ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
วันที่ 10 ธันวาคม ของทุกปี ถือเป็นวันรัฐธรรมนูญของไทย เป็นวันคล้ายวันที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ได้พระราชทาน รัฐธรรมนูญแผ่งราชอาณาจักรสยาม เป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ โดยมีพระปรารภหวังว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะเป็นที่สถาพร มีประสิทธิภาพ เป็นบ่อเกิดแห่งความสุขของประชาชน และนำให้ประเทศชาติบ้านเมือง บรรลุถึงความเจริญวัฒนา เท่าเทียมนานาประเทศ
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก่เจ้าพระยาพิชัยญาติ (ดั่น บุนนาค) ประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 หลังจากนั้น ทรงสละราชสมบัติ ในวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 ขณะทรงประทับอยู่ที่สหราชอาณาจักร หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองเพียงปีเศษ โดยทรงมีเหตุผลในการตัดสินพระทัย ตามความในพระราชหัตถเลขา ดังนี้
"ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจ อันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิมให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้า ให้แก่ผู้ใด คณะใด โดยเฉพาะ เพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาราษฎร
บัดนี้ ข้าพเจ้าเห็นว่า ความประสงค์ของข้าพเจ้า ที่จะให้ราษฎรมีสิทธิออกเสียง ในนโยบายของประเทศไทยโดยแท้จริงไม่เป็นผลสำเร็จ และเมื่อข้าพเจ้ารู้สึกว่า บัดนี้ เปนอันหมดหนทาง ที่ข้าพเจ้าจะช่วยเหลือ ให้ความคุ้มครองแก่ประชาชนได้ต่อไปแล้ว ข้าพเจ้าจึงขอสละราชสมบัติ และออกจากตำแหน่งพระมหากษัตริย์ แต่บัดนี้เปนต้นไป ข้าพเจ้าขอสละสิทธิของข้าพเจ้าทั้งปวง ซึ่งเปนของข้าพเจ้าอยู่ในฐานะที่เปนพระมหากษัตริย์ แต่ข้าพเจ้าสงวนไว้ซึ่งสิทธิทั้งปวง อันเปนของข้าพเจ้าแต่เดิมมา ก่อนที่ข้าพเจ้าได้รับราชสมบัติสืบสันตติวงศ์"
|
พระราชทานรัฐธรรมนูญ
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม วันที่ 10 ธันวาคม 2475 ทรงลงพระปรมาภิไธยในรัฐธรรมนูญฉบับถาวร สำหรับพระราชทานให้ใช้เป็นกฎหมายสูงสุด ในการปกครองอาณาจักรสยาม ในระบอบประชาธิปไตย |
|
พระราชทานวโรกาส
ให้คณะราษฎร ข้าราชการ ทหาร พลเรือนและประชาชน เข้าเฝ้าทูลละอองธุรีพระบาท เสด็จออก สีหบัญชร ณ พระที่นั่งอนันตสมาคมพระราชวังดุสิต หลังจากทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว |
|
พิธีสมโภชรัฐธรรมนูณฉบับถาวร
ในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พระบาทสมเด็จพระปกเเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงตระเตรียมที่จะพระราชทานอำนาจอธิปไตย ให้แก่ราษฎรอยู่แล้ว แต่เมื่อมีคณะราษฏร์แสดงความปรารถนาอย่างแรงกล้า โดยเข้ายึดอำนาจการปกครองแผ่นดิน ทรงละพระบรมเดชานุภาพลงด้วย ไม่มีพระประสงค์จะให้มีการขัดใจระหว่างชาวไทยด้วยกัน ทรงเสด็จออก ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ ในพิธีสมโภชรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2475 |
|
รัฐธรรมนูญ
รัฐธรรมนูญฉบับถาวร ที่ทรงลงพระปรมาภิไธย เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 สำหรับให้ใช้เป็นกฎหมายสูงสุด ในการปกครองประเทศสยาม ในระบอบประชาธิปไตย |
|
ทรงสละราชสมบัติ
ในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2523 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่9) เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปในการพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ รัฐสภา ซึ่งเป็นที่ฐานพระบรมราชานุสาวรีย์นั้น มีลายจารึกพระราชหัตเรขาจำลอง เมื่อครั้งประกาศสละราชสมบัติ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 |
|
พระบรมราชานุสาวรีย์
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้สร้างพระบรมรูป เพื่อเป็นพระบรมราชานุสรณ์ ในการที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานรัฐธรรมนูญแก่ปวงชนชาวไทย |
|
อำนาจนิติบัญญัติ
เป็นอำนาจในการบัญญัตกฎหมายต่างๆ ซึ่งประชาชนเป็นผู้เลือกผู้แทนของตนเข้าไปเป็นตัวแทนในรัฐสภา ซึ่งเป็นสภาที่มีหน้าที่บัญญัติออกกฎหมายต่างๆ ซึ่งผู้แทนนี้คือ "สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์" |
|
อำนาจบริหาร
เป็นอำนาจในการบริหารประเทศ ฝ่ายบริหารซึ่งได้แก่ คณะรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญกำหนด เพื่อวางแผนในการพัฒนาประเทศด้านต่างๆ ที่ท |
|
อำนาจตุลาการ
ฝ่ายตุลาการ ทำหน้าที่ตีความกฎหมาย และตัดสินคดีความทั้งทางแพ่งและอาญา ด้วยความยุติธรรม อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงยุติธรรม |
|
พระที่นั่งอนันตสมาคม
แต่เดิมในอดีตเป็นสถานที่ที่ใช้ในการประชุมสภา แต่ปัจจุบันนี้จะใช้ในโอกาสกระทำพิธีเปิดประชุมสามัญ ประจำปีสมัยแรก และพระราชพิธีที่สำคัญเท่านั้น |
|
กระทรวง ทบวง กรมฯ
หน่วยงานของภาครัฐบาลที่จะต้องทำหน้าที่บริหารงาน ในการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าของประเทศ |
|
การเลือกตั้ง
คือ กระบวนการที่ประชาชนได้มีส่วนร่วม ในการปกครองประเทศ โดยการเลือกผู้แทนราษฎรของตนเข้าไปในสภา บริหารงานแทนตนในสภา |
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|