• หนี้ค้างชำระ(สมัยเมื่อปีมะโว้) |
โพสต์โดย เป็นหนี้สมัยปีมะโว้แล้วค่ะ , วันที่ 07 ก.พ. 55 เวลา 11:55:02 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ขอรบกวนปรึกษาท่านใดที่รู้ค่ะ คือเมื่อประมาณปี2546 (ผ่านมาแล้ว9ปี) ดิฉันได้ใช้บริการบัตรสินเชื่อกับบริษัทหนึ่ง ตอนนนั้นจำได้ว่าได้รับวงเงินประมาณ10,000บาทค่ะ และได้ใช้บัตรผ่อนชำระสินค้าในขณะนั้นจำได้ว่าค้างชำระกับบริษัทอยู่ประมาณพันกว่าบาท หลังจากนั้นดิฉันได้ลาออกจากที่ทำงานเดิมเนื่องจากต้องย้ายไปทำงานต่างจังหวัด โดยไม่ได้ปิดบัญชีและชำระหนี้ที่ค้างจำนวนดังกล่าว
ในตอนนั้นจำได้ว่ากำลังวุ่นอยู่กับการเตรียมตัวย้ายไปต่างจังหวัด มีเจ้าหน้าที่จากทางบริษัทนี้โทรมาทวงถามให้ชำระหนี้อยู่เหมือนกัน โดยก่อนหน้านั้นได้มีจดหมายมาเตือนให้ชำระครั้งสุดท้ายแล้วมิเช่นนั้นจะโดนฟ้องอายัดทรัพย์ถึงศาล
ดิฉันยอมรับว่าตอนนั้นเป็นความผิดของเราเองที่ผิดนัดชำระ แต่ด้วยความไม่พอใจบวกกับอารมณ์ฉุนส่วนตัวที่บอกเขาไปว่าดิฉันผ่อนสินค้า(โทรศัพท์)มาจะเกือบหมดแล้วที่ผ่านมาก็ไม่เคยผิดนัดชำระเลย เหลือยอดค้าชำระล่าสุดพันกว่าบาทเดี๋ยวดิฉันเข้าไปจ่ายให้หรือโอนตามเคาน์เตอร์เซอร์วิสให้ก็ได้ ทำไมต้องถึงขั้นโทรฯมาตามแล้วตามอีก แถมยังมีจดหมายประทับตราสีแดงว่าเป็นหมายศาล ขู่จะฟ้องท่าเดียว ถ้าดิฉันคิดจะโกงทำไมต้องโกงแค่เงินพันกว่าบาท เอามากกว่านั้นไม่ดีเหรอ
หลังจากนั้นดิฉันก็หักบัตรผ่อนสินค้าใบนั้นทิ้งโดยไม่สนใจอีกเลยว่าจะตามมาทวงถามยังงัยก็ช่าง เวลาผ่านไปตามที่ดิฉันเล่ามาก็ได้ย้ายกลับมาอยู่บ้านที่เชียงใหม่(กลับมาแล้วได้ประมาณ3-4ปี) อยู่ๆก็มีจดหมายจากบริษัทนี้ส่งมาที่บ้านอีก คราวนี้เป็นลักษณะหนังสือจากสำนักงานทนายความอ้างถึงสัญญาเช่าซื้อจากบริษัทเดิมโดยแจ้งมาว่าให้เราไปชำระหนี้ที่ค้างเมื่อปี46 ซึ่งรวมค่าติดตามทวงถามแล้วประมาณสี่พันกว่าบาท ในจดหมายบอกว่าถ้าไม่รีบไปชำระจะโดนฟ้องศาลเพื่อบังคับคดี
ดิฉันควรจะนำจดหมายฉบับนี้ไปติดต่อขอชำระหนี้ที่ค้างทั้งหมด หรือจะชำระแค่บางส่วนก่อน หรือยังงัยดีคะ ตั้งแต่ดิฉันติดหนี้กับบริษัทนี้ก็ไม่เคยทำบัตรอะไรอีกเลยเพราะติดเครดิตบูโรบริษัทนี้มาตลอด(มันกัดไม่ยอมปล่อย)เลยค่ะ ดิฉันก็ยอมรับว่าหัวแข็งใส่มันมากประมาณว่า(จะเอางัยกะกูก็เอา) เวลาที่ผ่านมาไม่เคยยอมจำนนมันง่ายๆเลย
แต่ดิฉันมาเปลี่ยนใจได้ตอนนี้เพราะคำของแม่สอนว่าเป็นหนี้ก็ค่อยๆให้เขาไปเถอะ เพราะอีกหน่อยจะมีผลต่ออนาคตเราและอาจโยงไปถึงครอบครัวหรือลูกเต้าเราด้วย และดอกเบี้ยก็ต้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในขณะที่เวลาผ่านไปเป็นปีๆ ถ้ามันกัดเราไม่ปล่อยอย่างนี้ อนาคตครอบครัวเราคงประวัติเสียไปกันหมดเพราะเราคนเดียว ให้มันไปเถอะดีกว่าเราจะนอนตายตาไม่หลับเพราะเป็นหนี้มัน อาจไปตามทวงเราจนถึงชาติหน้า
เรื่องราวทั้งหมดนี้ดิฉันยอมรับว่าตัวเองก็เป็นฝ่ายผิด แต่ด้วยอารมณ์ชั่ววูบที่ผ่านมามันก็ทำให้ดิฉันเรียนรู้และคิดได้บางอย่าง หรือเพื่อนๆและใครที่รู้และมีประสบการณ์อย่างเรื่องดิฉัน ช่วยแนะนำให้หน่อยนะคะ ขอบคุณไว้ล่วงหน้าค่ะ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 6533 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย เป็นหนี้สมัยปีมะโว้แล้วค่ะ
IP: Hide ip
, วันที่ 07 ก.พ. 55
เวลา 11:55:02
|