หน้าแรก | ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด | ตลาดออนไลน์ | อัตราค่าลงโฆษณา
www.cmprice.com เว็บไซต์ของฅนเชียงใหม่ ผ้าพันคอราคาถูก ราคาส่ง เชียงใหม่ ลำพูน

หน้าแรก » เว็บบอร์ด
ห้องแก๋งโฮ๊ะ
เว็บบอร์ด » ห้องแก๋งโฮ๊ะ
รายละเอียดของห้อง : พูดคุยกันเรื่องทั่วๆ ไป, สัพเพเหระ, อยากถาม อยากตอบ
กระทู้ที่ตอบกลับล่าสุด | สร้างกระทู้ใหม่ | ดูกระทู้ทั้งหมด | ค้นหากระทู้ :
ถามจริงๆ คิดไงกับ เฉลิม อยู่บำรุง

แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV
ถามจริงๆ คิดไงกับ เฉลิม อยู่บำรุง
โพสต์โดย นักข่าว , วันที่ 22 เม.ย. 51 เวลา 13:29:59 IP: Hide ip    


กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน


 

© เนื้อหาข่าว/กระทู้

 

ไม่รู้ดิ ผมไม่ได้ อคตินะ ..แต่กับครอบครัวนี้  เกินไปจริงๆ

พึ่งมีข่าวล่าสุดว่า คืน ยศ ให้ลูกชายคนที่ฆ่าดาบยิ้มแล้วด้วย

---------------

ย้อนรอยคดี ดวงเฉลิม ก่อน สมัคร คืนยศให้รับราชการอีก

 

 


          ย้อนประวัติศาสตร์คดี "ดวงเฉลิม" ลูกชาย "ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง" ในคดียิงสังหาร "ดาบยิ้ม" ก่อนที่ "ลุงสมัคร" จะลงนามให้ "หลานรัก" กลับเข้ารับราชการสังกัด บก.สส. ด้วยยศ "ร้อยตรี" หลังถูกถอดยศยาวนานถึง 7 ปี

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกระแสข่าวลือว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง นายดวงเฉลิม อยู่บำรุง บุตรชายของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กลับเข้ารับราชการ สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด โดยได้รับยศร้อยตรี สังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

          คำสั่งดังกล่าวส่งผลให้นายดวง กลับเข้ารับราชการอีกครั้ง หลังถูกทางกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งพักราชการ ไปนานถึง 7 ปี คือ นายดวงเฉลิม ถูกถอดยศและปลดยศเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2544 หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีสังหาร ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุติ หรือ "ดาบยิ้ม" เมื่อคืนวันที่ 29 ตุลาคม 2544 ในทเวนตี้ผับ และหลบหนีออกนอกประเทศ ทำให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในขณะนั้น ลงนามในคำสั่งปลดออกจากราชการ ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2544 และถอดยศทหารเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน

 ย้อนรอยคดี "ดวงเฉลิม" หลุดคดียิง "ดาบยิ้ม"

          29 ตุลาคม 2544 เวลาตีสอง  ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุต หรือ "ดาบยิ้ม" ถูกยิงเสียชีวิตภายในคลับทเวนตี้ ผับ โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ถนนรัชดาภิเษก

          หลังเกิดเหตุ.... ตำรวจกองปราบปรามสอบปากคำพยานในคืนเกิดเหตุได้ความว่า "นายดวงเฉลิม อยู่บำรุง" ลูกชายคนเล็กของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ เป็นคนลั่นไกยิง "ดาบยิ้ม" เสียชีวิตด้วยอาวุธปืน 6.35 มม.

          ยังไม่ถึง 10 ชั่วโมงจากเหตุการณ์ ตำรวจหน่วยคอนมานโดราว 100 นาย นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านของ ร.ต.อ.เฉลิม และอีก 2 ครั้งในเวลาต่อมา รวมทั้งบ้านของนักการเมืองท้องถิ่น ที่แนวทางการสืบสวนเชื่อว่า นายดวงเฉลิมจะหลบซ่อนตัว แต่การตรวจค้นยังไม่พบวี่แววของนายดวงเฉลิม

