เมื่อช่วงเช้าที่่ผ่านมา รายการ 5 เช้าข่าวดี ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์เปิดใจ นางนัฐกนก วันเพ็ญ หรือ ยายอ้อย หญิงชราซึ่งอ้างว่าเป็นแม่ของนักแสดงตลก โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม ซึ่งตกเป็นข่าวตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังระบุว่าถูกลูกชายและลูกสะใภ้ไม่ให้อยู่ที่บ้าน จนต้องมาอาศัยอยู่ที่ วัดพระยาสุเรนทร์ ย่านคลองสามวา มาเป็นเวลา 4 เดือนแล้ว

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยและสอบถาม ยายอ้อย อยู่ประเด็น นางนัฐกนก ยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า เธอเป็นแม่ของ โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม ดาราตลกชื่อดัง "ฉันเป็นแม่เขา ไม่เชื่อก็ลองไปถามดูที่ที่เขาคลอดได้ ที่ จ.กาญจนบุรี เขาคลอดอยู่บนแพลอยน้ำ แล้วตอนนี้คนที่ฉันเคยจ้างให้เลี้ยง เขาตายไปแล้ว ก็เลยไม่มีคนมายืนยัน ฉันเลี้ยงลูกชายคนนี้ มาตลอดอายุฉัน 70 ปี"

ยายอ้อย เล่าถึงเหตุการณ์ผกผันเมื่อ 4 ก่อน "โดนลูกสะใภ้ด่าและไล่ออกมาจากบ้าน ตอนนั้นเขาไม่อยู่บ้านหรอก ฉันไม่เคยเล่าให้ลูกเลย เขาไล่ฉัน ไม่ให้ฉันอยู่ เขาบอกว่า 'ที่นี่มันไม่ใช่บ้านมึ- แต่เป็นบ้านกู' เวลาไปไหนมา ถืออะไรกลับเข้ามาบ้านเขาไม่ได้เลย มันจะด่า 'เอาสมบัติมาให้รกบ้านกูอีกแล้ว' เมียเขาใจร้ายมากๆ เลย ถึงขั้นเขาน้ำยามาราดพื้น กะให้ฉันเดินไปแล้วลื่นล้มหัวฟาดพื้น แต่เรื่องนี้ฉันไม่เคยบอกลูกเลยนะ ฉันกลัวพวกเขาจะทะเลาะกัน ไม่อยากให้ครอบครัวเขาต้องทะเลาะกัน"

เมื่อถูกสะใภ้ด่าทออย่างรุนแรง ถึงขั้นมีแผนทำให้ลื่นล้มหัวฟาดพื้น ยายอ้อย จึงตัดสินใจไม่อยู่บ้านหลังนี้อีกต่อไป "พอวันรุ่งขึ้น ฉันก็ออกมาเลย ไปที่เขตคลองสามวา นั่งร้องไห้ถามเขาว่า ฉันจะทำยังไงดี ฉันไม่มีทางไปแล้ว หาที่อยู่ให้ฉันใหม่ที ฉันอยู่ไปก็ไม่ไหว เราจะไปยุแยงให้ครอบครัวเขาทะเลาะกัน เราทำไม่ได้ ได้แต่เก็บเอาไว้ข้างในอก สู้หนีออกไปดีกว่า (เสียงสะอื้น) เงินจะมีไม่มีก็ออกมาเถอะ แล้วคิดว่าลูกจะเชื่อเราเหรอ เขาก็ต้องเชื่อเมียเขาสิ เพราะเขารักเมีย ฉันก็เลยต้องปล่อยวาง"

แต่เมื่อ โป๊งเหน่ง ออกมาบอกว่า เธอไม่ใช่แม่แท้ "ฉันก็ไม่รู้จะคิดว่ายังไง ก็แล้วแต่เวรแต่กรรม เมื่อเขาทำได้ ฉันเชื่อว่าไม่เร็วหรือช้า กรรมก็จะไปถึงเขา ฉันพร้อมที่จะให้ตรวจดีเอ็นเอ ถ้าผลออกมาไม่ใช่แม่ลูกกัน ฉันจะยินดีเลิกไป ก็จะคิดเสียว่าฉันจะเคยไม่มีลูกชายคนนี้ แต่ถ้าผลออกมาว่าใช่ ก็ต้องการให้เขาดูแลกันบ้าง รักษาโรคที่ฉันป่วยอยู่ แต่จะให้ฉันกลับไปอยู่ในบ้านหลังนั้น ฉันไม่ไปอยู่แน่ ขออยู่ข้างนอกดีกว่า"

"ฉันไม่เป็นห่วงเขานะ ช่างเจาเถอะ เขากับลูกสะใภ้ทำกับฉันเอาไว้เยอะ เว้นแต่ถ้าเขาจะขอขมากับสิ่งที่ทำกับฉันไว้ ฉันก็พร้อมจะให้อภัย ก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับเขาหรอก ฉันรักมาก มีเขาแค่คนเดียว มีอะไรก็ให้เขา รถก็ซื้อให้ บ้านก็ยอมขายเอาเงินให้เขา เขารักเมียกกว่า เขาเปลี่ยนไปเยอะมาก"

สุดท้าย ยายอ้อย ฝากบอกถึงลูกชายคนนี้ทั้งน้ำตาว่า " (ร้องไห้) ยังไงก็สงสารแม่บ้างเถอะ แม่เหนื่อยมามากแล้ว อย่าอะไรกับแม่มากเลย แม่ไม่มีที่อยู่และก็แก่มากแล้ว ถ้ายังรับแม่เป็นแม่ เราก็ต้องอภัยซึ่งกันและกัน แต่ถ้าจะรับกลับไปอยู่บ้าน แม่ไม่ไปอยู่ให้ผัวเมียทะเลาะกันหรอก แม่ไม่กลับแน่นอน"

สำหรับประเด็นนี้ โป๊งเหน่ง ยังยืนยันที่จะตรวจดีเอ็นเอ และยืนยันว่า ยายอ้อย ไม่ใช่แม่แท้ของตัวเอง ซึ่งเขายังคงเก็บตัวและรวบรวมหลักฐานบาง เพื่อนัดสื่อมวลชนมาชี้แจงกรณีนี้พร้อม เพื่อแก้ต่างที่เขากำลังตกเป็นจำเลยสังคมอยู่ในขณะนี้

ขอบคุณข่าวและภาพจาก รายการ 5 เช้าข่าวดี ทาง ททบ.5