• #เจ้าบัวตองถูกใส่ร้าย ดอกบัวตองหัวใจของชาวแม่ฮ่องสอน By Chaitanunt Sri |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 24 พ.ย. 60 เวลา 16:38:41 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
หลังจากที่ นักวิชาการ ''ผศ.ดร.ศศิวิมล แสวงผล'' จากภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์เรื่องราวของดอกบัวตอง ซึ่งเป็นพืชดอกสีเหลืองที่พบได้ตามพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ และทำให้บริเวณที่ดังกล่าวกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ แต่ขณะเดียวกันก็ถูกจัดให้เป็นเอเลี่ยนสปีชีส์ หรือสายพันธุ์ต่างถิ่นด้วย
ซึ่งกลายเป็นที่กล่าวขานไปยังทั่วประเทศ เพราะ ด้วย เอเลี่ยนสปีชีส์ ที่สร้างสารพิษ ไม่ให้ต้นไม้รอบต้นดอกบัวตองเจริญเติบโต
วันนี้ เรามาฟังเสียงคนในพื้นที่ กันบ้างครับ ว่าเค้าคิดยังไง
จากบทความของ Chaitanunt Sri ที่เป็นข้าราชการรับใช้พี่น้องประชาชนใน จ.แม่ฮ่องสอน ได้เขียนไว้ดังนี้
#เจ้าบัวตองถูกใส่ร้าย
ก่อนอื่นผู้เขียนขอออกตัวก่อนว่าไม่ได้เป็นชาวแม่ฮ่องสอน โดยกำเนิด แต่เป็นเพียงข้าราชการชั้นผู้น้อยที่มาปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ 2 ปีย่างเข้าปีที่ 3 การมาทำงานที่แม่ฮ่องสอนนั้นทำให้ กระผมได้พบว่าถึงแม้ที่นี้จะเป็นจังหวัดที่อยู่ห่างไกลจากความเจริญ แต่ที่นี้เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยงธรรมชาติ มีอากาศบริสุทธิ์ ผู้คนมีความสุข เป็นคนดีมีเมตตา โอบอ้อมอารี และมีคุณธรรม แม่ฮ่องสอนนั้นผ่านเรื่องราวต่างๆ มามากมายทั้งร้ายและดี ข่าวดังล่าสุดก็เรื่องเกี่ยวกับนกที่หากินกลางคืน แต่ถึงจะมีปัญหาต่างๆมากมาย แม่ฮ่องสอนก็ยัง รอดพ้นมลธิน ยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง และในช่วง เดือน ตุลาคม – กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว จะเป็นช่วงที่แม่ฮ่องสอน เปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างถิ่นเข้ามาพักผ่อนแสะแสวงหาธรรมชาติ และตักตวงความสุขกลับไป แม่ฮ่องสอนนั้นก็พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่านทั้งชาวไทยและต่างชาติ ให้ได้รับความสุขกลับไปทุกคน ส่งผลให้ช่วงนี้เศรษฐกิจของชาวบ้านชาวเมืองที่นี้ก็จะดีขึ้นตามลำดับ
ในส่วนของทุ่งดอกบัวตอง ที่ดอยแม่อูคอ อำเภอขุนยวมนั้น ก็ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวไฮไล ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง โดยส่วนตัวผมนั้นตอนที่ยังไม่ได้ย้ายมาทำงานที่นี่ ไม่ได้มีความสนใจอะไรเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเพื่อชมดอกไม้เลย รู้ก็แต่ว่าบัวตองเป็นดอกไม้ท้องถิ่น บ้านๆ โบราณๆ เหลืองๆ สวยสู้ดอกทิวลิป ที่เขาเอามาปลูกในงานพืชสวนโลก ที่เชียงใหม่ไม่ได้เลย จนในวันหนึ่งหลังจากที่ไปปฏิบัติภารกิจที่ อำเภอแม่สะเรียงเสร็จ ขากลับทีมงานได้จัดที่พักที่ดอยแม่อูคอ 1 คืน ด้วยความที่ตกกระไดพลอยโจรจึงได้มาพักที่ดอยแม่อูคอ 1 คืนและตอนเช้าทีมงานได้พาไปชมทุ่งดอกบัวตอง ซึ่งก่อนไปความคิดที่เป็นแค่ดอกบ้านๆ เหลืองๆ ก็ยังอยู่ในหัวผมอยู่ แต่พอได้มาถึงทุ่งดอกบัวตองแล้ว