กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
สดศรีชี้ถ้า'ปู'ผิด มาร์คก็ผิด ผัดหมี่-แคะขนมครก
'ปชป.'ร้อนตัว-อ้างเรื่องไร้สาระ ยิ่งลักษณ์ไม่หวั่นชงยุบรอบ3 โต้'แม้ว'จุ้นโผครม.-ยันจัดเอง
ทำพิซซ่า- น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พา "น้องไปค์"ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร ลูกชายไปรับประทานอาหารที่ร้านพิซซ่า ออริกาโน่ ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม โดยให้น้องไปค์โชว์ฝีมือนวดแป้งทำพิซซ่าเองด้วย เมื่อวันที่ 9 ก.ค.
|
'ยิ่ง ลักษณ์'ควง'น้องไปค์'พักผ่อนวันหยุดแรกหลังเลือกตั้ง โชว์ทำพิซซ่า ชี้ส.ส.เพื่อไทยบินพบ'แม้ว'ที่บรูไน แค่ไปเยี่ยม ยันคนตั้งครม.อยู่ในเมืองไทย เผยมีเวลาอีก 1 เดือนหาคนร่วมครม. ปัด 'แม้ว' จุ้นนโยบายเพื่อไทย หวังกกต.ให้ความเป็นธรรม ยินดีคุย 'บิ๊กตู่' ร่วมงานในอนาคต ยันยังไม่คิดตั้งส.ส.ร.3 แก้รธน. 'นพดล' ย้ำอีก 'ปู' มีอำนาจตั้งครม. ไม่เกี่ยวทักษิณ เย้ยพวกเสียงดังอย่าหวัง เด็จพี่จวกปชป.ยื่นกกต. ยุบเพื่อไทย พวกขี้แพ้ชวนตี เชื่อมีพรรคอยู่เบื้องหลังร้องกกต.สอย 'ปู' กรณีผัดหมี่ 'สดศรี' ไม่ติดใจเผยทำได้ เพราะถ้ายิ่งลักษณ์ผัดหมี่ผิด ทั้ง 'มาร์ค' ก็ต้องผิดด้วย ชี้ต้องดูเจตนา กกต.โคราชลั่นไม่ได้กลั่นแกล้งใคร ไม่หวั่นหากถูกพท.ไล่เช็กบิล ปชป.เล็งคน ในเสียบเลขาฯ แทนสุเทพ
'ปู'ควงน้องไปค์ทำพิซซ่า
สำหรับภารกิจของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชิน วัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิง ในช่วงวันหยุดสัปดาห์แรกหลังเลือกตั้ง ท่ามกลางกระแสข่าวว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์จะเดินทางไปฮ่องกง เพื่อพบกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพี่ชายเพื่อหารือการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยในช่วงเช้าวันที่ 9 ก.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ใช้เวลาอยู่ที่บ้านกับครอบครัว จากนั้นเวลา 12.00 น. ได้เดินทางพร้อมน้องไปค์ หรือด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชายไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านพิซซ่า ออร์ริการ์โน่ ซอยประดิษฐ์มนูธรรม 19 ย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา โดยน้องไปค์แสดงฝีมือทำพิซซ่าหน้าโฟร์ชีสเพิ่มเห็ด โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นผู้ช่วย
เวลา 14.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปส่งน้องไปค์เรียนเปียโน ที่โรงเรียนดนตรีสยามกลการ ลาดพร้าว ซึ่งตั้งอยู่ในห้างบิ๊กซี เอ็กซ์ ตร้า ลาดพร้าว เหมือนที่เคยทำทุกสัปดาห์ แต่ทุกครั้งน.ส.ยิ่งลักษณ์จะนั่งดื่มกาแฟคอยลูกเรียนจนเสร็จ แต่คราวนี้บอกว่าส่งเข้าเรียนเฉยๆ และเดินทางกลับบ้านก่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อน.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางมาถึงได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก เข้ามาขอถ่ายภาพ และจับมือแสดงความยินดี ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้แสดงความเป็นกันเองกับทุกคนที่เข้ามาทักทาย
ย้ำจัดโผครม.ในเมืองไทย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ถึงส.ส.พรรคเพื่อไทยเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศบรูไน เพื่อหารือถึงการจัดโผ ครม.ว่า คงไปเยี่ยมและไปเที่ยวเป็นการส่วนตัว ส่วนการจัดโผทั้งหมดยืนยันว่าจัดที่เมืองไทย ซึ่งจัดร่วมกับทีมคณะกรรมการพรรค วันนี้เรายังไม่ได้จัด จะค่อยๆ ดูเรื่องเนื้องาน ส่วนกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณนัดหารือเรื่องการจัดโผในวันที่ 12 ก.ค.นั้น ตนยังไม่ทราบ ยืนยันว่าไม่มี
เมื่อถามว่ามองความขัดแย้งในกลุ่มส.ส. พรรคและกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่ใช่ความขัดแย้ง ตนทราบมาเป็นการแสดงความคิดเห็นมากกว่า ความคิดเห็นต่างไม่ได้หมายความว่าจะแตกแยกหรือขัดแย้ง ถ้าเรามีกติกาที่ชัดเจนเชื่อว่าทุกคนจะยอมรับ เมื่อถามว่าเชื่อมั่นว่าหากโผ ครม.ออกมาทุกส่วนจะยอมรับได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นอย่างนั้น เพราะเราทำงานด้วยกันยึดหลักการ และไม่มีว่าจะเลือกใครคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ แต่ต้องเลือกคนที่มีความรู้ความสามารถมาทำงานให้ประชาชน เพื่อให้นโยบายสัมฤทธิผลโดยเร็ว เราทำงานมาด้วยกัน อยู่ด้วยกันมานาน เชื่อว่าเราคุยกันได้ ช่วงนี้อาจเป็นการแสดงความคิดเห็น ซึ่งเราเปิดกว้าง