          187 วันผ่านไป "นายดวงเฉลิม" โผล่เข้ารายงานตัวที่สถานทูตไทยประจำประเทศมาเลเซีย  ตอน 9 โมงเช้าของวันที่ 2 พฤษภาคมตามเวลาในประเทศมาเลเซีย

         พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อกล่าวหานายดวงเฉลิม ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไม่มีการตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งมีโทษถึงประหารชีวิตการตั้งข้อกล่าวหาดังกล่าว ทำให้พนักงานสอบสวนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

          อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลย 4 คน ประกอบด้วย และนายกฤษพัฒน์ จาตุรานนท์ และนายสุพจน์ แสงอนันต์ ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย

          ส่วน นายวันเฉลิม อยู่บำรุง ลูกชายคนกลางของ ร.ต.อ.เฉลิม และ พ.ต.ต.ศราวุฒิ สกุลมีฤทธิ์ อดีตสารวัตร 191 ถูกฟ้องเป็นจำเลยในความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และช่วยเหลือให้ผู้กระทำผิดมิให้ถูกจับกุม

          ร.ต.อ.เฉลิม ตั้งทีมทนายต่อสู้คดีให้กับลูกชายคนเล็กถึง 4 คน ประกอบด้วย นายสมหมาย กู้ทรัพย์ ทนายความมือเด็ดที่อยู่ในแวดวงว่าความมานานกว่า 20 ปี เป็นหัวหน้าทีมทนายความ นายสมหมาย เคยว่าความให้ ร.ต.อ.เฉลิม และบรรดาลูกชายมาแล้วหลายคดี  โดยหมอความทั้ง 4 คน เปรียบเป็นแขนและขาของคนในครอบครัว "อยู่บำรุง" ก็ว่าได้

          อย่างไรก็ตามคดียิงดาบยิ้มก็สร้างความกังขา เมื่อมี นายเฉลิมชนม์ บุริสมัย หรือ "ไอ้ปื๊ด" ก็ปรากฎตัวยอมรับว่าเป็นมือปืนสังหาร "ดาบยิ้ม" แต่พนักงานสอบสวนไม่ได้ให้ความสำคัญในคดีแต่อย่างใด เมื่อหัวหน้าพนักงานสอบสวนยืนยันว่า ไอ้ปื๊ด "ไม่ใช่ผู้เกี่ยวข้องกับคดี"

          กระทั่งคดีฆ่าดาบยิ้มเริ่มต้นกระบวนการในชั้นศาล โดย นายวิชิต แก่นกำจร อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานอัยการ แถลงต่อศาลว่า จะนำพยานเข้าสืบประมาณ 53 ปาก ใช้เวลาสืบพยานราว 25 นัด ส่วนหัวหน้าทีมทนายความ แถลงว่า จะใช้เวลาสืบพยานจำเลยประมาณ 15 นัด 

          ศาลได้กำหนดวันสืบพยานโจทก์ โดยนัดพิจารณาต่อเนื่องรวม 30 นัด ตั้งแต่เดือน กรกฏาคม พ.ศ.2545 - เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2546 โดยจะมีการสืบพยานเดือนละ 2-4 ครั้ง และเริ่มสืบพยานโจทก์นัดแรกวันที่ 1 กรกฏาคม พ.ศ.2545 เวลา 09.00-16.30 น.

          การสืบพยานโจทก์นัดแรก พนักงานอัยการนำ นางสุพัตรา รอดวิมุต อายุ 39 ปี เบิกความเป็นพยานปากแรก แต่ก่อนที่จะเบิกความ ทีมทนายความ นายดวงเฉลิม ได้ร้องศาลขอให้มีการเปิดภาพวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ ด้าน นางสุพัตรา เบิกความยืนยันว่า อยู่ด้วยกันมากว่า 20 ปี ไม่เคยเห็นสามีดื่มสุราจนขาดสติจนมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร

          หักล้างการตั้งข้อสังเกตของทีมทนายความ ที่ระบุว่า "ดาบยิ้ม" มีแอลกอฮอล์ในเลือดมากถึง 198 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จนเรียกว่าอาการเมามาก

          แนวทางการการต่อสู้คดีของทีมทนายความ นายดวงเฉลิม เบนเป้าไปที่แสงไฟแวดล้อมในคืนเกิดเหตุ เพื่อเชื่อมโยงแนวทางการต่อสู้คดีว่าพยานโจทก์เห็นนายดวงเฉลิมยิงดาบยิ้มได้อย่างไร

