กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
9 ก.ค.60 ภาพ งานพิธีบวงสรวง"กู่พญาอาทิตยราช" ผู้ครองนครหริภุญไชยองค์ที่32 และเป็นผู้สร้างองค์พระธาตุหริภุญไชย จังหวัดลำพูน
กู่พญาอาทิตยราช ตั้งอยู่ในซอย จามเทวีซอย 1
ภาพโดย Jumras Upara
ยุคพญาอาทิตยราชกษัตริย์ลำดับที่ 32 พญาอาทิตตะผู้เป็นพระบิดาทรงเป็นประธานในการสร้างปราสาทราชมณเฑียรใหม่ เพื่อให้พญาทิตยราชเข้าประทับอยู่ และสร้างที่วลัญชนฐาน(ที่เป็นที่ชำระ) อยู่บนฐานะขององค์พระธาตุที่อยู่ใต้พสุธาในฐานะที่นั้น ซึ่งหลานพญากาเผือกได้รักษาไว้ เมื่อพระองค์จะเสด็จมายังที่แห่งนี้มันจะบินผ่านพระพักตร์ถึง 2 – 3 ครั้ง เพื่อมิให้พระองค์เสด็จไปใช้วลัญชนฐานได้ พญาอาทิตยราชทรงรำพึงว่า “กูจะไปใช้วลัญชนฐานคราใด กาตัวนี้ ไฉนมาบินผ่านหน้ากูถึง 2 – 3 ครั้ง มิให้กูไปใช้วลัญชนฐานนี้ได้ ชรอยจะมีเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งในฐานะที่นี้เป็นแน่”
ในคืนนั้นจวนรุ่งสว่าง พระองค์ยังบรรทมอยู่ในที่สิริไสยาสน์ เทวดาผู้รักษาพระธาตุของพระพุทธเจ้า มาเข้าสุบินนิมิตรว่า “ถ้าพระองค์ ใคร่ทรงทราบเหตุที่มีอยู่ใน “ฐานะ” ที่นี้ไซร้ ให้พระองค์จงทรงนำทารกที่เกิดได้ 7 วันมาเลี้ยงไว้อยู่ใกล้กา 7 วัน แล้วนำออกมาไว้เลี้ยงกับคน 7 วัน ทำเช่นนี้ต่อเนื่องเป็นเวลาประมาณ 7 ปี พระองค์จึงรับสั่งให้เด็กน้อยนั้นถามกาดู พระองค์ก็จะทรงทราบยังเหตุที่มีอยู่ใน “ฐาน” ที่นี้โดยแท้”
จากนั้นก็รับสั่งให้หาทารกที่พึ่งเกิดได้ 7 วัน นำไปนอนไว้ใกล้กามีกำหนด 7 วัน แล้วนำมาอยู่กับคนสิ้น 7 วัน กระทำตามคำเทวดาบอกสลับกันไปเช่นนี้จนครบ 7 ปี เด็กน้อยผู้นั้นก็รู้และเข้าใจภาษากา
เมื่อครบเจ็ดปี จึงรับสั่งให้เด็กน้อยคนนั้นถามกาดู กาตัวนั้นเมื่อได้ยินเด็กน้อยถามก็ตอบว่า “พญากาเผือกปู่ของข้าเล่าว่า เมื่อพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ ได้เสด็จมาที่นี้ ทรงเสวยหมากสมอแล้วทรงทำนายว่า “เมื่อพระตถาคตนิพพานไปแล้วเป็นเวลานาน หินที่ตถาคตนั่งนี้ จักเป็นที่ตั้งแห่งสุพรรณเจดีย์ของตถาคต ธาตุกระหม่อม ธาตุกระดูกกอก ธาตุกระดูกนิ้วมือและธาตุย่อยเต็มบาตร จักมาตั้งอยู่ ณ ที่นี้” ปู่ของข้าจึงแต่งตั้งให้ข้ามาอยู่เฝ้ารักษา “ฐานะ” ที่นี้ไว้ เพื่อมิให้สัตว์และคนมาทำสกปรกแก่ “ฐานะ” ที่นี้แล”
พญาอาทิตยราชทรงสดับถ้อยคำทั้งมวลแล้ว ก็มีพระหทัยอภิรมย์ชมชื่นยินดีมากนัก สั่งให้ข้าทาสทำความสะอาดแผ้วถางปราบปรับพื้นที่นั้นให้เรียบราบเสมองามดี โปรยปรายด้วยทรายและข้าวตอกดอกไม้ น้ำอบน้ำหอมจันทร์กฤษณา ฝังกล้วย,อ้อย,ปักช่อน้อย,ทุงชัย ประดับโคมไฟล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน และให้ประดับเมืองหริภุญชัยทั้งภายนอกและภายในพระนคร งามประดุจเมืองดาวดึงษ์สวรรค์ ให้ประชาวเมืองประดับร่างกายด้วยสรรพาอาภรณ์ มีมือถือดอกไม้ของหอมพร้อมกับทุกคน ส่วนพระองค์ก็ทรงประดับพระวรกายด้วยเครื่องราชอลังการ
