ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

ลิเวอร์พูล – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2554 เวลา 20.30น.

สนามแอนฟิลด์

สกอร์: (1-0)เค้าท์ น.34 (2-0)เค้าท์ น.39 (3-0)เค้าท์ น.65 (3-1) ชิชาริโต้ น.90+2

ตัวจริงทั้งสองทีม

ลิ เวอร์พูล – เรน่า, จอห์นสัน, คาร์ราเกอร์, สเคอร์เทล, ออเรลิโอ(คีร์เกียกอส น.24), เจอร์ราร์ด, ลูคัส, เค้าท์, เมเรเลส(แคร์โรว์ น.74), มักซี่, ซัวเรซ(โคล น.89)

แมน เชสเตอร์ ยูไนเต็ด – ฟาน เดอร์ ซาร์, ราฟาเอล(โอเชีย น.76), สมอลลิ่ง, บราวน์, เอฟร่า, นานี่(ชิชาริโต้ น.45+6), คาร์ริค, สโคลส์(เฟล็ตเชอร์ น.84), กิ๊กส์, เบอร์บาตอฟ, รูนี่ย์

การ โคจรมาพบกันของสองทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนเกาะอังกฤษ ลิเวอร์พูลพบแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สองทีมที่ได้แชมป์ลีกสูงสุดรวมกัน 36 สมัย  เกมนี้ส่งผลต่อการลุ้นแชมป์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทีมจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกที่นำอันดับสองอาร์เซนอลอยู่ 3 คะแนน ส่วนลิเวอร์พูลทีมอันดับ 7 มีศักดิ์ศรีที่ต้องหยุดยั้งไม่ให้ทีมปีศาจแดงคว้าแชมป์สมัยที่ 19 ก่อนที่ยูไนเต็ดจะแซงหน้าพวกเขาไป

เริ่ม เกมลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายครองบอลและหาจังหวะยิงได้มากกว่าแต่ยังคลำเป้าไม่เจอ น.16 โอกาสเป็นของทีมเยือนบ้าง เป็นเบอร์บาตอฟที่เกือบแผลงฤทธิ์อีกครั้ง เมื่อยิงแบบไม่จับจากระยะ 20 หลาบอลไซค์ก้อยกระแทกพื้น ก่อนหนีมือเรน่าที่พุ่งไปสุดตัวแต่ไมทัน บอลพุ่งไปชนเสานอกกออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

ลิ เวอร์พูลได้เสียวอีกครั้ง น.18 เกล็น จอห์นสันเปิดโด่งไปเสาสองให้เมรเลสโหม่งชงกลับไปหน้าปากประตู เค้าท์วิ่งมาชาร์จแต่ไม่ทัน บอลตกพื้นก่อนเข้ามือซาร์ไป น.24 ออเรลิโอเล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนคีร์เกียกอสคงมาแทน น.25 กิ๊กส์เปิดเตะมุมให้บราวน์โหม่งหน้าปากประตู แต่บอลเบาไปเมเรเลสยังเคลียร์จากเส้นได้

เจ้า บ้านได้ประตูขึ้นนำจากความสามารถที่เหลือเชื่อของซัวเรซ น.34 ดาวยิงชาวอุรุกวัยได้บอลที่สุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะแตะหลบกองหลังยูไนเต็ดไล่ตั้งแต่ราฟาเอล สมอลลิ่ง และบราวน์  ก่อนจิ้มบอลลอดขาซาร์ไปหน้าปากประตูให้เค้าท์ยิงจากระยะไม่ถึง 2 เซนเข้าประตูไป หงส์นำ 1-0

ทีม เยือนอาการหนักเข้าไปอีก น.39 นานี่โหม่งเคลียร์จากลูกครอสของซัวเรซแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ บอลลอยกลับไปหน้าประตู เค้าท์ที่ยืนอยู่ตรงนั้นโหม่งตามน้ำหนีมือซาร์เข้าประตูไป หงส์นำห่าง 2-0

เกม มาเดือดช่วงท้าย นานี่โดนคาร์ราเกอร์เสียบจนต้องหามออกจากสนามทั้งน้ำตา คาร์ราเกอร์รับใบเหลืองไป จังหวะต่อมาราฟาเอลไปพุ่งสียบใส่ลูคัส สเคอร์เทลปรี่มาเอาเรื่องราฟาเอล ผู้เล่นทั้งสองทีมวุ่นวายกันกลางสนามก่อนราฟาเอลและสเคอร์เทลจะโดนเหลืองไป ทั้งคู่ จบครึ่งแรกลิเวอร์พูลนำ 2-0

เริ่มครึ่งหลัง ทีมเยือนเริ่มตั้งเกมได้ น.49 เบอร์บาตอฟเปิดจากริมเส้นให้ชิชาริโต้วิ่งมาชาร์จในกรอบเขตโทษ บอลหลุดกรอบไปไกล น.55 รูนี่ย์เปิดให้กิ๊กส์ยิงจังหวะเดียวหน้าปากประตู บอลลอยข้ามคานไป

ทีม เยือนบุกมาเป็นชุดๆ น.59 รูนี่ย์เปิดจากริมเส้นไปเสาสองให้ชิชาริโต้ชงให้เบอร์บาตอฟโหม่งไปโดนเมเรเล สใช้อกเซฟจากเส้นไว้ได้ นาทีต่อมากิ๊กส์ได้ยิงฟรีคิกระยะ 20 หลาข้ามคานไปนิดเดียว น.62 เจ้าถิ่นเกือบได้บ้าง เค้าท์จ่ายทะลุช่องให้เมเรเลสฉีกหนีกองหลังทีมเยือนเข้ายิงมุมแคบ แต่ติดมือซาร์นิดเดียว

ทีม เยือนยับเยินเละเทะ น.65 ซัวเรสยิงฟรีคิกระยะ 25 หลา บอลโค้งหนีกำแพง ซาร์ตามไปเซฟไว้ได้แต่ตะปบบอลไม่อยู่ เค้าท์จมูกไววิ่งเข้ามาซ้ำไม่เหลือซาก ลิเวอร์พูลนำ 3-0

น.79 มักซี่ครอสให้แคร์โรว์ที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมา โขกตั้งให้เค้าท์วอลเลย์เต็มข้อแถวหัวกะโหลก บอลเหินข้ามคานไป น.85 เจอร์ราร์ดยิงไกลจากระยะเกือบ 30 หลาบอลถากเสาไปอีก น.90 เจอร์ราร์ดยิงแฉลบอกเค้าท์บอลเฉี่ยวเสาออกไปอีกครั้ง

น.90+2 โอเชียโยนเข้ากลางให้ชิชาริโต้ขึ้นไปโขกเหน่งๆ ตีไข่แตกให้ทีมเยือนเป็นประตูปลอบใจ แต่จบเกมลิเวอร์พูลก็ยังชนะไป 3-1 เก็บ 3 แต้มขึ้นไปอยู่อันดับที่ 6 ของตารางคะแนน ส่วนผีศาจแดงยังรั้งจ่าฝูงแต่แข่งมากกว่าอาร์เซนอลทีมอันดับสอง 1 นัด

 

ที่มา mthai.com