          มีพยานสำคัญที่อยู่ในเหตุการณ์และหลังเหตุการณ์ 3 กลุ่ม  คือ

          1. พยานคู่กรณี หรือพยานปรปักษ์ ประกอบด้วย  พ.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง รอง ผกก.1 ป., ร.ต.อ.วิวัฒน์ บุญชัยศรี  รอง สว.ผ.5 กก.2 ป. และ ส.ต.ต.ทศพล อ่อนพันธุ์  ตำรวจประจำกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191)

          2. พยานพนักงานในสถานบริการ ประกอบด้วย น.ส.นฤมล วงศ์เสือ, นายสมภพ สุภิษะ และ น.ส.ทิฐินันท์ ฤทธิวัฒนะพงศ์

          พ.ต.ท.สุทิน พยานโจทก์เบิกความว่า ขณะเกิดเหตุมียศ พ.ต.ต.ดำรงตำแหน่ง รอง ผกก.2 ป. เห็นแสงไฟคล้ายหลอดตะเกียบ ไม่ใช่หลอดไฟสีติดอยู่ตามราวเหล็ก มีระยะห่างระหว่างหลอดไฟแต่ละดวงประมาณ 1 ศอก ขัดกับคำให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ผบ.ตร.ที่ยืนยันชัดเจนว่า ในคลับทเวนตี้ ผับ มีสปอตไลท์ส่องสว่าง เห็นหน้าคนยิงได้อย่างชัดเจน  เป็นอันว่าพยานปากที่สองยังยืนยันไม่ได้ว่า นายดวงเฉลิมเป็นคนยิงหรือไม่ เพราะมองไม่เห็น เพียงแต่ระบุว่า เห็นนายดวงเฉลิมทำท่ากำมือ แต่ไม่เห็นปืน

          ด้าน ร.ต.อ.วิวัฒน์ พยานโจทก์อีกราย เบิกความว่า ไม่มีหลอดไฟฝังอยู่บนพื้นที่ จะมีเฉพาะบนฝ้าเพดาน เคาน์เตอร์และไฟจากเวที เพียงเท่านี้

          ท้ายที่สุดแล้ว คำเบิกความของโจทก์พยานปากสำคัญในคดีคือ ส.ต.ต.ทศพล  ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุในฐานะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เบิกความว่า เห็นนายอาจหาญกอดปล้ำกับ ร.ต.อ.วิวัฒน์ แล้วตัวเองเข้ามาโอบกอดด้านหลัง ทั้งสองเพื่อต้องการให้หยุด จนเกือบจะทรุดลงกับพื้น ระหว่างนั้น ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมา 1 นัด จึงหันไปมองเห็นผู้ต้องหา 2 คนช่วยกันล็อกแขนดาบยิ้ม ขณะที่ "นายดวงเฉลิม" ถือปืนแล้ววาดปืนผ่านหน้าไปยัง "ดาบยิ้ม"

          ทีมทนายความของ นายดวงเฉลิม ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นไปได้อย่างไรที่ ส.ต.ต.ทศพล จะเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งหมดในเวลาเพียงไม่กี่นาที ในเมื่อ ร.ต.อ.วิวัฒน์ ยืนประชิดกับ นายดวงเฉลิม ขณะที่ ส.ต.ต.ทศพล ยืนอยู่ด้านหลังของ ร.ต.อ.วิวัฒน์ ทำไมจึงเห็น นายดวงเฉลิม ถือปืนผ่านหน้าไปยิงดาบยิ้ม ทั้งที่ ร.ต.อ.วิวัฒน์ เบิกความในชั้นศาลว่า มองไม่เห็นปืน  และจากหลักฐานผลการพิสูจน์วิถีกระสุนที่ระบุว่า บาดแผลจากหน้าผากด้านขวา ลงไปทะลุท้ายทอยด้านซ้าย ซึ่งการยืนประจัญหน้ากัน การยิงให้วิถีกระสุนเป็นไปเช่นนี้คงยากเหมือนกัน

          เช่นเดียวกับการยกมือขึ้นมาประทับระดับเอว คล้ายถือปืน แนววิถีกระสุนขัดกันกับบาดแผลที่พิสูจน์จากสถาบันนิติเวชด้วย

          ด้าน น.ส.นฤมล ให้การโดยสรุปในขณะนั้นว่า "เห็นนายดวงเฉลิมชกต่อยดาบตำรวจ สุวิชัย รอดวิมุต(ดาบยิ้ม) ผู้ตายและผลักอกผู้ตายล้มลงชักสิ่งของบางอย่างออกจากเอว แล้วเล็งไปยังผู้ตาย เสียงปืนดังปัง! จึงเชื่อว่า นายดวงเฉลิม ฆ่าดาบยิ้มผู้ตาย" พยานผู้นี้ให้การกับพนักงานสอบสวน 7 ครั้ง น่าแปลกที่ ถ้าเป็นพยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์จริง ทำไมต้องให้การถึง 7 ครั้ง และใน 7 ครั้ง ก็ให้การแตกต่างกัน เช่น

          ครั้งที่2 ให้การว่า "เห็นผู้ตายทรุดตัวลงแล้วถูกยิง"

          ครั้งที่ 3 ให้การว่า "เห็นผู้ตายตัวงอแล้วถูกยิง"  

          จึงไม่สามารถสรุปได้ว่าผู้ตาย ตายในลักษณะใด

          ขณะที่ นายสมภพฯ และ น.ส.ทิฐินันท์ ฯ ให้การว่า "ดาบยิ้มมีคู่ชกต่อยอยู่ทางขวามือ หลังจากนั้นเสียงปืนดังขึ้น ชายที่ชกต่อยกับดาบยิ้มทางขวามือผละออกไป ดาบยิ้มล้มลง แต่ชายที่อยู่ทางขวามือไม่ใช่ นายดวงเฉลิม"

          นี่เป็นคำสรุปที่ให้การในชั้นศาลของพยานกลุ่มที่ 3 ซึ่งเป็น พยานผู้เชี่ยวชาญ

          พล.ต.ต.วิชิต สมาธิวัฒน์ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แพทย์ผู้ทำการชันสูตรพลิกศพ ระบุว่า ดาบยิ้มถูกยิงที่ศีรษะด้านขวามาด้านซ้าย วิถีกระสุนจากบน ลงล่าง จากหน้ามาหลัง บาดแผลรูปดาว 4 แฉก และมีเขม่าดินปืนในบาดแผล บาดแผลในลักษณะนี้ ผู้ยิงจะต้องกดยิง หมายความว่า ปากกระบอกปืน จะต้องติดผิวหนัง อัดแรง และมีเขม่าในบาดแผล ลักษณะบาดแผลขวามาซ้าย แสดงให้เห็นว่า ผู้ยิงต้องอยู่ทางด้านขวาของผู้ตายเท่านั้น ทนายจำเลยถามค้านปรากฏในเอกสารในชั้นศาลว่าถ้าคนร้ายอยู่ด้านหน้า ห่าง  1 เมตร, 1.50 เมตร หรือ 1.63 เมตร และยิงผู้ตาย บาดแผลเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญได้ระบุชัดว่าหากเป็นลักษณะดังกล่าว ไม่สามารถจะสร้างบาดแผลดังกล่าวได้

          ผู้เชี่ยวชาญได้สรุปยืนยันว่า คนร้ายอยู่ในตำแหน่งอื่นใดไม่สามารถสร้างบาดแผลลักษณะเช่นนี้ได้ แปลว่า จำเลยที่ 5 ไม่ได้เป็นผู้ยิงผู้ตาย เพราะยืนด้านหน้า ห่างประมาณ 2 เมตร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ย้ำว่า การยิงปากกระบอกปืนต้องชิดติดผิวหนัง ระยะยิงห่างไม่เกิน 1 ข้อศอก และผู้ยิงต้องอยู่ทางขวามือเท่านั้น ในคำให้การพยานทั้ง 7 ปาก ให้การไม่สอดคล้องต้องกันเลย ศาลจะลงโทษจำเลยได้ ก็ต่อเมื่อพยานฝ่ายโจทก์จะต้องนำพยานหลักฐาน พิสูจน์ทราบว่าจำเลยกระทำความผิดเพราะศาลยุติธรรมของประเทศไทย เป็นระบบกล่าวหา มิใช่ระบบไต่สวน