เด็กพท.พบ'แม้ว'เรื่องส่วนตัว
เมื่อถามว่าในเมื่อพ.ต.ท.ทักษิณไม่เกี่ยวข้องกับการจัดครม. แล้วส.ส.ไปพบเกี่ยวข้องในฐานะอะไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า คนที่เคยร่วมงานกันมาไม่เจอกันมีสิทธิ์พูดจากันได้ แต่ยืนยันว่าการไปไม่ได้หมายความว่าตั้งครม. เมื่อถามว่าการไปในช่วงนี้อาจถูกโยงให้เกี่ยวกับการตั้งครม. น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรค เมื่อถามว่าจะทำให้หลายฝ่ายมองว่าอำนาจการตัดสินใจของน.ส.ยิ่งลักษณ์อ่อนลง หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้องดูผลสุดท้าย เพราะตน ทำงานกับทีมงาน การตั้ง ครม.อยู่ในช่วงพิจารณาซึ่งต้องหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลอีก ยังไม่ถึงเวลาที่จะตั้ง ครม.วันนี้
เมื่อถามว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุวันที่ 12 ก.ค. จะเริ่มรับรองส.ส. ได้แล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เข้าใจว่าการรับรองส.ส.ต้องมีจำนวนหนึ่งถึงกำหนดเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทน ราษฎรเพื่อเลือกประธานสภา ตอนนี้ยังมีหลายขั้นตอนก่อนถึงการตั้งครม. มีเวลาเกือบเดือน ซึ่งต้องให้เวลาอีกนิด
ลั่นยินดีคุยกับ'บิ๊กตู่'
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกระแสข่าวว่าพล.อ.สมทัต อัตตะนันท์ เป็นแคนดิเดต รมว.กลา โหม น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเรื่อง วันนี้ยังเร็วเกินไปที่จะคุยเรื่องครม. เราอยากให้เรื่องนโยบายมีความชัดเจนกว่านี้ และต้องคุยหลักเกณฑ์ผู้ที่จะมาเป็นครม. เมื่อถามว่าตำแหน่ง รมว.กลาโหมต้องรอให้กอง ทัพเสนอชื่อมาเองหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้องหารือกับคณะกรรมการอีกครั้ง ยังไม่ได้คุยรายละเอียดว่าใครจะเป็นผู้เสนอชื่อ
ต่อข้อถามว่าเมื่อรับตำแหน่งนายกฯ จะเข้าไปขอคำแนะนำจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ในอนาคตถ้าเราทำงานด้วยกันเรายินดีจะคุยกัน
เมื่อถามว่ากองทัพระบุยอมรับผลการเลือกตั้ง ยังเชื่อว่าจะไม่มีการปฏิวัติหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ต้องเชื่อในคำพูดของกองทัพ เมื่อถามว่านายเสนาะ เทียนทอง แกนนำพรรคระบุว่าได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคแล้วว่าจะไม่ให้คนโกงบ้านโกง เมืองอยู่ในครม. น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบ ยังไม่ได้ยิน
ปัด'แม้ว'จุ้นนโยบายพรรค
เมื่อถามถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ยื่น กกต.ยุบพรรคเพื่อไทย จากกรณีพ.ต.ท. ทักษิณและบ้านเลขที่ 111 เข้ามาคิดนโยบายและคัดเลือกบุคคลจัดตั้งครม. น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่มี เพราะการเข้ามายุ่งเกี่ยวพรรควันนี้เป็นทีมงานคณะกรรมการและที่ปรึกษาฝ่าย เศรษฐกิจ ซึ่งเราเริ่มทำงานและคุยกัน ทีมงานเหล่านี้จะเข้ามาร่วมกันร่างนโยบาย ซึ่งเราพร้อมชี้แจง พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว เราทำงานเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการในพรรคทั้งหมด
เมื่อถามว่าเกรงจะมีการยุบพรรคภาค 3 หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า หวังว่าผู้ที่จะพิจารณาจะให้ความยุติธรรม เรายืนยันในส่วนที่เราทำงานอยู่แล้ว เชื่อว่าผู้ที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพิจารณา
ยันไม่คิดตั้งส.ส.ร. 3
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวถึงแนวคิดการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) 3 ว่า ยังไม่มีเลย ยังไม่ได้คุยกัน เราคุยกันแต่เรื่องแก้ไขปัญหาปากท้อง นโยบายเร่งด่วนของพรรคเป็นการแก้ปัญหาปากท้อง แก้ปัญหาค่าครองชีพ การให้ประเทศก้าวไปสู่ความปรองดอง เมื่อถามว่าจำเป็นต้องเร่งแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลานั้น วันนี้ต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องศึกษา ตนขอเข้าไปทำงานก่อน ตอนนี้ยังอยู่ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับ 1
แม่ค้าผัดหมี่- นางจงรัก แววโคกสูง เจ้าของร้านผัดหมี่โคราช หน้าลานอนุสาวรีย์ย่าโม จ.นครราชสีมา ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผัดโชว์จนถูกร้องกกต. ยืนยันเป็นคนให้น.ส.ยิ่งลักษณ์แสดงฝีมือเอง เพื่อประชาสัมพันธ์อาหารพื้นบ้านเท่านั้น
|
'นพดล'ย้ำแม้วไม่เกี่ยวตั้งครม.
