กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ท่านรัฐมนตรีต่างประเทศ "กษิต ภิรมย์" ไม่ต้องตกใจแค่เสียงหมาเห่าแล้วบ้าจี้-ลาออกหรอกครับ การที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีบุกรุกสนามบินสุวรรณภูมิ นับเป็นการไม่ทำให้บรรทัดประวัติศาสตร์ชีวิตนักสู้ว่างเปล่า นี่ผมไม่ได้พูดด้วยมาตรฐานที่ ๑ หรือมาตรฐานที่ ๒ แต่พูดตามมาตรฐานสากลแห่งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ท่านก็เหมือนคนทุกคนในประเทศไทยที่อยู่ภายใต้กฎหมาย "ระบบกล่าวหา" คือในชั้นสอบสวน ผิด-ถูก กูไม่รู้ ขอกางกฎหมายตั้งข้อหาไว้ก่อน แล้วไปพูดกันที่ศาล"
รายละเอียดเรื่องนี้ท่านคงติดตามจากข่าวคราวแต่วานซืนกันแล้วนะครับ ผมจะสรุปไว้สั้นๆ เผื่อบางท่านขาดหกตกหล่นไป คือหลังจากตำรวจรวบรวมคดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกรุกสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมืองมาเป็นเวลาพอสมควร เมื่อวานซืน (๔ ก.ค.๕๒) ก็ได้ฤกษ์หวยออก
ในคดีบุกรุกสนามบินสุวรรณภูมิ มีผู้ถูกรางวัลที่ ๑ กันทั้งหมด ๒๕ คน ประกอบด้วย
๑.พลตรีจำลอง ศรีเมือง ๒.นายสนธิ ลิ้มทองกุล ๓.นายสุริยะใส กตะศิลา ๔.นายสำราญ รอดเพชร ๕.ส.ส.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ๖.นายอมร อมรรัตนานนท์ ๗.นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ๘.นายศิริชัย ไม้งาม ๙.นางมาลีรัตน์ แก้วก่า ๑๐.นายเทิดภูมิ ใจดี ๑๑.นายพิภพ ธงไชย ๑๒.พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ๑๓.น.ส.อัญชลี ไพรีรัก ๑๔.นายพิชิต ไชยมงคล ๑๕.นายประพันธ์ คูณมี ๑๖.นายบรรจง นะแส
๑๗.นายกษิตย์ ภิรมย์ ๑๘.นายศรัณยู วงษ์กระจ่าง ๑๙.นายวีระ สมความคิด ๒๐.นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ๒๑.น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ ๒๒.ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ๒๓.นายชนะ ผาสุกสกุล ๒๔.พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ และ ๒๕.นายสุรวิชช์ วีรวรรณ
สนามบินสุวรรณภูมิตั้งอยู่ในท้องที่โรงพักราชาเทวะ ตำรวจตั้งข้อหาทั้ง ๒๕ คนว่า
"ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายใต้ความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการมั่วสุมแล้วไม่เลิก ก่อการร้าย บุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ ฯลฯ ทำให้การให้บริการของท่าอากาศยานหยุดชะงักลง"
ฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามมาตรา ๙ แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๘ ฉบับที่ ๑ ลงวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ และฉบับที่ ๒ ลงวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๑ เหตุเกิดระหว่างวันที่ ๒๕ พ.ย.๕๑ ถึงวันที่ ๓ ธ.ค.๕๑ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ
ครับ ผมอ่านข้อหาแล้วนึกถึงตอนไปกินต้มเลือดหมู หรือกวยจั๊บแถวเยาวราช เขาจะถามเสียงสูงว่า "ทุกอย่าง..เฮีย?" คือหมายถึงว่า จะให้ใส่ครบทุกอย่าง ม้าม-หัวใจ-ปอด-ตับ-ไต-ไส้-เลือด-พุง-อุ้งตีน หรือจะเลือกรับเพียงบางอย่าง-บางชนิดก็บอกเขาไป ข้อหาที่ตำรวจตั้งกับ ๒๕ คนครั้งนี้ ก็ประมาณนั้น
คือมีมาตราไหนพอจะอนุโลมให้เป็นไปได้ว่า ท่านก็ลอกประเคนใส่เต็มภิกขา ทั้งหมดต้องไปรายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน คือไปมอบตัวกับตำรวจนั่นแหละที่สโมสรตำรวจ ในวันที่ ๑๖ ก.ค. เวลา ๑๓.๐๐ น.