          สำหรับความเห็น พ.ญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงเรื่องการ "ถูกยิง" ในทางนิติวิทยาศาสตร์ว่า... ถ้าเป็นการกดยิง รูกระสุนจะกลม มีรอยกดของลำกล้องปืน หากแต่กดบริเวณที่แข็ง เช่น หน้าผาก ศรีษะด้านข้างจะเป็นรอยแตก เป็นแฉกดาว ด้านใต้จะมีเขม่าปืนถ้าจ่อยิงห่างประมาณ 4-5 เซนติเมตร รูกระสุนจะกลม แต่จะมีรอยไหม้จากไฟที่ออกมาจากลำกล้องปืน ส่วนถ้าระยะห่างประมาณ 45 เซนติเมตร บริเวณรูกระสุนจะมีเขม่าปืนโดยรอบ

          ผู้พิพากษานั้นใช้ นิติวิทยาศาสตร์และสภาพแวดล้อมอื่นมาพิจารณาคดี เมื่อนิติวิทยาศาสตร์ พบหลักฐานจากรอยกระสุน สามารถวัดหาตำแหน่งผู้ยิงได้ ผู้พิพากษาจึงไม่อาจเปลี่ยนแปลงคำตัดสินเป็นอื่นใดได้  สำหรับคดีนี้ นอกจากพยานให้การแตกต่างกันแล้ว พยานหลักฐานยังขัดกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ อย่างชัดเจน ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วมีความเห็น "ยกฟ้อง"

          ทั้งนายกฤษพัฒน์ จาตุรานนท์ นายสุพจน์ แสงอนันต์ และนายดวง อยู่บำรุง (ดวงเฉลิม) หลุดคดีเนื่องจากไม่มีหลักฐานที่ระบุได้ว่า จำเลยทั้ง 3 คน ร่วมกันฆ่า ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุต ตำรวจกองปราบปราม อีกทั้งผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ ก็ไม่สามารถระบุได้ว่า จำเลยที่ 5 คือนายดวง อยู่บำรุง เป็นคนยิง ดาบยิ้ม

          ส่วนนายวัน อยู่บำรุง (วันเฉลิม) ศาลพิพากษาจำคุกข้อหาทำร้ายเจ้าพนักงาน แต่ไม่เป็นอันตรายแก่กายและจิตใจ จึงพิพากษาจำคุก 1 เดือน ปรับ 1,000 บาท แต่เนื่องจากผู้ต้องหาไม่เคยกระทำผิด และให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดี โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี และสั่งห้ามเที่ยวสถานบันเทิง 1 ปี เมื่อศาลมีคำสั่งยกฟ้องในคดีนี้ ศาลจึงต้องปล่อยตัวจำเลยทันที ซึ่งฝ่ายโจทก์นั้น สามารถยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นได้

 


ข้อมูลจาก



ภาพประกอบจาก

 


Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV


ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน

 

 

 

 

 



แจ้งลบกระทู้นี้

อ่าน 8660

แสดงความคิดเห็น โดย นักข่าว IP: Hide ip , วันที่ 22 เม.ย. 51 เวลา 13:29:59
 

 

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 

 
กรุณาอ่าน
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใด ที่ขัดต่อกฎหมายและ ศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ 08-0500-1180 เพื่อให้ผู้ควบคุม ระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
 
 


ปิดโฆษณานี้X

ผ้าพันคอราคาถูก

ปิดโฆษณานี้X

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 


หน้าแรก l หางานเชียงใหม่ | ตลาดออนไลน์ | เว็บบอร์ด | อัตราค่าลงโฆษณา | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี | ติดต่อเรา


เพื่อนบ้านเราทั้งหมด วิธีแลก Link

© cmprice.com since 14 Jan 2005
E-mail: info@cmprice.com
FaceBook : facebook.com/cmprice.fc
TEL. 08-0500-1180
Line id: cmprice









www.cmprice.com ที่นี่มีสิ่งดีๆ รอคุณอยู่
ผู้สนับสนุน แบบพิเศษ

บ้านหนองช้างคืน | เครื่องฟอกอากาศ เชียงใหม่-ลำพูน | ผ้าพันคอราคาถูก | ของชำร่วย | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี