• อนุญาตขาย/ครอบครอง โคเคน-มอร์ฟีน-ฝิ่น ฯลฯ เพื่อใช้ในการรักษา การศึกษา และประโยชน์ของทางราชการ |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 19 พ.ย. 63 เวลา 13:36:51 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพรประกาศกฎกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยเรื่องของการอนุญาตให้จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองยาเสพติดประเภท 2 พ.ศ. 2562 โดยให้เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ
เพื่อปรับปรุงเงื่อนไข หลักเกณฑ์ ในการอนุญาตจำหน่าย และมีไว้ในครอบครอง ยาเสพติดให้โทษ ประเภท 2 ในการประโยชน์ ได้แก่
อนุญาตให้จำหน่ายยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 2 ได้
ซึ่งกำหนดกรอบให้อนุญาตจำหน่ายได้สำหรับ 3 กรณีด้วยกันคือ
1.เพื่อการรักษาหรือป้องกันโรคให้แก่ผู้ป่วยหรือสัตว์ป่วยในทางการแพทย์
2.เพื่อการวิเคราะห์หรือการศึกษาวิจัยทางการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์
3.เพื่อประโยชน์ของทางราชการ
อนุญาตให้มีไว้ในครอบครองได้
อนุญาตให้ผู้ที่มีความจำเป็นที่จะต้องมียาเสพติดประเภทที่ 2 ไว้ในครอบครอง สามารถขออนุญาตมีไว้ในครอบครองได้ เพื่อประโยชน์บางอย่างดังต่อไปนี้ คือ
1.เพื่อการผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 3
2.เพื่อเป็นตัวอย่างเพื่อการศึกษา
3.เพื่อการวิเคราะห์หรือการศึกษาวิจัยทางการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์
4.เพื่อประโยชน์ของทางราชการ
5.เพื่อใช้ประจ าในการปฐมพยาบาลหรือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินในเรือหรือเครื่องบินที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศที่จดทะเบียนในราชอาณาจักร
ซึ่งผู้ที่จะขอไม่ไว้ในครอบครองเพื่อผลิตยาเสพติดประเภทที่ 3 จะต้องเป็นผู้ประกอบอาชีพเภสัชกรรมที่มีหน้าที่ควบคุม หรือผลิตยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 3 ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
ส่วนผู้ที่ขออนุญาตจำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง จะต้องคุณสมบัติตามข้อกำหนดอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ
-เป็นกระทรวง ทบวง กรม องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร สภากาชาดไทย หรือองค์การเภสัชกรรม
-เป็นผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ
-เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพ ทันตกรรม หรือผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ชั้นหนึ่ง
ซึ่งจะต้องมีการยื่นเอกสารต่าง ๆ เพื่อขออนุญาตอย่างถูกต้อง จึงจะสามารถจำหน่าย/ครอบครอง ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ยาเสพติดให้โทษแบ่งได้ 5 ประเภท [ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 135 (พ.ศ. 2539) เรื่องระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โทษ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ] ดังนี้
- ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เช่นเฮโรอีน เมทแอมเฟตามีน เอ็มดีเอ็มเอ (ยาอี) ยาเสพติดให้โทษ ประเภทนี้ไม่ใช่ประโยชน์ทางการแพทย์
- ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 เช่น มอร์ฟีน โคเดอีน เพทิดีน เมทาโดน และฝิ่น ยาเสพติดให้โทษประเภทนี้มีประโยชน์ทางการแพทย์ แต่ก็มีโทษมาก ดังนั้นจึงต้องใช้ภายใต้ความควบคุมของแพทย์ และใช้เฉพาะในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น
- ยาเสพติดให้โทษประเภท 3 เป็นยาสำเร็จรูปที่ผลิตขึ้นตามทะเบียนตำรับ ที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขแล้ว มีจำหน่ายตามร้านขายยา ได้แก่ ยาแก้ไอ ที่มีตัวยาโคเคอีน หรือยาแก้ท้องเสียที่มีตัวยา ไดเฟนอกซิน เป็นต้น ยาเสพติดให้โทษประเภท 3 มีประโยชน์ทางการแพทย์ และมีโทษน้อยกว่ายาเสพติดให้โทษอื่นๆ
- ยาเสพติดให้โทษประเภท 4 เป็นน้ำยาเคมีที่นำมาใช้ในการผลิต ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ได้แก่ น้ำยาเคมี อาซิติกแอนไฮไดรด์ อาซิติลคลอไรด์ เอทิลิดีน ไดอาเซเตท สารเออร์โกเมทรีน และคลอซูโดอีเฟดรีน ยาเสพติดให้โทษประเภทนี้ ส่วนใหญ่ไม่มีการนำมาใช้ประโยชน์ในการบำบัดรักษาอาการของโรคแต่อย่างใด
- ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ได้แก่ พืชกัญชา พืชกระท่อม พืชฝิ่น และพืชเห็ดขี้ควาย ยาเสพติดให้โทษประเภทนี้ ไม่มีประโยชน์ทางการแพทย์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 794 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 19 พ.ย. 63
เวลา 13:36:51
|