แล้วมาดูรายชื่อผู้โชคดีจากการออกสลากที่ "สนามบินดอนเมือง" ดูบ้าง ปรากฏว่ามีผู้ถูกรางวัลที่ ๑ ด้วยกันทั้งหมด ๒๗ คน คือ
๑.พลตรีจำลอง ศรีเมือง ๒.นายสนธิ ลิ้มทองกุล ๓.นายพิภพ ธงไชย ๔.นายสุริยะใส กตะศิลา ๕.นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ๖.นางมาลีรัตน์ แก้วก่า ๗.นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ๘.ส.ส.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ๙.นายอมร อมรัตนานนท์ ๑๐.นายสำราญ รอดเพชร ๑๑.นายศิริชัย ไม้งาม ๑๒.นายเทิดภูมิ ใจดี ๑๓.นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ๑๔.นายสาวิทย์ แก้วหวาน ๑๕.นายพิชิต ไชยมงคล ๑๖.นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด
๑๗.น.ส.อัญชลี ไพรีรัก ๑๘.นายประพันธ์ คูณมี ๑๙.พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ๒๐.นางแจ่มศรี สุขโชติรัตน์ ๒๑.นายสมบูรณ์ สุวรรณฝ่าย ๒๒.น.ส.จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ๒๓.นายเติมศักดิ์ จารุปราณ ๒๔.นายบัณฑิต ปิ่นมงคลกุล ๒๕.น.ส.วรรษมณ ช่างปรีชา ๒๖.นายยุทธิยงค์ ลิ้มเลิศวาที และ ๒๗.นายสุมิตร นวลมณี
ตำรวจโรงพักดอนเมือง ซึ่งเป็นเจ้าของท้องที่อันสนามบินดอนเมืองตั้งอยู่ ท่านได้ตั้งข้อหาทั้ง ๒๗ คนด้วยข้อหาเดียวกันกับโรงพักราชาเทวะ
"กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีการอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง"
ปรากฏว่าผู้ถูกรางวัลที่ ๑ ของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ทั้ง ๒ คณะนี้ มีผู้โชคดีสองชั้น คือถูกที่ ๑ สองใบซ้อน ตกเป็นผู้ต้องหาทั้งคดีสุวรรณภูมิ และคดีดอนเเมืองรวม ๑๖ คน คือ
๑.พลตรีจำลอง ๒.นายสนธิ ๓.นายพิภพ ๔.นายสุริยะใส ๕.นายสมศักดิ์ ๖.นางมาลีรัตน์ ๗.นายไชยวัฒน์ ๘.ส.ส.สมเกียรติ ๙.นายอมร ๑๐.นายสำราญ ๑๑.นายศิริชัย ๑๒.นายเทิดภูมิ ๑๓.นายพิชิต ๑๔.น.ส.อัญชลี ๑๕.นายประพันธ์ และ ๑๖.พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์
เมื่อสำรวจตรวจตราในแต่ละข้อหา และนำมาเทียบเคียงกันทั้ง ๒ เจ้าแล้ว จะพบว่าผู้ต้องหาทั้ง ๒ ชุด ถูกจับด้วยข้อหามาก-น้อยต่างกันอยู่บ้าง ตำรวจราชาเทวะตั้ง ๗ ข้อหา หนักสุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖ ทวิ อันว่าด้วยการก่อการร้าย โทษสูงสุดถึงประหารชีวิต และมาตรา ๑๑๖, ๒๑๕, ๒๑๖, ๑๓๕, ๓๕๘, ๓๖๔,
ส่วนตำรวจดอนเมือง ตั้งข้อหา ๒๗ คน ด้วย ๔ ข้อหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๖, ๒๑๕, ๒๑๖ และมาตรา ๓๖๔ รอดข้อหามีโทษประหารชีวิตในฐานะก่อการร้ายไป ผู้ต้องหาคดีดอนเมืองก็ไปมอบตัววันเดียวกัน แต่ต่างเวลา คือให้ไปตอน ๐๙.๓๐ น. แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว
ไปในวัน-เวลาเดียวกัน และสถานที่เดียวกัน พร้อมๆ กัน นั่นแหละจะได้เข้ากล้องถ่ายทำกันไปทีเดียวเลย ไหนๆ ก็ ๒ ราย ๒ คดี ก็ล้วนเจ้าเก่า-พันธมิตรฯ เจ้าเดียวกันทั้งนั้น!
ครับ...ก็ปูพื้นให้เข้าใจกันคร่าวๆ ถึงลักษณะข้อหาที่ตำรวจท่านตบรางวัลให้ แต่แหม...ทั้งท่านหัวหน้าพรรค และเลขาฯ พรรคการเมืองใหม่ "ใกล้ซังเต" ด้วยกันทั้งคู่ เมื่อการเมืองใหม่เบิกฤกษ์ด้วยคดีใหม่เช่นนี้ ผมจับยามสามตาแล้วได้ผลออกมาว่า
"สิทธิโชคโฉลกดี ขึ้นต้นร้าย แต่ปลายแฮปปี้" ฉะนั้น บรรดาพี่ๆ ก็ทนเอาหน่อยละกัน...เน้อะ!
แฟนๆ ก็อย่าตกอก-ตกใจกันจนไข่ฝ่อ และก็อย่าไปมองตาเขียว-ตาเหลืองกับตำรวจท่าน เห็นใจคุณตำหนวดท่านบ้างเถอะ ตำรวจตอนนี้เหมือนอยู่กลางเขาควาย บิดซ้ายก็เจอเขาขวาขวิด บิดขวาก็ถูกเขาซ้ายเสย ไม่รู้ทำไง เอาตัวรอด "ออกกลาง" คือกางกฎหมายฟ้องมันไปทุกมาตราทั้งสองฝ่าย
โยนให้อัยการ กับศาลท่านไปวินิจฉัยไต่สวนทวนความกันเอาเอง!
และควรเข้าใจให้ตรงตามมาตรฐานด้วยว่า ไม่ว่านักการเมือง หรือไม่นักการเมือง ไม่ว่า ส.ส.หรือรัฐมนตรี หรือนายกฯ หรือประธานรัฐสภา หรือนายหมู นายแมว คนไหนก็ตาม ในชั้นถูกกล่าวหาจากพนักงานสอบสวนนี้ ไม่มีสิทธิอันใดบุบสลายที่จะไปเป็นนั่น-เป็นนี่ไม่ได้ ยังบวชได้ ยังไปนอกได้ ยังเป็นรัฐมนตรีได้ ยังผ่าตัดแปลงเพศได้
และยังเป็น ผบ.ตร.ได้ด้วยซ้ำ ดูอย่าง พล.ต.อ.พัชรวาท นั่นไง ถูกกล่าวหาอยู่ในคดี ๗ ตุลา.ฆ่าประชาชน ยังหน้านวล เรือนผมเรียบแปล้แลเงาม่วงอยู่ในตำแหน่งได้เลย เห็นมั้ยล่ะ!?
เพราะเพียงถูกกล่าวหา ยังไม่ทราบว่าผิดจริง หรือถูกจริง จนกว่าคดีจะไปถึงชั้นศาล และศาลท่านได้ไต่สวน พิจารณาความแล้ว ตัดสินอย่างใด-อย่างหนึ่งเป็นที่สุดแล้วนั่นแหละ
ทีนี้ กฎ-กติกามีว่าอย่างไร ก็ต้องเดินไปตามนั้นเป๊ะ!
ตอนนี้แค่ตำรวจกล่าวหา สิวๆ ครับ ท่านเด็จพี่-โฆษกพรรคเพื่อไทยที่ชอบผัดหน้า กรีดนิ้ว ออกมาตะแบงข่าวเป็นประจำน่ะ ไม่เห็นแก่ลูกหมีแพนด้า ก็ขอให้เห็นแก่พังแป้นอยุธยาบ้างเถอะ แถลงข่าวจวกรัฐบาลนั่นก็..เชิญเด็จพี่ตามสบาย แต่ขอไว้อย่าง ในฐานะเป็นคนสถาบันนิติบัญญัติ
อย่าพูดอะไรที่บิดเบือนกฎหมาย เพราะสังคมจะหลงเข้าใจผิด ด้วยนึกว่าคนในสถาบันนิติบัญญัติมีมาตรฐานเชื่อถือได้ พูดอะไรย่อมพูดตามหลักกฎหมาย อย่างที่ยกเหตุท่านรัฐมนตรีกษิตตกเป็นผู้ต้องหาก็ออกมาตีปี๊บ-ตีป่าให้ท่านลาออกวันนี้-เดี๋ยวนี้นั้น
มันยังไม่ใช่หรอกครับ ท่านจะลาออก หรือไม่ลาออก เป็นเรื่องของท่าน แต่จะให้ท่านลาออกเพราะเหตุตำรวจกล่าวหาบุกรุกสนามบินสุวรรณภูมิ มันไม่เข้าครรลองกฎหมาย หรือกฎ-กติกา-มารยาทไหนๆ ในโลกบัญญัติไว้หรอก
ไอ้นักโทษคดีถึงที่สุดแล้ว แต่หนีไปก่อการร้ายต่อบ้านเมืองอยู่นอกประเทศ อย่างนั้นตะหากที่เด็จพี่จากพรรคเพื่อไทยควรทำหน้าที่ ช่วยกันไปลากคอกลับมาเข้ากระบวนการกฎหมายบ้านเมือง เพราะนี่...เป็นสิ่งที่องค์กรในสถาบันนิติบัญญัติพึงกระทำ
ไม่ใช่อุ้มให้ขี่คอทางด้านหน้าของแต่ละคน แล้วพากันซุกไซ้หว่างขาอย่างที่เห็นกันจะจะคาตาอยู่ขณะนี้!
ในขั้นตอนต่อไป เมื่อผู้ต้องหา ๒๕+๒๗ มอบตัวต่อตำรวจแล้ว ท่านก็จะรวบรวมสำนวนทั้งหมด พร้อมทั้งนัดผู้ต้องหาทั้งหมดไปมอบให้อัยการ และอัยการท่านก็จะไปตรวจสำนวนทั้งหมดว่า ที่ตำรวจสอบสวนมาทั้งหมดนั้นเพียบพร้อมด้วยพยาน-หลักฐานหนา-แน่นปึ้กตามข้อหาที่ตั้งไว้ทั้งหมดมั้ย?
แล้วอัยการก็จะสั่งคดีว่า จะสั่งฟ้อง หรือไม่สั่งฟ้อง หรือส่งกลับไปสอบสวนเพิ่มเติม สมมุติว่าสั่งฟ้อง ก็ยังไม่แน่ว่า อัยการจะสั่งฟ้องตามข้อหาที่ตำรวจตั้งมาทั้งหมด รวมทั้งก่อการร้ายอะไรนั่นด้วย?
เห็นมั้ย มันอยู่อีกไกลเกินกว่าที่จะทึกทักตามตำรวจว่าใครผิด-ใครไม่ผิดในตอนนี้ เหมือนสอบข้อเขียนเสร็จ อย่าเพิ่งทะลึ่งทึกทักว่าสอบได้ไปเลี้ยงฉลองเชียว ตกสัมภาษณ์ขึ้นมาล่ะก็ ถูกพ่อยันแน่!
นี่ยังไม่พูดถึงในชั้นศาลนะครับ ซึ่งต้องสอบพยานโจทก์ พยานจำเลย ตรวจทานสำนวนอีกมากมายหลายเรื่อง ศาลซึ่งทรงดุลธรรมสูงสุด ท่านวินิจฉัยแล้วพิพากษาออกมาวันใด อย่างใด-อย่างหนึ่งแล้วนั่นแหละ ถ้าตัดสินว่ารัฐมนตรีกษิตผิด แล้วท่านยังเสพติดเก้าอี้ ผมนี่แหละจะเอาเชือกไปคล้องท่านลากออกมาล่ามไว้กลางสนามหลวงเอง ไม่ต้องถึงมือเด็จพี่หรอก
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
