เชื่อว่าคนที่ติดตามข่าวในแวดวงไอทีคงจะแปลกใจกับข่าวที่เฟซบุ๊กของ "มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก" เสนอซื้อกิจการของบริษัทสแนปแชตของเด็กหนุ่มจากสแตนฟอร์ดที่ถือกำเนิดได้เพียงระยะเวลาประมาณ 2 ปีเศษ เป็นเงินสดสูงถึง 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่กลับได้รับการปฏิเสธ 

ที่แปลกใจส่วนหนึ่งอาจสงสัยว่าทำไมมูลค่าบริษัทเกิดใหม่บริษัทนี้ถึงสูงมากขนาดนั้น อีกส่วนหนึ่งสำหรับคนอีกจำนวนหนึ่งอาจไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าสแนปแชตคืออะไร

"สแนปแชต" คือแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนสำหรับการรับส่งภาพถ่ายหรือวิดีโอพร้อมข้อความ ที่เริ่มแรกจากโปรเจ็กต์
ปริญญาตรีในวิชาเรียนที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด โดย "อีวาน สปีเกล และบ็อบบี้ เมอร์ฟี" เปิดตัวจริง ๆ กันในเดือนกันยายน 2011 และใช้เวลาไม่นานนักก็เริ่มได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง เพียงปีเดียวหลังการเปิดตัวก็มีภาพที่ส่งผ่านสแนปแชตมากกว่า 1,000 ล้านภาพ 

เริ่มต้นจากแอปพลิเคชั่นบน iOS แล้วขยายต่อมาบนแอนดรอยด์ในพ.ย. 2012 ไม่เพียงปฏิเสธการขายด้วยข้อเสนอ 3,000 ล้านเหรียญจากเฟซบุ๊กเท่านั้น ยังมีข่าวด้วยว่าสแนปแชตปฏิเสธข้อเสนอ 4,000 ล้านเหรียญจากกูเกิลด้วย ทั้งที่สแนปแชตไม่ได้มีรายได้อะไรนอกจากมีฐานผู้ใช้งานเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่น่าสนใจสำหรับสองยักษ์ใหญ่

แน่นอนว่าในโลกของแอปพลิเคชั่นบนพื้นฐานของ "โมบายดีไวซ์" การเติบโตอย่างรวดเร็วของบริษัทเกิดใหม่อาจไม่แปลกนัก บริษัทที่ผ่านประสบการณ์แบบนั้นมาแล้วมีให้เห็นเป็นตัวอย่าง ไม่ว่าจะเป็น "กูเกิล เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์" ที่มูลค่าบริษัทเพิ่มสูงมากในเวลาอันสั้น ทว่า กรณีของสแนปแชตต้องถือเป็นปรากฏการณ์ที่ยากจะหาอะไรมาเทียบได้

เมื่อพิจารณาจากผู้ใช้งานจะพบว่า สแนปแชตเป็นแอปพลิเคชั่นประเภทโดนใจวัยรุ่น คนใช้ส่วนใหญ่อายุระหว่าง 13-23 ปี

การเติบโตจริง ๆ ของสแนปแชตตามที่สปีเกลเคยให้สัมภาษณ์ไว้กับเทกครันช์คือ การบอกต่อกันแบบปากต่อปากจากโรงเรียนแถบลอสแองเจลิสในหมู่นักเรียน พวกเขาใช้มันระหว่างอยู่โรงเรียนในการส่งโน้ตและสื่อสารกัน

ปัจจุบันการส่งภาพผ่านสแนปแชตขึ้นไปสูงถึง 350 ล้านภาพต่อเดือน จาก 200 ล้านภาพในเดือนม.ย.

การเติบโตของสแนปแชตสะท้อนให้เห็นถึงยุคของวิดีโอเมสเซจจิ้ง โดยมีวัยรุ่นเป็นตัวขับเคลื่อน ส่วนหนึ่งเพราะความง่ายที่จะส่งภาพหรือคลิปสั้น ๆ (ความยาววิดีโอไม่เกิน 10 วินาที) ไปพร้อมข้อความหรือใช้เครื่องมือเขียนทับลงบนภาพหรือวิดีโอได้ ภาพและวิดีโอที่ส่งไปจะไม่มีการบันทึกลงในเครื่องของผู้รับ รวมทั้งในเซิร์ฟเวอร์ของสแนปแชต ซึ่งนี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่วัยรุ่นนิยมใช้กัน 

การจับกลุ่มวัยรุ่นได้เป็นพื้นฐานสำหรับการเติบโตได้เป็นอย่างดีของแอปพลิเคชั่น แต่ธรรมชาติของวัยรุ่นคือ มาเร็วไปเร็ว ตัวอย่างในอดีตที่เห็นชัดคือการเติบโตอย่างรวดเร็วของมายสเปซ ตามมาด้วยความตกต่ำอย่างรวดเร็วเช่นกัน จากที่เคยมีผู้ใช้ในกลุ่มวัยรุ่นมากกว่าร้อยละ 80 ปัจจุบันมายสเปซเหลือวัยรุ่นอยู่ไม่ถึงร้อยละ 7

แม้กระทั่ง "เฟซบุ๊ก" ซึ่งมีฐานผู้ใช้กว่า 1,000 ล้านคน ความนิยมในหมู่วัยรุ่นเริ่มถอยลงหนีไปหาทวิตเตอร์-อินสตาแกรมมากขึ้น

การเติบโตจากฐานของวัยรุ่นมีลักษณะมาเร็วและพร้อมจะไปเร็ว ขึ้นอยู่กับว่าจะต่อยอดเพื่อรักษาฐานเก่าและสร้างผู้ใช้ใหม่ขึ้นมาได้หรือไม่ในระยะยาว สแนปแชตน่าจะเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจติดตามดู