการที่ชาวบ้านเคารพให้เกียรติ “เจ้านาย” จน “สวาธุเจ้า” กร่อนกลายมาเป็น “ตุ๊เจ้า” ที่เราคุ้นหูคุ้นปาก

 

ดังนั้น “ครูบาเจ้า” มิใช่เป็นคำใหม่ มีการใช้เรียก “พระสงฆ์ที่ทรงภูมิรู้ ภูมิธรรม ภูมิปราชญ์” กันมานานโขแล้ว พบคำเรียกนี้ตามจารึก คัมภีร์ใบลานนับพันผูก ตั้งแต่ยุค 300 กว่าปีที่ผ่านมา การเรียกขานพระภิกษุผู้ทรงสมณธรรมรูปใดรูปหนึ่งว่า “ครูบาเจ้า” จึงไม่ใช่เป็นเรื่อง “อุกอาจ” ในทำนองยก “พระชาวบ้าน” ขึ้นเทียบกับ “เจ้านาย” และมิใช่ว่าจะเรียก “ครูบาเจ้าจำเพาะแต่ครูบาเจ้าศรีวิชัยเพียงรูปเดียวไม่” ยังพบว่าสามารถเรียกขานกับครูบารูป อื่นๆ ได้ด้วยเช่นกัน

 

ทีนี้ก็มาถึงคำถามที่ว่า  ในเมื่อเคยมีการเรียกขานครูบาเจ้าศรีวิชัยด้วยคำว่า “ครูบาเจ้า” กันมาก่อนแล้วในช่วงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่  แต่แล้วทำไมคำว่า “ครูบาเจ้า” จึงหายไป เหลือแต่คำที่ได้ยินคุ้นหูกันมากกว่าคือ “ครูบาศรีวิชัย” ในช่วง 3-4 ทศวรรษที่ผ่านมานี้ เพราะเหตุไร?  ทั้งๆ ที่ผู้คนก็นิยมในตัวท่านมาโดยตลอด

 

คำตอบก็คือ ในช่วงเวลา 3-4 ทศวรรษดังกล่าว ผู้ที่มาเรียกขาน "ครูบาศรีวิชัย"  ส่วนใหญ่เป็น “นักคิดนักเขียนจากภาคกลาง” เป็น “คนจากนอกพื้นที่” หรือนักวิชาการด้านรัฐศาสตร์การเมืองหรือผู้สนใจบทบาทความเคลื่อนไหวของครูบาเจ้าศรีวิชัยในยุคปฏิรูปวงการสงฆ์ พวกเขาจึงเข้ามาศึกษาค้นคว้าและเขียนบทความตีพิมพ์เผยแพร่ถึงชีวิตของครูบาเจ้าศรีวิชัย เพื่อตอบสนองมิติต่างๆ ที่ตนสนใจ โดยไม่ได้ให้ความสำคัญหรือมีความละเอียดอ่อนมากพอต่อสรรพนามที่ควรจะใช้เรียกท่าน คือมองว่าจะใช้คำไหนก็มีค่าเท่ากัน ตกคำว่า “เจ้า” ก็ไม่ได้เสียหายอะไร ดีกว่าตกคำว่า “ครูบา”

 

คือวางน้ำหนักไว้ที่  "ครูบา"  ไม่ได้วางน้ำหนักไว้ที่  "เจ้า"  หรือ  "ไม่เจ้า" 

 

สังเกตได้จากเอกสารเหล่านั้น  มักพยายามหาคำอธิบายว่า  "ครูบา"  คืออะไร  เหมือนหรือต่างจาก  "ตนบุญ" อย่างไร 

 

อีกทั้งบุคคลเหล่านี้อาจไม่ใช่นักภาษาศาสตร์ ไม่เคยเห็นตัวอักษรต้นฉบับในจารึกคัมภีร์ใบลานต่างๆ ที่คนร่วมสมัยกับครูบาเจ้าศรีวิชัยเขาเขียนกัน จึงได้ใช้คำว่า “ครูบาศรีวิชัย” เฉยๆ

 

เมื่อกาลเวลาผันผ่าน มีผู้ศึกษาสืบค้นสืบเสาะหาหลักฐานที่มีการเขียนถึงท่านมากขึ้น เริ่มมีการสัมภาษณ์คนเฒ่าคนแก่อายุ 80-90 ปี จึงพบว่ามีการใช้คำว่า “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” มาก่อนแล้ว จึงได้นำคำนี้มาปัดฝุ่นใช้ตามงานอภิปราย  กิจกรรมเวทีเสวนาต่างๆ  หากจัดโดยคนในพื้นที่ล้านนา  จะหันมาใช้คำว่า “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” กันอย่างเป็นกิจจะลักษณะมากยิ่งขึ้น (แน่นอนว่าหัวจิตหัวใจของคนเหนือเอง ก็ย่อมมีความเคารพศรัทธาท่านอย่างสูงสุดเป็นทุนเดิม จึงน้อมรับคำว่า “ครูบาเจ้า” ได้โดยง่ายอย่างไม่มีเงื่อนไข)

 

ส่วนบุคคลทั่วไปนอกพื้นที่ ที่เขายังคงศึกษาอ้างอิงเอกสารงานวิจัยเดิมๆ ที่เขียนไว้ด้วยคำว่า “ครูบาศรีวิชัย” ก็แน่นอนว่าเขาก็ต้องยังคงใช้คำว่า “ครูบาศรีวิชัย” ตามที่เขาอ่านมานั้น  ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือผิด

 

หาใช่ว่า  ภาษาเขียนที่ถูกต้องคือ “ครูบาศรีวิชัย” (โดยอ้างว่าเพราะเอกสารวิจัยที่น่าเชื่อถือได้มากกว่า 90% ใช้คำนี้ ดังนั้นคำนี้ต้องถูก) ส่วนภาษาพูดแบบลำลองที่ยกย่องกันเองอุปโลกน์กันเองจึงจะใช้ว่า “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” 

 

สรุปก็คือ “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” เป็นคำที่เคยใช้เขียนและเรียกกันมานานนมแล้ว ในยุคที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่ต่อมาเลือนหายไป หรือถูกตัดตอนไป เพราะคนในพื้นที่ไม่ค่อยได้เข้ามามีบทบาทในฐานะผู้เขียนบันทึก  (อาจจะเป็นเพราะว่าท่านนั่งอยู่ในหัวใจอยู่แล้วก็เป็นได้)  ทำให้อิทธิพลของนักเขียนนักการศึกษา นักวิจัย ที่ขยันเขียนขยันตีพิมพ์ จึงเข้ามาครอบงำยึดพื้นที่เอกสารสำหรับใช้อ้างอิงไว้ทั้งหมด  ซึ่งก็ไม่ได้มองว่าคนเหล่านั้นผิด  คือเข้าใจว่าพวกเขาคงมองว่าไม่จำเป็นต้องไปใช้สรรพนามอะไรให้มันยาวเยิ่นเย้อ  จึงเรียกแบบกระชับว่า “ครูบาศรีวิชัย”  ก็เป็นที่เข้าใจกันอยู่แล้ว

 

แต่ทว่าตอนนี้กระแส  ความเคารพยกย่องท่านได้หวนกลับมาสมาทานคำสรรพนามดั้งเดิมที่เคยใช้เขียนและเรียกขานท่านกันมาก่อนนั้นอีกครั้ง อย่างสง่างามว่านามนี้คือ “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” ถูกต้องแน่นอน ไม่ผิดทั้งทางโลกและทางธรรม

 

จึงขออนุญาตอธิบายเพื่อสร้างความเข้าใจอย่างกระจ่างชัดแก่ทุกฝ่าย  หากมีการนำคำว่า “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” ไปใช้จะได้ไม่ต้องรู้สึกลังเล  หรือตะขิดตะขวงใจกันอีกต่อไป

 


Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV


ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน

 

 

 

 

 



แจ้งลบกระทู้นี้

อ่าน 17864

แสดงความคิดเห็น โดย โน้ต cmprice IP: Hide ip , วันที่ 17 มี.ค. 58 เวลา 14:08:25
 

 

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 

 
กรุณาอ่าน
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใด ที่ขัดต่อกฎหมายและ ศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ 08-0500-1180 เพื่อให้ผู้ควบคุม ระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
 
 


ปิดโฆษณานี้X

ผ้าพันคอราคาถูก

ปิดโฆษณานี้X

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 


หน้าแรก l หางานเชียงใหม่ | ตลาดออนไลน์ | เว็บบอร์ด | อัตราค่าลงโฆษณา | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี | ติดต่อเรา


เพื่อนบ้านเราทั้งหมด วิธีแลก Link

© cmprice.com since 14 Jan 2005
E-mail: info@cmprice.com
FaceBook : facebook.com/cmprice.fc
TEL. 08-0500-1180
Line id: cmprice









www.cmprice.com ที่นี่มีสิ่งดีๆ รอคุณอยู่
ผู้สนับสนุน แบบพิเศษ

บ้านหนองช้างคืน | เครื่องฟอกอากาศ เชียงใหม่-ลำพูน | ผ้าพันคอราคาถูก | ของชำร่วย | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี