เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 13 สค 56 ร.ต.ท.สุชาติ มโนชัย ร้อยเวร สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุกิ่งต้นยางขนาดใหญ่ตกใส่รถยนตเก๋งที่วิ่งบริเวณ ถนนสายเชียงใหม่ – ลำพูน หรือถนนสายต้นยาง   ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังได้รับแจ้งจึงได้รีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย ไปถึงทางเจ้าหน้าที่พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กร - 1780 เชียงใหม่ จอดอยู่ สภาพหน้ารถมีกิ่งต้นยางขนาดใหญ่ทับไว้จนหน้ารถพังเสียหายยับเยิน นอกจากนี้ได้พบกับ น.ส.อำนวยพร มโนวงค์ อายุ 43 ปี เป็นอาจารย์สอนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนดาราวิทยาลัยเชียงใหม่ อยู่บ้านเลขที่131 ถ.อนุวิถี ต.ท่าศาลา อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นคนขับรถยืนอยู่ และได้รับบาดเจ็บบริเวณแขน และขา มีรอยถลอกและรอยฟกช้ำ จากแรงกระแทกภายในรถ

จากการสอบถาม น.ส.อำนวยพร ให้การว่า ขณะที่ตนกำลังจะขับรถเพื่อไปสอนหนังสือที่โรงเรียน ซึ่งระหว่างทางก็มีใบไม้ และกิ่งไม้ขนาดเล็กตกลงมา จึงพยายามขับรถหลบ แต่พอมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุนั้น ก็ได้ยินเสียงคล้ายหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด จากนั้นไม่นานก็มีกิ่งของต้นยางตกลงมาใส่หน้ารถ ทำให้ตนตกใจอย่างมาก และรถได้เสียหลักพุ่งเข้าข้างทางชนเข้ากับต้นยางดังกล่าว ซึ่งโชคดีที่ตนขับรถมาไม่เร็ว ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดอันตรายกับชีวิตก็เป็นได้ หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ตนก็จะได้ดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่อไป เพราะถือว่าอยู่ในความรับผิดชอบในเรื่องของการดูแลต้นยาง และการตัดกิ่งต้นยางทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ ทางการไฟฟ้าฯ และหน่วยงานของทางเทศบาล ได้เร่งออกมาช่วยเหลือแล้ว เนื่องจากหม้อแปลงระเบิด ทำให้สายไฟฟ้า และสายโทรศัพท์ รวมถึงสายเคเบิ้ลต่างๆ ได้รับความเสียหายไปด้วย ทำให้กระแสไฟฟ้าดับตลอดทั้งสาย ก่อนหน้านี้มีการนำรถเครนขนาดใหญ่ออกตัดกิ่งต้นยางตลอด เนื่องจากเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูฝน ป้องกันไม่ให้กิ่งยางที่แห้ง ตกใส่รถและบ้านของประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้กับถนนสายต้นยาง กระทั่งได้มาเกิดเหตุการณ์หม้อแปลงไฟระเบิดและกิ่งต้นยางหักลงมาทับรถครูสาว ดังกล่าว นอกจากนี้ทราบว่าต้นยางที่ได้รับการดูแลนี้ จะมีงบประมาณให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากเหตุการณ์กิ่งต้นยางตกใส่รถ หรือตกใส่บ้านเรือนเข้าร้องทุกข์และแจ้งความเสียหาย เพื่อขอรับค่าชดเชยได้ เพราะมีเรื่องการประกันด้านอุบัติเหตุไว้อยู่ ซึ่งหากใครเดือดร้อนก็ติดต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ทันที

ชอบคุณ เนื้อหาข่าว จาก : http://www.dailynews.co.th/thailand/225751