| • ลำพูนดุขวิดสิงห์บุรีกระจาย 6-0 นัดต่อไปบุกเยือนลำปาง 7 พค. นี้ |
|
โพสต์โดย โน้ต cmprice.com , วันที่ 02 พ.ค. 54 เวลา 11:27:06 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ก่อนเขียนนัดที่แล้วผมขออนุญาตถอนหายใจยาวๆ 3 ครั้ง ครั้งนี้ผมขออนุญาต สแตนดิ้ง โอเวชั่น ให้กับนักเตะ ทีมงาน ของลำพูนวอริเออร์จากใจจริง และที่จะลืมไม่ได้คือ ผู้เล่นหมายเลข 12 ของเรา กองเชียร์ลำพูนวอริเออร์ทุกท่าน ขอ สแตนดิ้ง โอเวชั่น ด้วยจริงใจ
การแข่งขันฟุตบอล AIS ลีกภูมิภาค "ดิวิชั่น 2" 2011 ภาคเหนือราชันโคขาว ลำพูน วอริเออร์ เปิดแม่กวงสเตเดี่ยม รับการมาเยือนของ นักรบบางระจัน สิงห์บุรี FC โดยนัดนี้ทางสต๊าฟโคชและนักเตะหวังสร้างผลงานเรียกศรัทธาคืนจากแฟนบอลหลัง จากนัดที่แล้วโชว์ฟอร์มไม่น่าประทับใจสักเท่าไร สภาพทีมวันนี้ถือว่าสมบูรณ์พอสมควร ตัวที่เจ็บยังเหมือนเดิมโดยเฉพาะข่าวร้าย อนุชา ไชยวงศ์ เจ็บซ้ำต้องเข้าเฝือกอีกรอบ ส่วนเจ้าไนท์ สุดนที ฯ.เชียงใหม่ กำลังอยู่ระหว่างการเรียกความฟิตกลับมา นัดนี้ได้ ซากิริน ดีกาสม หายจากอาการบาดเจ็บ กลับมาประจำการในตำแหน่งมิดฟิวส์ตัวรับได้อย่างไม่มีปัญหา
วันนี้ลำพูน วอร์ริเออร์ มาในรูปบแบบการเล่น 4-4-2 ( ที่ดูคล้าย 4-5-1 ) มาดูที่สิบเอ็ดผู้เล่นตัวจริงของลำพูน วอริเออร์กันบ้าง ผู้รักษาประตูปรับเปลี่ยนจากธีรศักดิ์ กาวิชัย มาเป็นเจ้าหมูบิน ชาญชนะ หนูเปลี่ยน แบ็คซ้ายใช้อัจฌาวุฒิ เขื่อนชนะ ฮีโร่ผู้ยิงประตูชัยจากนัดที่แล้วลงประจำการเช่นเดิม แบ็คขวาปรับเปลี่ยนมาใช้ สุรศักดิ์ วงศ์ไชย ลงมาแทนภาคภูมิ วงศ์ประเสริฐ คู่เซ็นเตอร์ฮาฟตรงการใช้ กองหลังพันธ์แกร่ง ซี เอโวนาเซ่ ยืนปักหลักคู่กับ วิชิตนันท์ กรวยทอง แดนกลางทางซ้ายใช้จอมเทคนิค วสุวัฒน์ หลักฐาน ขางขวา สมเจตน์ จันทาพูล วาง ซากิรีน ดีกาสม ตัดเกมส์ตรงกลางคู่กับ กัปตันทีม เจ้าท้อ ณัฐพล เจริญพร หน้าคู่ใช้เจ้าอ๊อฟ พัฒน์ ทองเพ็ญกุล ยืนค้ำแล้วดันเอา เบนจามิน มูซ่า ขึ้นไปเป็นหน้าคู่ช่วยล่าตาข่ายนักรบบางระจัน
ทางด้านนักรบบางระจัน สิงห์บุรี FC วันนี้ขาดผู้เล่นตัวหลัก 1 ตำแหน่ง คือ หมายเลข 2 นอลก้า ไซเรียล ที่ติดโทษแบน 2 นัด กับหมายเลย 30 โตไกย ชินตาโร่ นักเตะจากประเทศญี่ปุ่นที่รอเคลียเอกสารการลงทะเบียนที่ยังไม่เรียบร้อย นัดนี้สิงห์บุรีมาแบบไม่เกรงกลัวเจ้าบ้านวางกำลังมาเต็มอัตราศึกมาในระบบ 4-4-2 ผู้รักษาประตูใช้ พิรุณ พะยิ้ม แบ็คขวาเป็นสิทธิกร พิสุทธิ์พิมลรัตน์ แบ็คซ้าย เอกราช ทรัพย์ทิพย์ คู่เซ็นเตอร์ฮาฟใช้ เบอร์ 25 เดวิด เบนซ่า คู่กับ ธีรพงศ์ มากประเสริฐ แดนกลางทางด้านซ้าย ใช้ มนต์ชัย พงษ์เกิด ประจำการ ปีกขวาเป็น สมใจ วิวัฒน์ กองกลางคู่ใช้ หมายเลข 22 เอ็นลอมเบ้ คู่กับ กับตันทีมเบอร์ 11 กฤษณะ ปานมงคล คู่กองหน้าวางกองหน้าจากประเทษญี่ปุ่น เบอร์ 29 อิสฮิซู ไตกิ ล่าตาข่ายคู่กับ ญาณพัฒน์ นามแก้ว