เมื่อตระเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว พระองค์พร้อมด้วยประชาชนทั้งหลาย จึงคุกเข่าลงยอมือตั้งไว้เหนือกระหม่อมน้อมนมัสการ นิมนต์พระสงฆ์สูตร(เจริญ) พระปริตมงคล มีธรรมจักกัปปวัตนสูตรและมหาสมัยสูตรเป็นต้น
พญาอาทิตยราชทรงอ้อนวอนอาราธนาขอให้ “พระธาตุของพระพุทธเจ้า” โปรดได้เสด็จออกมาให้ปรากฎ ในพลันนั้น ธาตุของพระพุทธเจ้าทั้งโกศก็ออกมาพ้นแผ่นดิน แล้วเหาะขึ้นไปลอยอยู่ในอากาศสูงประมาณช่วงต้นตาล เปล่งฉัพพัณณรังสีแผ่กระจายไปทั่วเมืองหริภุญชัย
พญาอาทิตยราช,พญากาเผือกและชาวเมืองทั้งมวล ได้เห็นเช่นนั้น ก็มีใจอภิรมย์ชมชื่นโสมนัสเปล่งเสียงสาธุการ กระทำการสักการะบูชาและถวายทานเป็นอันมาก และให้อบรมสมโภชด้วยดุริยดนตรีทั้งปวง
ธาตุพระพุทธเจ้าลอยอยู่ในอากาศนานได้ 7 วัน แล้วเสด็จลงมาประดิษฐานบนแผ่นดินเหมือนเดิม พระองค์จึงสั่งให้คนทั้งหลายขุดเอาธาตุพระพุทธเจ้าและโกศธาตุของพระพุทธเจ้าขึ้นมา แต่ยิ่งขุดลงไปเท่าใด ธาตุและโกศพระธาตุนั่นก็เลื่อนไหลลงไปเท่านั้น พระองค์จึงทรงทำสักการะบูชาของอาราธนาตั้งจิตอธิษฐาน ฉับพลันนั้นพระธาตุทั้งโกศก็ผุดโผล่ออกจากในดินขึ้นลอยขึ้นมาสูงบนดินได้ 3 ศอก เปล่งฉัพพัณณรังสี 6 ประการ สุกสว่างทั่วเมืองหริภุญชัยเป็นเสมอดั่งเมื่อครั้งพระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์อยู่และทรงกระทำยมกปาฏิหาริย์ฉันนั้น
พญาอาทิตยราช มีพระทัยโสมนัสยินดี จึงจัดพิธีอบรมสมโภชน์พระธาตุของพระพุทธเจ้าตลอด 7 วัน 7 คืน แล้วจึงรับสั่งให้หาช่างทองมาทำโกศทองคำลูกหนึ่งมีน้ำหนัก 3,000 กำ สูง 3 ศอก ประดับด้วยรัตนะทั้ง 7 ประการ ครอบโกศพระธาตุพระพุทธเจ้า
ลพ. 037พญาอาทิตยราช ก็ให้ช่างทั้งหลาย ก่อสร้างปราสาทหลังหนึ่งมี 4 เสา มีโขง(โค้ง)ทั้ง 4 ด้าน สูง 12 ศอก ปราสาทหลังนี้ ก่อด้วยอิฐดิน,อิฐเงิน,อิฐทองคำ แต่ละก้อนมีน้ำหนัก 1,500 วิจิตรด้วยรัตนะ 7 ประการ สร้างครอบโกศทองคำอีกชั้นหนึ่ง แล้วพระองค์ก็ทรงกระทำการสักการบูชาและถวายทานเป็นอันมาก ได้ทรงถวายทานทาสไว้สำหรับปฏิบัติดูแลรักษา ถวายไม้สีฟันและน้ำล้างหน้าแก่พระธาตุเจ้าจำนวน 4 ครัวเรือน พระองค์ก็ทรงบำเพ็ญกุศล มีถวายทานและรักษาศีลทำบุญเป็นประจำ ตราบเท่าเสด็จสวรรคต และได้ไปเสวยบุญแห่งพระองค์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|