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวถึงข่าวสมาชิกพรรคและว่าที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อขอตำแหน่งรัฐมนตรีและทวงโควตาของแต่ละกลุ่มว่า คนที่จะแต่งตั้งรัฐมนตรีนั้นอยู่ในประเทศไทย คือน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และกรรม การบริหารพรรคเพื่อไทย ไม่ได้อยู่ต่างประ เทศ และพ.ต.ท.ทักษิณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งครม. อยากฝากคนที่จะบินไปพบให้นำอาหารพื้นเมือง เช่น ไส้อั่ว น้ำพริก ไปฝากก็พอ และไม่อยากให้พาดพิงถึงพ.ต.ท. ทักษิณอีก
นายนพดลกล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ยืนยันแล้วว่าจะตั้ง ครม.โดยเคารพความรู้สึกของประชาชนและเอานโยบาย เอางานเป็นตัวตั้ง หาคนที่เหมาะสม มีความรู้ความสามารถมาบริหารและแก้ปัญหาให้ประชาชน จะเน้นคนที่ทำงานให้พรรคและมั่นคงกับพรรค ไม่ใช่คนที่ตะโกนดังสุดแล้วจะได้เป็น
หนุนมีรมต.บัวแก้ว 2 คน
นายนพดลกล่าวว่า ส่วนที่มีข่าวน.ส.ยิ่งลักษณ์อาจเป็นนายกฯ ควบ รมว.ต่างประเทศนั้น เป็นไปไม่ได้หรือเป็นไปได้ยากมาก เพราะการประชุมระหว่างประเทศและระดับภูมิภาคหรือระดับโลกจะมีการแบ่งระดับ รัฐมนตรีและระดับผู้นำ หากน.ส.ยิ่งลักษณ์ไปประชุมระดับรัฐมนตรีโดยที่เป็นนายกฯ ด้วยอาจไม่เหมาะสม และ รมว.ต่างประเทศมีภารกิจต้องเดินทางไปต่างประเทศมาก จะไม่มีเวลาทำอย่างอื่น ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นว่าควรมีรัฐมนตรีต่างประเทศ 2 คน เมื่อคนหนึ่งไปต่างประเทศ อีกคนก็รักษาการอยู่ในประเทศ
เย้ยปชป.ขุดเรื่องเก่า
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายวิรัตน์ กัลยาศิริ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นคำร้องต่อกกต. ให้ยุบพรรคเพื่อไทย กรณีกล่าวหาว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และอดีตกรรมการบริหารพรรคที่ถูกเพิกถอนสิทธิ์ทั้ง 111 คน ช่วยเหลือการหาเสียงและก้าวก่ายภายในพรรคเพื่อไทยว่า เป็นสิทธิ์ที่จะร้องได้ แต่พรรคเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเก่านำมาร้องเรียนใหม่ ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายและไม่มีเหตุจะยุบพรรคได้ เนื่องจาก 1.ตามมาตรา 97 พ.ร.บ.พรรคการเมืองปี 2550 ห้ามบุคคลที่ถอนสิทธิ์ เฉพาะการเป็นกรรมการบริหารพรรค การจดแจ้งการจัดตั้งพรรคขึ้นใหม่และการมีส่วนร่วมจดแจ้งพรรค จะไปตี ความจำกัดสิทธิ์ของบุคคลนั้นถึงขนาดห้ามแสดงความคิดเห็นเลยคงไม่ได้
จี้'มาร์ค'สั่งสอนลูกพรรค
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า 2.ตอนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาล นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย นายบรรหาร ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งถูกเพิกถอนสิทธิ์ บุคคลเหล่านี้มีอำนาจตัดสินใจแทนพรรคร่วมรัฐบาลขณะร่วมงานกับนายอภิสิทธิ์ และยังเชิญบุคคลเหล่านี้ไปร่วมประชุมในหลายสถานที่ในฐานะตัวแทนพรรคร่วม ซึ่งมีภาคประชาชนร้อง กกต.เช่นกันให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วม แต่ กกต.ยกคำร้อง โดยเห็นว่าไม่มีกฎหมายห้าม จึงขอให้นายอภิสิทธิ์ในฐานะหัวหน้าพรรค ทบทวนบทบาท อย่างน้อยช่วยสั่งสอนลูกพรรคและย้อนไปดูเรื่องเก่าๆ ที่ทำไว้ ก่อนจะร้องยุบพรรคเพื่อไทยกับกกต.
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า 3.บุคคลที่พรรคประชาธิปัตย์อ้างถึง เช่น พ.ต.ท.ทักษิณ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ไม่มีตำแหน่งในพรรคเพื่อไทย แต่แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อในฐานะคนไทยที่มีความสัมพันธ์อันดีกับพรรค จึงขอให้นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ใจกว้าง อย่านำเรื่องดังกล่าวมาชิงพื้นที่ข่าว ไม่อย่างนั้นประชาชนจะมองพรรคประชาธิปัตย์เป็น ขี้แพ้ชวนตี ไม่มีน้ำใจเป็นนักกีฬา ควรเป็นฝ่ายค้านที่ดี ไม่ควรทำตัวเป็นฝ่ายแค้น
โวย'เทือก'อารมณ์ค้าง
โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ส่วนกรณีคุณสมบัติของ นปช.ที่เป็นผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ โจมตีว่าไม่มีสิทธิ์และจะร้องให้ กกต.ต้องตัดสิทธิ์บุคคลเหล่านี้ ขอชี้แจงว่าคุณสมบัติของนปช. มาสมัครเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ ตามรัฐธรรมนูญไม่มีข้อห้ามไว้ ห้ามเฉพาะกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ถูกคุมขังโดยคำสั่งของศาลเท่านั้น ขณะที่บุคคลอื่นเคยถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดีเท่านั้น เรื่องนี้อย่าทำให้สังคมสับสน เพราะขณะนี้ผ่านการพิจารณาของ กกต.ไปแล้ว
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ขอให้นายสุเทพ และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์คนอื่นที่อารมณ์ค้างทางการเมืองอย่ากดดันกกต. ควรไปแก้คดีที่ตนและทีมกฎหมาย รวมทั้งกลุ่ม นปช.ไปร้องต่อกกต.กรณีนายสุเทพใส่ร้ายระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ควรไปแก้ข้อกล่าวหาของตัวเองดีกว่า อย่ามาทำตัวเล่นไม่เลิกทางการเมือง ควรปล่อยให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล ประชาชนจะได้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย
เชื่อร้องผัดหมี่มีเบื้องหลัง
นายพร้อมพงศ์กล่าวถึงกรณีที่มีบุคคลไปร้องต่อ กกต.ว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกฯ ไปผัดหมี่ระหว่างหาเสียงเลือกตั้งที่ จ.นครราชสีมา ว่า ทราบว่ามีพรรคการเมืองหนึ่งอยู่เบื้องหลัง ถือเป็นสิทธิ์สามารถร้องได้ พรรคเพื่อไทยพร้อมชี้แจง เรามีพยานหลักฐาน ทั้งเจ้าของร้าน ยืนยันว่าไม่ได้นำหมี่ไปแจก เป็นการทำเชิงสัญลักษณ์ ไม่มีการจูงใจใดๆ ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ก็พร้อมชี้แจง
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า หัวหน้าพรรคทุกพรรคที่หาเสียงก็แสดงเชิงสัญลักษณ์ในแต่ละจังหวัด ที่สำคัญมีภาพนายอภิสิทธิ์สวมเสื้อเบอร์ 10 กำลังผัดหมี่ นี่คือการหาเสียงเชิงสัญลักษณ์ พรรคที่อยู่เบื้องหลังการร้องครั้งนี้อย่าทำเพียงดิสเครดิตของน.ส.ยิ่ง ลักษณ์ ควรให้ความเป็นธรรมว่ามีการหาเสียงที่หัวหน้าพรรคและผู้สมัครทุกพรรคอาจทำ ได้ ถ้าร้องก็ควรทำให้ครบ อย่าเลือกปฏิบัติ
"วันนี้ควรให้คุณยิ่งลักษณ์ฟอร์มทีมแก้ปัญหาบ้านเมือง ให้เราทำงานก่อน เชื่อว่าวันที่ 12 ก.ค. กกต.จะให้ความเป็นธรรมแก่พรรคเพื่อไทยและทุกพรรค เพราะเป็นการหาเสียงเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น" นายพร้อมพงศ์กล่าว
ร้านหมี่แจงแค่สีสัน
นางจงรัก แววโคกสูง หรือป้าน้อย อายุ 63 ปี แม่ค้าขายผัดหมี่โคราช เปิดบ้านพักเลขที่ 26 สถานีรถไฟชุมทางถนนจิระ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา ชี้แจงข้อเท็จจริงในฐานะพยานปากสำคัญ กรณีภาพข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โชว์ฝีมือผัดหมี่โคราช ถวายท้าวสุรนารี (ย่าโม) ขณะลงพื้นที่หาเสียงใน จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา มีชาวบ้านนำหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวเข้าร้องกล่าวหาน.ส.ยิ่งลักษณ์กระทำผิด กฎหมายเลือกตั้ง
