ประกันสังคม ฉาวอีก ข่าว ระบุ เงินชดเชยว่างงานไม่ได้ง่ายๆ หลังโดนร้องเรียนเรื่อง เงินชดเชยว่างงาน เป็นจำนวนมาก อะๆ หลายคนอาจสงสัยว่า เงินชดเชยว่างงาน จาก สำนักงานประกันสังคม หรือ ประกันสังคม คืออะไร วันนี้เราจึงเอาหลักเกณฑ์ผู้มีสิทธิรับเงินทดแทนกรณีว่างงานของ ประกันสังคม (สปส.)มาฝากกันค่ะ
ผมได้ลาออกจากบริษัทเดิม ในลักษณะเออลี่รีไทร์ (โดยได้เงินชดเชยบางส่วนจากบริษัท) แต่ถ้าหากว่า ตั้งแต่วันที่ผมลาออกจากบริษัทเดิม จนบัดนี้ผมยังหางานทำไม่ได้ สมมติว่า
ว่างงานมาแล้ว 4 เดือน ผมสามารถไปขอเงินชดเชยจากสำนักงานประกันสังคมได้หรือไม่ครับ
กรณีว่างงานที่ประกันสังคมบอกว่า คนที่ลาออกจากงาน ที่ยังว่างงานจะได้เงินชดเชย 30% ของเงินเดือน ตลอด 3 เดือนหรือไม่ และในลักษณะนี้ ผมว่างงานมา 4 เดือน ผมสามารถไปขอเงินชดเชยย้อนหลังได้หรือไม่ครับ
ขอความกระจ่างด้วย ขอบคุณครับ
หลานป้าแจ่ม
ตอบ
หลังจากที่ลาออกจากงาน คุณต้องรีบไปขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานที่สำนักงานจัดหางานของรัฐภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ว่างงาน ตามหลักเกณฑ์จะได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้าง (คำนวณจากฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท) ปีละไม่เกิน 90 วัน
ถ้าเกินกว่า 30 วัน (ไม่เกิน 90 วัน) ยังไม่ไปขึ้นทะเบียน ก็ยังสามารถไปขึ้นทะเบียนว่างงานได้ แต่จะไม่ได้รับเงินทดแทนตามเงื่อนไข หรือเต็มจำนวนในอัตราร้อย 30 อาจจะได้รับลดหลั่นลงไปตามจำนวนวันที่มาขึ้นทะเบียน
เจ้าหน้าที่ศูนย์สารสนเทศ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ชี้แจงว่า กรณีที่คุณว่างงานมาแล้ว 4 เดือน ไม่สามารถขอรับเงินชดเชยย้อนหลังได้ เพราะเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ 30 วัน แต่ยังสามารถขึ้นทะเบียนว่างงานที่สำนักงานจัดหางานของรัฐได้ ในกรณีที่ยังต้องการหางานทำ
หลักเกณฑ์ผู้มีสิทธิรับเงินทดแทนกรณีว่างงาน คือ ต้องเป็นผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบในส่วนของกรณีว่างงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนการว่างงาน
เงื่อนไขการเกิดสิทธิ
1. ต้องขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานที่สำนักงานจัดหางานของรัฐภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ว่างงาน โดยไม่ต้องรอหนังสือรับรองการออกจากงาน เพื่อเป็นการแสดงสิทธิในเบื้องต้น
2. มีความสามารถในการทำงาน และพร้อมที่จะทำงานที่เหมาะสมตามที่จัดหาให้
3. ต้องไม่ปฏิเสธการฝึกงาน
4. ต้องรายงานต่อเจ้าหน้าที่สำนักจัดหางาน ไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ครั้ง
5. ผู้ที่ว่างงานต้องไม่ถูกเลิกจ้างเนื่องจากกรณีทุจริตต่อหน้าที่, กระทำผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง, จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย, ฝ่าฝืนข้อบังคับ หรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงาน หรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายในกรณีร้ายแรง, ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 7 วันทำงานติดต่อกัน โดยไม่มีเหตุอันควร, ประมาทเลินล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง และได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษา
6. ต้องมิใช่ผู้มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ
7. มีสิทธิรับประโยชน์ทดแทนเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 นับแต่วันว่างงานจากการทำงานกับนายจ้างรายสุดท้าย
8. ไม่เป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจตามมาตรา 39
สิทธิที่จะได้รับประโยชน์ทดแทนแบ่งเป็น 2 กรณี คือ
1. กรณีถูกเลิกจ้าง จะได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 180 วัน ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง โดยคำนวณจากฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท และ
2. กรณีสมัครใจลาออก จะได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 90 วัน ในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้าง โดยคำนวณจากฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท
หากใน 1 ปีปฏิทินมีการยื่นขอรับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานเกินกว่า 1 ครั้ง ให้นับระยะเวลาการรับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานรวมกันไม่เกิน 180 วัน
เงินทดแทนการขาดรายได้จะจ่ายเป็นงวดเดือน โดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารตามที่ผู้ประกันตนแจ้ง
ลุงแจ่ม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง - โดนวิจารณ์หนัก! บอร์ด ประกันสังคม ถลุงเงิน กองทุน เที่ยว - ธปท.หวั่นภาระเงินกองทุนสปส. ในอนาคตจะมีปัญหา - โรงพยาบาลที่คาดว่าจะไม่ต่อสัญญา กับสำนักงานประกันสังคม - บอร์ดประกันสังคม ขนเงิน1.36หมื่นล้าน ลงทุนนอกหากำไร - เงินประกันสังคม ที่จ่ายแต่ละเดือน หายไปไหนหว่า? - ทำฟัน-คลอดบุตร ประกันสังคมใหม่ไม่ฟรีแต่เพิ่มวงเงิน - 112 โรงพยาบาล ชิ่งหนีประกันสังคม - เงินล้นกองทุน "ประกันสังคม " แต่ทำไมคนจ่ายได้สิทธิต่ำ?
ข้อมูลจาก คอลัมน์ : เปิดซองส่องไทย ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
|