กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ทักษิณ+กฟผ. แล้วคุณอยู่ตรงไหน???
ทักษิณ+กฟผ. แล้วคุณอยู่ตรงไหน???
ลองอ่าน+วิเคราะห์ความเป็นไปได้ ถ้าจริง....อนิจจาประเทศไทย...แล้วเรายังเฉยกันอยู่หรือนี่.. *************************************
ทักษิณ กับ แผนการปล้นชาติ
จับตา-แปรรูป การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ขบวนการปล้นชาติ สร้างอาณาจักรใหม่
ดร.วุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันสหัสวรรษ แฉให้จับตาแปรรูป กฟผ. เข้าข่ายขบวนการปล้นชาติ วางแผนสร้างเป็นอาณาจักร Shin Energy อย่างแยบยล เชื่อมไฟเบอร์ออพติคเข้าเสาไฟฟ้า หวังขยายเครือข่ายโทรศัพท์ คาดเม็ดเงินสูง 6 หมื่นล้านบาท พร้อมเขย่าตลาดหุ้น ให้ดิ่งหรือดับได้ในกำมือ ต่อไปคนรวยที่สุดในโลกจะไม่ใช่ บิล เกทส์ อีกแล้ว แต่อยู่ใกล้ๆ แถวนี้เอง ดร.วุฒิพงษ์ กล่าวว่า
การแปรรูปรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลชุดนี้ ถือเป็นการวางแผนทางธุรกิจการเมือง ครั้งใหญ่ โดยเกี่ยวพัน 4 ส่วนด้วยกันคือ
1. ปตท. ซึ่งมีมูลค่าตลาดสูงถึง 1.3 ล้านล้านบาท ขณะที่มูลค่าตลาดหลักทรัพย์มีมูลค่า 5 ล้านล้านบาท 2. ปิโตรเคมี มีมูลค่าตลาด 3 แสนล้านบาท 3. ธุรกิจโทรคมนาคมอีก 5 แสนล้านบาท แค่รวมสามส่วนนี้ก็มีมูลค่ามหาศาลถึง 2.1 ล้านล้านบาท 4. กฟผ.ซึ่งยังไม่ได้เข้าตลาดจึงยังไม่รู้ว่ามีมูลค่าเท่าไหร่ แต่คาดว่าใกล้เคียงกับ ปตท.
ทั้ง 4 ส่วนนี้น่าจะเป็นมูลค่า 3.4 ล้านล้านบาทเกินกว่ามูลค่าครึ่งหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์ แสดงให้เห็นว่า ระบบเศรษฐกิจของไทยครึ่งหนึ่งอยู่ ในภาคธุรกิจพลังงาน แสดงให้เห็นว่า หมากเกมนี้ แหลมคมลุ่มลึกมาก ขณะเดียวกัน การคอรัปชั่นแบบคลาสสิค อย่างหักหัวคิวสนามบินสุวรรณภูมิก็ยังมีอยู่
การพิจารณาตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูป ปตท.จะพบว่า คนพวกนี้เคยขายบางจากมาก่อนแล้ว และต่อไป ก็จะมาทำการแปรรูป กฟผ.นี้ด้วย รัฐบาลจัดทีมชุดนี้วิ่งรอกตามจุดต่าง ๆ ที่ต้องการแปรรูป
ดร.วุฒิพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของโทรคนาคมนั้นมาเกี่ยวพันเป็น 1ใน 4 ของธุรกิจพลังงานได้ก็เพราะว่า เสาไฟฟ้าแรงสูง ของ กฟผ. ในส่วนของ แกนสายได้สอดสายไฟเบอร์ออพติคไว้แล้ว ถือเป็นโครงข่ายโทรคมนาคมที่วิเศษที่สุด ดีกว่าโครงข่าย ของ กสท.เสียอีก เพราะว่าเครือข่ายของ กฝผ.สามารถเข้าไปในบางพื้นที่ ที่กสท.เข้าไปไม่ได้ ตรงนี้ในอนาคตมีแนวโน้ม ที่จะฉีกออกไปเป็นอีกหนึ่งบริษัทคือ อีแก็ต-เทเลคอม ได้สบายเพราะเป็นเจ้าของสายไฟเบอร์ออพติคที่แพร่ขยายไปตาม ภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ ลองคิดดูว่าคอมลิงค์ซึ่งเป็นสายไฟเบอร์ออพติค วิ่งเฉพาะตามทางรถไฟ ในแต่ละภูมิภาค มีสายไฟเบอร์ออพติคหลักอยู่เส้นเดียวยังสร้างความร่ำรวยได้มหาศาล แล้ว โครงข่ายของ กฝผ. ซึ่งเป็นกระดูกสันหลัง ที่ดีที่สุดในประเทศ จะมีมูลค่าขนาดไหน จริงอยู่ว่าสายไฟของกฟผ.ยังไม่สามารถเชื่อต่อมายังบ้านได้ จำเป็นต้องหา พันธมิตรเพื่อมาทำการเชื่อมต่อตรงนี้ ซึ่งการเชื่อมต่อมายังบ้านมี 2 แบบใหญ่ ๆ คือ แบบมี สาย ซึ่งก็คือ เครือข่ายของ การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งคงมีการคิดกันแล้วว่าจะต้องมีการรวมกันเป็นรัฐวิสาหกิจหนึ่งแห่งก่อน แล้วค่อยนำไปขายในตลาดหลักทรัพย์ และ การเชื่อมต่อแบบไร้สาย ซึ่งอย่างหลังก็คือบริษัทโทรศัพท์มือถือต่าง ๆ นั่นเอง