นางจงรักกล่าวว่า ได้ให้ปากคำกับ จนท.งานสืบสวนสอบสวน ยืนยันกิจกรรมทั้งหมดเป็นแนวคิดของตนและกลุ่มคนเสื้อแดงโคราช ต้องการให้น.ส.ยิ่งลักษณ์โชว์ฝีมือผัดหมี่โคราช ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของท้องถิ่น เพื่อเป็นสีสันทางการเมือง โดยใช้ทุนไม่เกิน 320 บาท หลังมีข่าวทำให้ยอดขายของตนดีขึ้น แต่ขอ กกต.อย่านำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นขัดขวางไม่ให้น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทยได้ขอให้ตนเล่ารายละเอียดที่เกิดขึ้นทั้งหมดไว้เตรียม แก้ต่างข้อกล่าวหาของกกต. และเล่นงานกับกลุ่มบุคคลที่ยื่นร้องเรียนเท็จ
'สดศรี'ไม่ติดใจแค่หาเสียง
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า การประกาศรับรอง ส.ส.ในวันที่ 12 ก.ค.นี้จะเป็นในกลุ่มของคนที่ไม่ถูกร้องคัดค้าน ส่วนคนที่ถูกร้องคัดค้านจะประกาศภายใน 1 เดือนเพื่อให้ทันการเปิดสภา โดยยังบอกตัวเลขที่ชัดเจนไม่ได้ว่าจะรับรองกี่คน แต่คาดว่าไม่ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ เพราะมีเรื่องร้องเรียนเข้ามามากจนผิดปกติ
นางสดศรี กล่าวว่า ส่วนที่มีการร้องเรียนการผัดหมี่โคราชของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่จ.นครราชสีมานั้น ไม่ได้ให้ความชัดเจนว่าผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ กกต. กลางยังไม่เห็นสำนวนของกกต.จังหวัด ทราบจากเลขาธิการกกต.ว่า กกต.จังหวัดส่งเรื่องมาแล้ว และอยู่ที่นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านการสืบสวนสอบสวน คาดว่าจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมกกต.ในวันที่ 12 ก.ค.นี้ ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นการโฆษณาตัวเอง เป็นเรื่องปกติของการหาเสียง เช่นเดียวกับการแคะขนมครกของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ในขณะลงพื้นที่หาเสียง หรือ นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ไสน้ำแข็งใส น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินที่ตัดผมให้เด็ก รวมถึงการทอดปาท่องโก๋ของนางพรทิวา นาคาศัย เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย
ถ้าผิด-ส่อเปิดประชุมไม่ได้
นางสดศรี กล่าวว่า ถ้ามองว่าพฤติกรรมเช่นนี้ผิดกฎหมายก็ผิดกันหมด และคงไม่สามารถเปิดประชุมสภาได้ แต่ถ้าไม่ให้ผู้สมัครทำอะไรระหว่างหาเสียงต้องอยู่บ้านเฉยๆ ส่วนตัวมองว่าต้องดูเจตนาว่าจงใจจัดเลี้ยงหรือไม่ กรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องดูว่าของที่นำมานั้นขนมาจากกรุงเทพฯ เจตนาจะมาจัดเลี้ยง หรือทำแจกประชาชนหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่ในช่วงการหาเสียงเห็นว่าเวลาที่บุคคลสำคัญที่มีสื่อเดินตามหา เสียง หากสื่อร้องขอให้ทำก็จะทำ หรือพ่อค้าแม่ค้าร้องขอให้มาผัด มาแคะ จะเป็นโชว์สปิริต แอ๊กชั่นเพื่อออกสื่อ
นางสดศรี กล่าวว่า พฤติกรรมดังกล่าวมองว่าไม่น่าจะผิดตามมาตรา 53 พ.ร.บ.การเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต อย่างกรณีมีการร้องเรียน ผู้สมัครคนหนึ่งไปหาเสียงและช่วยชาวบ้านไถนา กกต.ได้ยกคำร้องไปแล้ว เพราะมองว่าเป็นการหาเสียงตามปกติ ไม่ได้ให้ประโยชน์ เงินทอง ตอบแทนหรือซื้อเสียง จึงต้องดูเจตนาที่มีผลมาจากการกระทำ
'วีรวุธ'ลั่นไม่ได้กลั่นแกล้ง
พล.อ.วีรวุธ ส่งสาย ประธานกกต.นคร ราชสีมา เปิดเผยถึงเรื่องการร้องเรียนกรณีการผัดหมี่โคราชของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ขณะหา เสียงในพื้นที่ว่า ผลการสอบสวนทั้งหมดส่งไปยังกกต.กลางทั้งหมดแล้ว ส่วนกกต.นคร ราชสีมามีความเห็นยืนยันชัดเจนแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้
ส่วนที่หลายฝ่ายวิจารณ์ว่ากกต.จังหวัดไม่เป็นธรรม หาทางกลั่นแกล้งพรรคเพื่อไทยนั้น พล.อ.วีรวุธ กล่าวว่า กกต.ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร ทำตามพยานหลักฐาน และการร้องเรียนมาก็ต้องตรวจสอบทุกกรณี รวมทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นเช่นกัน ทั้งนี้ ยอมรับว่าในพื้นที่ยังมีปัญหาการร้องเรียนการเลือกตั้ง แต่สามารถแก้ปัญหาได้ และไม่หวั่นว่าหากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลแล้วจะตามกลับมาเช็กบิลตน
ปชป.ชี้ร้อง'ปู'ผัดหมี่ไร้สาระ
