| • ต้นโพธิ์ ขวางถนนที เจ็ดยอด ยังย้ายไม่ได้ เหตุ กลุ่มอนุรักษ์ฯ คัดค้าน |
|
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 05 ต.ค. 61 เวลา 11:27:53 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เครดิตข่าว สวท.เชียงใหม่ PRD.
หลังจากแขวงทางหลวงจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนผู้อยู่อาศัยในชุมชนโดยรอบวัดเจ็ดยอด กลุ่มอนุรักษ์ที่คัดค้าน นักวิชาการด้านวิศวกรรม สื่อมวลชน และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย กรณีต้นโพธิ์อายุกว่าร้อยปีที่ขึ้นกลางถนนคู่ขนานทางหลวงหมายเลข 11 ช่วงชุมชนสนสวย ถึงแยกวัดเจ็ดยอด ในวันที่ 4 ตุลาคม 2561 โดยมี พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงษ์สินธุ์ ริงผบก.ภจว.ชม.เป็นประธานการประชุม ซึ่งยังไม่สามารถหาข้อยุติในเรื่องการย้ายต้นโพธิ์ได้ เนื่องจากกลุ่มอนุรักษ์ฯ นำโดย ผศ.ดร.วสันต์ จอมภักดี และนักวิชาการด้านวิศวกรฯ อีกหลายคน ยืนยันว่า ต้นไพธิ์ที่มีขนาดใหญ่กว่าร้อยปี สามารถที่จะตั้งอยู่บนถนนได้ โดยไม่ผิดหลักสากล อย่างเช่นประเทศที่เจริญแล้วหลายประเทศ ควรที่จะให้ต้นโพธิ์ดังกล่าวตั้งอยู่ที่เดิม อีกทั้งต้นโพธิ์ตามความเชื่อทางพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งสูงส่งศักดิ์สิทธิ์ควรแก่การเคารพบูชาตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ ยังเชื่อว่าบริเวณโคนรากของต้นโพธิ์เป็นที่ประทับของพระพรหม ลำต้นเป็นที่ประทับของพระนารายณ์ บริเวณยอดของต้นโพธิ์เป็นที่ประทับของพระอิศวร การออกแบบของกรมทางหลวงเป็นความผิดพลาดมาตั้งแต่แรกที่ไม่คำนึงถึงต้นโพธิ์ที่มีอยู่เดิม
แม้ว่า ทวงแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่2 จะเสนอให้มีการขุดล้อมย้ายต้นโพธิ์ไปไว้ในที่ที่เหมาะสม เช่น พุทธมนฑล อ.ดอยสะเก็ด ก็ตาม กลุ่มอนุรักษ์ยื่นคำขาดหากมีการเคลื่อนย้ายจะดำเนินตามกฏหมายเพื่อฟ้องเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องผ่านศาลปกครอง และขอให้มีการทบทวน ทางออกของปัญหา ที่ชาวบ้านผู้อยู่อาศัยได้รับผลกระทบจาดต้นโพธิ์ และผู้ที่สัญจร ว่า ควรจะแยกย้ายกันไปประชุมกลุ่มย่อย และนำข้อเสนอต่างๆ มาประชุมหาข้อสรุปกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า โดยเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานในการพิจารณา เบื้องต้น กำหนดเป็นวันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2561 ณ เทศบาลตำบลช้างเผือก
ส่วนทางด้านของประชาชนผู้ประกอบการที่อาศัยอยู่บริเวณต้นโพธิ์ได้บอกว่า ตอนนี้ค้าขายลำบากมาก การจอดรถก็ยากลำบาก เพราะถนนถูกบีบเหลือเลนเดียว อีกทั้งยังกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ สำหรับผู้ขับขี่ที่ไม่ชำนาญทาง ประกอบกับการสัญจรในพื้นที่ดังกล่าว มักจะมีผู้ฝ่าฝืนขับย้อนศร และไม่มีผู้ดูแลด้านความสะอาดเป็นแหล่งมั่วสุม เกิดขยะ เน่าเหม็นส่งกลิ่น กลายเป็นที่จอดรถที่ไร้ระเบียบ ช่องทางจราจรที่คับแคบเพียง 1 เลน ยังเป็นปัญหาจราจร กีดขวางรถที่มาจากแยกรินคำ และห้างเมญ่า และเกรงว่ารากของต้นโพธิ์จะชอนไชสร้างความเสียหายกับอาคารพาณิชย์ที่อยู่ใกล้ ประกอบกับต้นโพธิ์ที่มีขนาดใหญ่โตเร็ว กิ่งไม้ก็จะพาดสายไฟฟ้า และหลังคา กันสาดบ้านเรือน จนเสียหาย และรู้สึกไม่ปลอดภัย
นายรังสรรค์ สุขชัยรังสรรค์ ผอ.แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 จึงเสนอว่า หากมีการล้อมย้ายนำต้นโพธิ์ไปไว้ยังสถานที่เหมาะสม จะใช้เวลาเพียง 10 วัน ในการดำเนินการทั้งหมด จนสามารถคืนพื้นผิวจราจรให้กลับคืนมาดังเดิม แม้ว่าจะเลยกำหนดระยะเวลาการก่อสร้างของผู้รับเหมาไปแล้ว แต่ยังสามารถดำเนินการปรับปรุงสภาพการจราจรให้กลับมาเป็นถนนคู่ขนาน 4 เลน 10 ช่องจราจร(รวมฟุตบาท)ได้ตามปกติ ซึ่งปัจจุบัน ต้นโพธิ์ได้ใช้พื้นที่ไป 2 ช่องจราจร เสียพื้นที่ไป 7 เมตร จากระยะ 9.5 เมตร แนวทางการล้อมย้ายจึงเป็นวิธีการที่แขวงฯ แนะนำ แต่หากมติที่ประชุมเห็นควรไม่ให้ย้ายต้นโพธิ์ ก็ควรจะคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่มาเป็นลำดับแรก และคนในชุมชน และเทศบาลช้างเผือก ก็ควรจะร่วมกันดูแลเรื่องภูมิทัศน์ ความสะอาด และการมีส่วนร่วมในการดูแล หากจะพัฒนาให้เป็นพื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์ต่อไป แต่ทั้งนี้ต้องสามารถเยียวยา และไม่ส่งผลกระทบกับผู้อยู่อาศัยโดยรอบ
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 3570 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 05 ต.ค. 61
เวลา 11:27:53
|