ผู้อำนวยการสถาบันสหัสวรรษกล่าวต่อว่า นอกจากนี้เทคโนโลยีในอนาคตนั้นจะทำให้ปลั๊กไฟบ้านสามารถเสียบสาย โทรศัพท์ได้ เพราะฉะนั้น สายไฟฟ้านอกจากจะจ่ายไฟฟ้ายังสามารถส่งผ่านสัญญาณโทรศัพท์ได้ หากรวม กฟผ., การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( กฟภ.) จะยิ่งใหญ่กว่าเครือข่ายของ ดีแทค และ เอไอเอส เพราะบริษัทเอกชนทั้งสอง ทำอย่างไรก็ไม่มีทางทำได้ขนาดนี้
ผมขอพูดเป็นสมการแบบง่าย ๆ ดังนี้
TMB (ธนาคารทหารไทย) บวก IFCT (บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย) บวก DBS (ธนาคารดีบีเอส) จะเท่ากับ Shin Bank
ส่วนกรณี EGAT (กฟผ.) บวก PTT (ปตท.) จะเท่ากับ Shin Energy ซึ่งจะเชื่อมต่อกับ Shin Telecom เป็นอาณาจักรใหญ่ ซึ่งใหญ่กว่าครึ่งหนึ่งของระบบเศรษฐกิจประเทศ
การนำ กฟผ.เข้าตลาดหุ้นจึงเป็นการต่อจิ๊กซอว์ เพื่อทำให้แผนการยึดครองเศรษฐกิจของประเทศสมบูรณ์แบบ
ดร.วุฒิพงษ์ กล่าวต่อว่า ไม่เกิน 1 ถึง 2 ปีจากนี้ เราคงเห็นค่าไฟจากหน่วยละ 10 สลึงกลายเป็น 4 บาท ไม่ต่าง อะไรจากราคาน้ำมันในขณะนี้ หากมีการขึ้นค่าไฟฟ้าหน่วยละ 1 บาท เงินจะไหลเข้ากระเป๋าเจ้าของ กฝผ. หนึ่ง แสนสองหมื่นล้านบาทต่อปี ตรงนี้เฉพาะค่าไฟเท่านั้น ยังไม่รวมประโยชน์จากไฟเบอร์ออพติค ต่อไปนี้คนที่รวยที่สุดในโลกคงไม่ใช่ บิล เกตส์ อีกแล้ว แต่จะเป็นคนใกล้ตัว แถวนี้เอง การแปรรูปการไฟฟ้าจะร้ายแรงกว่า ปตท.มาก เพราะในบ้านเรากิจการการค้าน้ำมันยังผูกขาดไม่สมบูรณ์ มีหลายเจ้าที่ค้าน้ำมันแข่งกันกัน แต่สำหรับไฟฟ้านั้นหากเราไม่ซื้อไฟจาก กฝผ.ก็ต้องไปซื้อถ่านไฟฉายตราแมวดำมาใช้
"ไม่มีการปล้นชาติครั้งใดหอมหวานเท่าครั้งนี้ เป็นการทำให้อำนาจทางการเมืองควบรวมกับอำนาจทางเศรษฐกิจ อย่างสมบูรณ์ ที่ผ่านมาเราก็เห็นตัวอย่างจาก การกระจายหุ้น ปตท.แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น หนึ่งในสามของหุ้น ปตท. ถือครองโดย หน่วยลงทุน 2 หน่วยจากสิงคโปร์ (ตัวแทนของxโม่งในไทย) ใครก็ตามที่เป็นเจ้าของของหน่วยลงทุน ทั้ง 2 หน่วยนี้ จะได้ผลประโยชน์ถึง 6 หมื่นล้านบาท ที่สำคัญสามารถทำให้หุ้นขึ้นหรือลงได้แทบทุกวัน แค่บอกว่า จะขยายโรงกลั่นหรือ สร้างโรงไฟฟ้า หุ้นก็พุ่ง พออีกอาทิตย์บอกว่า จะทบทวนมติครม.หุ้นก็ดิ่ง (ปั่นหุ้นทำกำไรกันจนรวยเละ) เวลานี้บ้านเมืองกำลังถูกปลาหมึก ยักษ์กิน วิธีการสู้กับปลาหมึกยักษ์ อย่าไปแหย่ที่หนวด ให้แทงที่หัว" ดร.วุฒิพงษ์ กล่าว ----------------------------------------------------------------------------------
ผลประโยชน์แอบแฝงมหาศาลด้านโทรคมนาคม อีกหนึ่งสาเหตุในการเร่งแปรรูป กฟผ.