เวลา 10.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ รักษาการโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พรรคยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างสร้างสรรค์ โดยวันพุธที่ 13 ก.ค. พรรคนัดพบปะส.ส.เพื่อหารือในการเดินหน้าประเทศไทยและการทำงานของพรรคในฐานะ ฝ่ายนิติบัญญัติ อยากเห็นทุกฝ่ายร่วมกันผลักดันประชาธิปไตยในประเทศก้าวพ้นความขัดแย้ง นำสู่ความปรองดองอย่างแท้จริง
น.พ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคยื่นเรื่องร้องเรียนต่อกกต.ไปหลายเรื่อง รวมถึงกรณีสมาชิกบ้านเลขที่ 111 เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง อยากให้กกต.สอบสวนให้ความจริงเป็นที่ปรากฏ ส่วนผลการสอบสวนจะนำสู่เรื่องใดจะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรค หรือไม่ เป็นเรื่องของกกต. จะพิจารณา ยืนยันว่าการที่พรรคยื่นเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เพราะไม่พอใจผลการเลือกตั้ง แล้วจะฟ้องยุบพรรคเพื่อไทย ส่วนที่มีคนร้องให้กกต.สอบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกฯ กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเพราะผัดหมี่แจกชาวบ้านระหว่างการหาเสียงนั้น พรรคมองว่าเป็นแค่วิธีการหนึ่งในการหาเสียง พรรคไม่ได้ถือเป็นสาระที่จะร้องเอาผิดใคร
ห่วงแก้รธน.เพิ่มขัดแย้ง
น.พ.บุรณัชย์กล่าวถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่า จะทำประชา มติถามประชาชนต้องการรัฐธรรมนูญในปี 2540 หรือ 2550 ว่า พรรคเกรงว่าจะกลายเป็นปัญหา เพราะเป็นการเสนอแก้รัฐธรรม นูญในแนวทางเดียวกับรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จนเกิดความวุ่นวาย เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย อีกทั้งแนวทางนี้เหมือนการก้าวสู่การล้างผิดในคดีทุจริตของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และพวกด้วยหรือไม่
ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตยยื่นให้กกต.สั่งให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะนั้น น.พ.บุรณัชย์ กล่าวว่า พรรคไม่ทราบ แต่คิดว่ามีหลายกลุ่มที่ยื่นเรื่องให้กกต. ซึ่งเป็นข้อสงสัยและต้องการให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ให้ทุกฝ่ายยอมรับได้
ถูกมือดีฉกไอโฟน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจบการแถลงข่าว ปรากฏว่ามือถือไอโฟน 4 ของน.พ.บุร ณัชย์ ซึ่งวางไว้บนเก้าอี้ใกล้โพเดียมแถลงข่าวได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งน.พ.บุร ณัชย์ รวมทั้งผู้สื่อข่าวช่วยค้นหาอย่างละเอียดแต่ไม่พบ
น.พ.บุรณัชย์เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ การณ์ตนได้ตรวจสอบจากเครือข่ายผู้ให้บริการโดยใช้ระบบติดตามสัญญาณของตัว เครื่อง พบมีความเคลื่อนไหวเดินทางออกจากพรรคไปตามเส้นทางต่างๆ ซึ่งระบุพิกัดชัดเจน ซึ่งเครือข่ายยืนยันว่าสามารถใช้เทคโนโลยีติดตามพิกัดได้ตลอด จึงหวังว่าหากมีการโจรกรรมไป ผู้โจรกรรมคงคิดกลับใจนำมาคืนหากทราบว่าถูกติดตาม
หวั่นแดงคุมเพื่อไทย
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธานส.ส. ภาคกทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงพรรคเพื่อไทยเตรียมเสนอตั้งส.ส.ร.3 เพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถแก้ได้ตลอด โดยเฉพาะตอนนี้พรรคเพื่อไทยมีเสียงข้างมากในสภา การจะแก้ไขให้ตรงความต้องการของพรรคเพื่อไทยก็เป็นไปได้ แต่อย่าลืมว่ามีส.ว.ร่วมพิจารณาด้วย ดังนั้น พรรคเพื่อไทยต้องพิจารณาให้รอบ คอบ แก้รัฐธรรมนูญตามเจตนารมณ์ของคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่สนองความต้องการของพรรคเพื่อไทยหรือเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง
"ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้บอกว่าจะแก้ประเด็นใดบ้าง แต่เราต้องจับตาดูว่าเขามีแนวทางแก้ไขอย่างไร ทำให้เกิดปัญหาสังคมหรือไม่ จะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศหรือไม่ เพราะพรรคเพื่อไทยไม่มีเฉพาะนักการเมืองอาชีพ แต่มีคนเสื้อแดงอยู่ในพรรคจำนวนมาก และคนเหล่านี้เคยเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญที่หมิ่นเหม่กระทบต่อความมั่นคงประเทศ" นายองอาจ กล่าว
ดึงคนในนั่งเลขาฯปชป.
นายองอาจ กล่าวถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค แสดงความจำนงไม่กลับมาเป็นเลขาธิการพรรคอีกว่า ต้องหารือกันก่อน แกนนำพรรคเห็นว่านายสุเทพ เป็นบุคลากรที่สำคัญ ได้รับการยอมรับจากสมาชิกพรรคมาก เมื่อนายสุเทพประกาศไม่รับตำแหน่งเลขาธิการพรรคอีกรอบนั้น ยอมรับว่าคนในพรรคพยายามขอร้องให้นายสุเทพ เปลี่ยนใจ แต่นายสุเทพ ยังคงยืนยันตามเดิม จึงต้องใช้เวลาอีกนิด ขณะนี้พรรคยังไม่ได้คุยกันว่าจะหาบุคคลอื่นมาแทน แต่หากเกิดปัญหาจริงๆ พรรคจะพิจารณาจากคนในพรรคเป็นหลัก ไม่ดึงคนนอกมาเป็นเลขาธิการพรรคอย่างแน่นอน
พลังชลปัดต่อรองเก้าอี้
นายเชาวน์ มณีวงษ์ หัวหน้าพรรคพลังชล เปิดเผยว่า ในการจัดตั้งครม.ขณะนี้ พรรคพลังชลไม่ได้เรียกร้องตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงใดๆ ทั้งสิ้น แล้วแต่พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำจะเป็นผู้กำหนด รู้เพียงว่าอาจได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง 1 ที่นั่ง หากต้องการให้พรรคพลังชลดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็ควรเป็นรมช.มหาดไทย หรือหากจะกล่าวไปในพื้นที่ภาคตะวันออก ระบบขนส่งหรือโลจิสติกส์มีความสำคัญมาก เพราะมีโรงงานอุตสาห กรรมจำนวนมาก ควรจะเป็นตำแหน่งในกระทรวงคมนาคม แต่ความชัดเจนคงต้องรอกกต.รับรองผลการเลือกตั้งส.ส.ให้เสร็จสิ้นก่อน ส่วนผู้ที่เหมาะสมจะนั่งรัฐมนตรีของพรรค ยังไม่ได้กำหนดเช่นกัน
'ชูวิทย์'ดักคอพรรคงูเห่า
เวลา 10.30 น ที่พรรครักประเทศไทย ซอยสุขุมวิท 10 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย แถลงเปิดตัวหนังสือ การเมืองแบบหมาๆ เนื้อหาเปรียบเทียบคุณสมบัติระหว่างนักการเมืองกับหมาว่ามีความแตกต่างและ เหมือนกันอย่างไร โดยนายชูวิทย์กล่าวว่า หนังสือเล่มนี้ทำขึ้นช่วงหาเสียง นำประสบการณ์มาเขียน และอยากฝากถึงบางพรรคที่กำลังกลายเป็นงูเห่า และพรรคที่ไม่มีอุดมการณ์ เพราะหมายังมีคุณสมบัติที่ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ ไม่เปลี่ยนบ้านบ่อย จึงอยากให้นักการเมืองมีคุณสมบัติเหมือนหมา ซึ่งตนต้องการความซื่อสัตย์จากนักการเมือง เพราะหมาทำหน้าที่เฝ้าบ้าน แต่นักการเมืองต้องคอยดูแลผลประโยชน์ของประเทศชาติ
นายชูวิทย์กล่าวว่า ตนมุ่งมั่นจะเป็น ผู้ตรวจสอบรัฐบาล ขอยืนหยัดเป็นฝ่ายค้าน เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ พร้อมทำงานอย่างสร้างสรรค์ หากรัฐบาลชุดนี้ทำงานได้อย่างดี ตนจะขอยกย่องชมเชย แต่หากทำงานไม่ได้อย่างที่พูดไว้ตอนหาเสียง ตนจะออกมาเรียกร้องให้ประชาชน และจะเป็นคนเปิดอภิปรายในสภาเอง
เปิดสถิติร้องผู้ตรวจฯ-ตร.นำโด่ง
วัน ที่ 9 ก.ค. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้สรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องเรียนในปีงบประมาณ พ.ศ.2554 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2553-30 มิ.ย.2554 รวม 3,063 เรื่อง แยกเป็นเรื่องร้องเรียนที่ดำเนินการแล้วเสร็จตามที่พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ.2552 ให้อำนาจไว้ 1,583 เรื่อง เรื่องร้องเรียนที่ขอถอนคำร้องเรียน 46 เรื่อง รวม 1,629 เรื่อง และเรื่องร้องเรียนที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 1,434 เรื่อง
ทั้งนี้ จำแนกเป็นเรื่องที่มีการร้องเรียนและได้รับการสอบสวนแล้ว พบว่า สำนักงาน ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ชี้แจงให้ผู้ร้องทราบและเข้าใจแล้ว 572 เรื่อง เรื่องที่สอบสวนแล้วได้ข้อเท็จจริงตามที่ผู้ร้องเรียนแจ้งมามี 522 เรื่อง อาทิ เรื่องที่ผู้ร้องเรียนได้รับแก้ไขความเดือดร้อนอย่างเหมาะสม 424 เรื่อง ส่งให้หน่วยงานที่ถูกร้องเรียนดำเนินการ 84 เรื่อง ส่งเรื่องต่อให้ศาลปกครองวินิจฉัย 1 เรื่อง
หน่วยงานที่ได้รับการร้องเรียน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) 312 เรื่อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 289 เรื่อง กระทรวงมหาดไทย 252 เรื่อง กระทรวงศึกษาธิการ 84 เรื่อง กระทรวงการคลัง 65 เรื่อง กระทรวงคมนาคม 59 เรื่อง กระทรวงยุติธรรม 50 เรื่อง องค์กรตามรัฐธรรมนูญ 37 เรื่อง กระทรวงสาธารณสุข 28 เรื่อง กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 26 เรื่อง กระทรวงกลาโหม 16 เรื่อง ศาลยุติธรรมและสำนักงานยุติธรรม 16 เรื่อง หน่วยงานภาคเอกชน 15 เรื่อง สำนักนายกรัฐมนตรี 13 เรื่อง
กระทรวงอุตสาหกรรม 12 เรื่อง กระทรวงแรงงาน 12 เรื่อง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 11 เรื่อง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 9 เรื่อง กระทรวงพาณิชย์ 6 เรื่อง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 4 เรื่อง กระทรวงวัฒนธรรม 4 เรื่อง ศาลรัฐธรรมนูญ 3 เรื่อง กระทรวงพลังงาน 3 เรื่อง สภาทนายความ 3 เรื่อง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 3 เรื่อง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2 เรื่อง สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 2 เรื่อง กระทรวงการต่างประเทศ 1 เรื่อง นักการเมือง 1 เรื่อง รัฐบาล 1 เรื่อง ศาลปกครอง 1 เรื่อง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ 1 เรื่อง อื่นๆ และระบุไม่ชัดเจน 254 เรื่อง รวม 1,629 เรื่อง
ประเด็นที่ถูกร้องเรียน 5 อันดับแรก 1.ตร.ดำเนินคดีล่าช้า ไม่ถอนอายัดคดี กลั่นแกล้งดำเนินคดี ไม่ส่งฟ้องคดีต่ออัยการ ปัญหาความประพฤติของเจ้าหน้าที่ 2.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ทุจริต ปัญหาความประพฤติของเจ้าหน้าที่ เลือกปฏิบัติ กลั่นแกล้งดำเนินการ จัดซื้อจัดจ้างไม่ถูกต้อง 3.กรมที่ดิน ถูกร้องเรื่องปัญหากรรมสิทธิ์การถือครองที่ดิน ออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ ประชาชนบุกรุกที่สาธารณะ
4.การบริหารราชการส่วนภูมิภาค มีเรื่องร้องเรียนคือละเลยปฏิบัติหน้าที่ เลือกปฏิบัติ กลั่นแกล้งดำเนินการ ปัญหาความประพฤติของเจ้าหน้าที่ การทุจริต และการทุจริตเลือกตั้ง และ 5.สาธารณูปโภค ถูกร้องคือ การขอติดตั้งสาธารณูปโภค การให้บริการล่าช้า ปัญหาการจ่ายค่าบริการ งดการให้บริการ
พ่อผู้สมัครปชป.ไล่ฟันรถพท.
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 ก.ค. นางจินตนา คงเกิด อายุ 35 ปี สมุห์บัญชีของนายอุดมเดช รัตนเสถียร ว่าที่ส.ส.เขต 2 นนทบุรี พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายมโน ทองปาน ทนายความ ได้เข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.กสินธุ์ ศักดิ์ดี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี สาขารัตนาธิเบศร์ว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วันเดียวกัน ได้นำรถกระบะ 2 คัน แห่กระจายเสียงออกขอบคุณประชาชนในพื้นที่ กระทั่งเข้าไปขอบคุณประชาชนในซอยรัตนาธิเบศร์ 8 ต.บางกระสอ อ.เมือง นนทบุรี ขาเข้าไม่มีปัญหา แต่ขาออกจากซอย ได้มีนายชยันต์ วรวรรณปรีชา พ่อของน.ส.วิภาวัลย์ วรวรรณปรีชา อดีตผู้สมัครส.ส.เขต 2 นนทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ที่การเลือกตั้งครั้งนี้พ่ายแพ้ให้กับนายอุดมเดช ได้เดินถือมีดดาบกระโดดออกมาขวางขบวนรถขอบคุณ ตนจึงบอกไปว่าขอโทษ วันนี้มาขอบคุณ แต่นายชยันต์บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวมึงเจอกัน
นางจินตนากล่าวว่า ตนจึงบอกให้คนขับรถขับออกมาทันที แต่นายชยันต์ได้ใช้มีดฟันรถแห่ขอบคุณที่ขับตามกันมา โดยป้ายรูปนายอุดมเดช ถูกฟันเสียหาย ส่วนคนในรถ 10 กว่าคนไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจรับแจ้งไว้ 2 ข้อหาคือข่มขู่และพยายามทำร้ายร่างกาย ส่วนทำให้เสียทรัพย์ต้องรอให้นายอุดมเดช มอบอำนาจมาแจ้งความอีกครั้ง
ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNVEV3TURjMU5BPT0=§ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1TMHdOeTB4TUE9PQ==
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