มันบังเกิดความอัศจรรย์ใจขึ้นมา ทันทีทั้งอากาศที่เย็นๆ กำลังดีและห้อมล้อมไปด้วยดอกไม่ธรรมชาติสีเหลืองทำให้ กระผมนั้นรักที่นี้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก และได้เดินสำรวจจุดต่างๆ พบว่ามีพลับพลาที่ประทับของสมเด็จพระเทพฯ อยู่บริเวณจุดสูงสุดของดอยแม่อูคอ จึงได้ทราบว่าที่นี่เคยเป็นไร่ฝิ่นและเมื่อชาวบ้านเลิกปลูกฝิ่นแล้วจึงกลายเป็นทุ่งดอกบัวตองอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ การเดินทางในวันนั้นถึงจะต้องใช้แรงขาอันมหาศาลเดิน ลัดเลาะขอบเขาแต่ไม่อาจจะทำให้ผมเกิดความเหน็จเหนื่อย ยิ่งเห็นผู้คนมากมายดั้นด้นเดินทางมาจากต่างถิ่นเพื่อมาเยี่ยมชมที่นี้แล้วยิ่งเกิดความปิติยินดี รักและหวงแหนที่นี่อยากให้อยู่คู่กับ จังหวัดแม่ฮ่องสอน และประเทศไทยต่อไป ชาวบ้านและลูกเล็กเด็กแดงที่เป็นคนพื้นถิ่นที่นี่ก็ได้รับอานิสสงค์ จากการท่องเที่ยว ดอกบัวตองเจ้าช่างเป็นความภูมิใจของคนที่นี่จริงๆ
แล้วกาลเวลาล่วงเลยเข้าสู่ช่วงเบ่งบานของเจ้าบัวตอง ปี 2560 เจ้าบัวตองก็พร้อมใจกันผลิบานโชว์ความงามส่องแสงสีเหลือเต็มทุ่งดอกบัวตองอีกครั้ง แต่เจ้าดอกบัวตองนั้นกลับถูกคนต่างถิ่นใส่ร้าย ด้วยถ้อยคำหยามหมิ่นว่า เป็นนางบัวตองสยองขวัญ เป็นเอเลี่ยนแสนร้ายกาจ ที่มารุกรานทำลายระบบนิเวศ ไปเป็นพันไร่แล้ว และไม่มีทีท่าจะหยุด เทียบได้กับหนอนนิวกีนี สัตว์ต่างถิ่นน่าสยดสยอง และจะปล่อยให้นางลอยนวลแบบนี้ไปไม่ได้ นางจะสร้างสารพิษต่อพืชอื่นรอบๆ เป็นพิษหมดท้งกับข้าว ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ผักกาด หญ้าพื้นเมือง ต่อไปจะไม่มีต้นอะไรขึ้นได้รอบๆ นางอีกแล้ว นับเป็นวาทะกรรมที่ ชาวแม่ฮ่องสอนและคนที่หลงใหลในความงามดอกบัวตอง ต่างรับไม่ได้เหมือนโดนเหยียบลงกลางหัวใจ ดอกบัวตองนั้นในความเป็นจริงมิได้มีมากอย่างที่ท่านว่าไว้ ภูเขาลูกอื่นๆ ก็ไม่ได้เป็นลักษณะทุ่งบัวตองเหมือนที่นี้ ก็เป็นภูเขาธรรมดาที่มีต้นสนต้นไม้อื่นๆ ตามธรรมชาติของพื้นที่ ดอกบัวตองที่เห็นเป็นแค่หยิบมือเดียวเมื่อเทียบกับพื้นที่ทั้งหมด และก็น้อยมากเมื่อเทียบกับการทำลายป่าในรูปแบบอื่น เช่นการทำไร่เลื่อนลอย การปลูกข้าวโพดเลี้ยวสัตว์ ดอกบัวตองกลายเป็นจำเลยของสังคม คนต่างถิ่นท่านนั้นไม่ดูบริบทของพื้นที่แม่ฮ่องสอนว่าเป็นอย่างไร ปัญหาเกิดจากตรงใหน เอาแต่จะโทษเจ้าบัวตอง หวังเพียงแต่จะทำลายเจ้าเพื่อประโยชน์อันใด ทำไมไม่เห็นใจและสอบถามคนในพื้นที่ว่าต้องการให้เกิดการทำลายหรือไม่ ท่านลองกลับไปคิดใหม่ ลองให้โอกาสเจ้าดอกบัวตองได้ใหม ลองมาที่นี่สักครั้ง มาดูว่ามันมากล้นจนเป็นปัญหาหรือไม่ ผมเชื่อว่าถ้าท่านได้พบเจอด้วยตัวเองแล้วท่านจะรักทุ่งดอกบัวตอง รักแม่ฮ่องสอน เหมือนผม ดอกบัวตองไม่ใช่แค่ดอกไม่เศรษฐกิจของจังหวัดแม่ฮ่องสอน แต่เป็นดอกไม้ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอนและเป็นหัวใจของชาวแม่ฮ่องสอน
สำหรับมินโน้ต แล้ว ... ผู้ทำลายที่น่ากลัวที่สุด ก็คือ มนุษย์อย่างเราๆ นั่นเอง ครับ
ข่าว/บทความ ที่เกี่ยวข้อง
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 11559 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 24 พ.ย. 60
เวลา 16:38:41
|