มีอะไรอยู่เบื้องหลังธุรกิจด้านโทรคมนาคมที่ บมจ. กฟผ. รีบดำเนินการจัดตั้งแทบจะทันทีหลังจากการแปรสภาพเป็น บริษัทจำกัด (มหาชน) ธุรกิจด้านนี้จะเป็นประโยชน์กับใคร และประชาชนจะเสียประโยชน์อย่างไร ลองมาฟังกันดูครับ
ธุรกิจด้านโทรคมนาคม ของ บมจ. กฟผ. สำคัญอย่างไร
บมจ. กฟผ. ตั้งบริษัทลูกชื่อ "กฟผ. โทรคมนาคม" หรือ "EGAT Telecom" เพื่อนำเครือข่ายสื่อสารใยแก้วนำแสง ที่ดำเนินการติดตั้งไว้ ตั้งแต่ก่อนแปรรูปไปให้เอกชนเช่าเพื่อการสื่อสารข้อมูล ปัจจุบันนี้เครือข่ายใยแก้วนำแสงของ บมจ.กฟผ. มีช่องสัญญาณขนาด 155 Mbps (155 ล้าน bps) เชื่อมไปยังภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกำลังเร่งขยาย ช่องสัญญาณขนาดเดียวกันนี้ไปยังภาคใต้ และภาคตะวัน ออกให้เสร็จในระยะเวลาอันใกล้ ก่อนการกระจายหุ้น
เครือข่ายใยแก้วนำแสงนี้ ทำอะไรได้บ้าง ถ้าจะให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คือปัจจุบัน บมจ. กฟผ. มีช่องสัญญาณใหญ่พอที่จะแพร่ภาพ โทรทัศน์แบบเดียวกับที่ UBC ใช้แพร่ภาพในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลไปทั่วประเทศไทย โดยมีความ คมชัดระดับ VCD ได้ประมาณ 100 ช่อง หรือ ประมาณ 30 ช่อง ที่ความคมชัดระดับ DVD และสามารถลงทุนขยายช่องสัญญาณเพิ่มขึ้น 64 เท่า ให้มีช่องสัญญาณสูงถึง 9.6 Gbps (9,600 ล้าน bps ซึ่งเท่ากับการแพร่ภาพ VCD 6,400 ช่อง หรือ DVD 1,920 ช่อง)ได้ทันทีด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน
เครือข่ายใยแก้วนำแสงของ กฟผ. นั้นวางคู่ไปบนระบบส่งไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ.เอง ทำให้ต้นทุนด้านการวางเครือข่ายต่ำกว่า ผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคมรายอื่น และเมื่อเชื่อมกับเครือข่ายใยแก้วนำแสงของ กฟภ. และ กฟน. ซึ่งอยู่บนระบบส่งไฟฟ้า ของ กฟภ. และ กฟน.ในลักษณะเดียวกัน จะทำให้เกิดเครือข่ายใยแก้วนำแสงต้นทุนต่ำขนาดใหญ่ที่สุด สามารถให้บริการได้ ถึงทุกครัวเรือนในประเทศไทย แม้ว่าการวางเครือข่ายใยแก้วนำแสงถึงทุกบ้านโดยตรงนั้นอาจยังไม่คุ้มค่าการลงทุนในปัจจุบัน แต่ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้โดยการวางเครือข่ายใยแก้วนำแสงถึงสถานีไฟฟ้าย่อย จากนั้นสามารถส่งข้อมูลผ่านสายไฟฟ้า แรงดันต่ำไปยังบ้านเรือนได้ด้วยเทคโนโลยี Broadband over power lines (BPL) ซึ่งมีช่องสัญญาณ ประมาณ 3 Mbps หรืออาจวางเครือข่ายใยแก้วนำแสงไปถึงจุดบริการย่อย และต่อเข้าบ้านเรือนด้วยเทคโนโลยี WiFi (เครือข่ายไร้สาย) ซึ่งมีช่องสัญญาณไม่น้อยกว่า 11 Mbps
จะเห็นได้ว่า ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารภาคพื้นดินผ่านเครือข่ายใยแก้วนำแสงที่มีความรวดเร็วและมีความมั่นคงสูง บวกกับความพร้อมของเครือข่ายระบบส่งไฟฟ้าของ กฟผ. กฟภ. และ กฟน. ทำให้มีข้อได้เปรียบกว่าระบบโทรคมนาคม ผ่านดาวเทียมหลายด้าน เช่น มีการลงทุนที่ต่ำกว่าการสื่อสารผ่านดาวเทียม ไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับสภาพอากาศเช่นเดียวกับ การสื่อสารผ่านดาวเทียม ซึ่งจะขาดช่วงเมื่อฝนฟ้าคะนองหนัก (ข้อนี้ คนที่ดู UBC ผ่านจานดาวเทียมคงจะทราบปัญหาดี) อีกทั้งการสื่อสารผ่านดาวเทียมไปถึงผู้รับบริการรายย่อยเป็นการสื่อสารแบบทางเดียว ในขณะที่การสื่อสารผ่านเครือข่าย ใยแก้วนำแสงเป็นการสื่อสารแบบสองทาง คือผู้รับบริการรายย่อยสามารถส่งข้อมูลกลับไปยังผู้ให้บริการได้ จึงรองรับการ ให้บริการประเภท Interactive TV และ Hi-speed Internet ได้ดีกว่า
ข้อสังเกต
1. เมื่อเครือข่ายใยแก้วนำแสงบนระบบส่งไฟฟ้า เข้ามามีบทบาทสำคัญในการการสื่อสารโทรคมนาคมในอนาคตอันใกล้ บทบาทของการสื่อสาร ผ่านดาวเทียมย่อมลดลง แล้วใครจะเป็นผู้เสียประโยชน์ (จึงต้องการขยายอาณาจักรให้ครอบคลุม เครือข่ายการสื่อสารโทรคมนาคม ทุกระบบ)
2. ทุกรัฐบาลที่ผ่านมา รวมถึงนักวิชาการอิสระทั้งหลาย เห็นตรงกันมาตลอดว่า ควรแปรรูป กฟผ.เฉพาะส่วนการผลิต (โรงไฟฟ้า) เพราะทำให้เกิดการแข่งขันได้ง่าย แต่ให้คงส่วนระบบสายส่งไฟฟ้า และเขื่อนไว้เป็นของรัฐ เพราะทั้งสองส่วน เป็นสิ่งที่ได้มาด้วยอำนาจทางกฎหมายและการเสียสละของประชาชนจำนวนมาก (ผ่านการเวนคืนที่ดิน ที่ใช้ในการก่อสร้าง) อีกทั้งทำให้เกิดการแข่งขันได้ยาก แต่รัฐบาลทักษิณ กลับต้องการให้แปรรูป กฟผ. ทั้งหมด เพื่อให้ เอกชน (เครึอญาติตระกูล................. และ นายทุนพรรค) เข้ามาถือสิทธิความเป็นเจ้าของทั้งในระบบส่งไฟฟ้าและเขื่อน
3. ระบบเครือข่ายใยแก้วนำแสงของ กฟผ. ได้เร่งดำเนินการขยายช่องสัญญาณไปยังภาคต่างๆ จาก 8 Mbps เป็น 155 Mbps ในช่วงไม่เกิน 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งที่เป็นการลงทุนที่เกินความต้องการสำหรับการสื่อสารภายในองค์กร และเงินลงทุนนี้ยังถือเป็นต้นทุนส่วนหนึ่งของค่าไฟฟ้าด้วย กล่าวคือประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าทุกคนช่วยกันจ่ายเงินค่าไฟฟ้าเพิ่ม เพื่อขยายช่องสัญญาณเครือข่ายใยแก้วนำแสงให้แล้วเสร็จทันเวลากับการ แปรรูป กฟผ. และการตั้งบริษัท กฟผ.โทรคมนาคม เพื่อนำช่องสัญญาณไปให้เอกชนเช่าได้อย่างพอดิบพอดี
4. ในการแปรรูป กฟผ. เป็น บมจ. กฟผ. นั้น คิดราคาสุทธิทางบัญชีของระบบสื่อสารของ กฟผ.ไว้เพียง 2,318 ล้านบาท จากราคาทุน 6,356 ล้านบาท
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|