เกมส์นี้เริ่มขึ้นท่ามกลางแฟนบอลที่แห่กันมาให้กำลังใจทีมรักจนแน่นขนัดไป ทั้งสนามโดยทางลำพูนวอริเออร์ เป็นทีมเขี่ยลูกเล่นก่อน แต่กลายเป็นสิงห์บุรรที่กดดันเราก่อนนับว่าเป็นการเริ่มต้นที่น่ากลัวของทาง สิงห์บุรี ที่พยายามบีบเข้าหานักเตะของเราเพื่อให้ออกบอลได้ยากและสามารถทำได้ดีมากใน ช่วงแรก และโอกาสแรกของเกมส์นี้เป็นของทางสิงห์บุรีเมื่อ กฤษณะ ปานมงคล วางบอลให้ ญาณพัฒน์ นามแก้ว หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดีที่ว่าชาญชนะ หนูเปลี่ยน ไม่ยืนหลับอยู่รีบวิ่งออกมาตัดบอลก่อนกองหน้าของสิงห์บุรีจะเข้าถึง
เกมส์ในช่วงสิบห้านนาทีแรกยังเป็นทางสิงห์บุรีที่ยังทำได้ดีกว่าพยายามปิด ทางการวิ่งของเราจนหมดประกอบกับกลางของสิงห์บุรีนั้นเข้าบีบเกมส์เร็วและยัง ดูเหมือนว่าเบนจามินยังสับสนกับตำแหน่งของตนเองทำให้ดูทิศทางการวิ่งแล้วจะ สับสนกันเอง
โดยโอกาสแรกของเรามาจากที่จังหวะที่ สมเจตน์ จันทาพูล หลุดไปทางด้านขวาและพยายามเปิดเข้ากลางเป็นกองหลังของสิงห์บุรีที่สกัดออก หลังไปก่อนที่พัฒน์ ทองเพ็ญกุล จะเข้าถึง จากจังหวะนี้เอง ลำพูน ได้ลูกเตะที่มุมธง ณัฐพล เจริญพร เปิดเข้ามา เป็น ซี เอโวนาเซ่ ได้ขึ้นโขกคนเดียวโล่งๆแต่บอลโดนไม่ดี บอลข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
และในนาทีที่ 9 ใบเหลืองใบแรกก็ออกจนได้เมื่อ เอ็นดูมเบ้ ของสิงห์บุรี ไปเล่นฟรีคิกในจังหวะที่กรรมการยังไม่อนุญาตเลยโดนจดชื่อไปตามระเบียบ จากจังหวะนี้เอง เอ็มดูมเบ้ เปิดเข้าไปให้ ไตกิ เข้าชาร์ตแต่ผู้กำกับเส้นยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปเสียก่อน
นาทีที่ 12 ลำพูน วอริเออร์ ก็รับใบเหลืองใบแรก เมื่อ ซากิริน ดีกาสม ไปเตะตัดเกม เอ็นดูมเบ้ ถึงแม้จะเอาไม่อยู่ เอ็มดูมเบ้สามารถส่องไกลได้แต่กรรมการก็ย้อนกลับมาให้ใบเหลืองแก่ซากิริน เป็นใบเหลืองใบแรกของ ลำพูน
หลังจากผ่าน 15 นาทีแรกไปแล้วเป็นเราที่เริ่มต่อเกมกันติดมากขึ้นและโอกาสตามมาที่จังหวะ จอมเทคนิค วสุวัฒน์ หลักฐาน ได้บอลทางซ้ายลากตัดเข้ามาก่อนปาดบอลมาที่หน้าประตู พิรุณ พะยิ้ม ผู้รักษาประตูของสิงห์บุรีรับบอลหลุดมือ แต่ไม่มีผู้เล่นเราอยู่บริเวณนั้น พิรุณจึงตามตระคุบเอาไว้อีกรอบ
สิงห์บุรีได้โอกาสตอบโต้อีกครั้งและเป็นโอกาสใกล้เคียงมากของสิงห์บุรีเมื่อ ปีกขวาของสิงห์บุรีได้หลุดขึ้นมาเปิดบอลให้ ญาณพัฒน์ นามแก้ว เอี้ยวตัววอลเล่ย์ โล่งๆบอลหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
โอกาสของลำพูน วอริเออร์ ยังตามมาเป็นระยะๆ และสบโอกาสอีกครั้งเมื่อซากิรีนที่ลากหลุดไปทางขวาพยายามเปิดบอลให้พัฒน์ เข้าชาร์ตแต่ไม่โดนบอลพลาดไปอย่างน่าเสียดาย
โอกาสของเราที่น่าจะได้ ประตูขึ้นนำเป็นที่สุดเมื่อทาง สุรศักดิ์ วงศ์ไชยเติมขึ้นมาเล่นเกมส์รุกทางด้านขวาปาดบอลมาที่ตรงบริเวณจุดโทษ เป็นสมเจตน์ จันทาพูล ที่ตั้งป้อมยิงด้วยขวาเน้นๆ แต่โชคไม่ดีบอลลอยกระแทกคานอย่างจังชวดได้ประตูขึ้นนำอย่าน่าเสียดาย
ดูเหมือนว่าทางสิงห์บุรีจะเริ่มหยุดเราไม่อยู่แล้วเป็นเราที่เริ่มกดดัน เข้าใส่สิงห์บุรี และเป็นจังหวะที่ วสุวัฒน์ หลักฐาน ที่กระชากบอลจากกลางสนามเลี้ยงจี้เข้าหาเขตโทษและถูกมนต์ชัย พลศ์เกิด เสียบล้มผู้ตัดสินเป่าให้ฟาวล์ในระยะประมาณ 35 หลา พร้อมกับให้ใบเหลืองกับมนต์ชัย จากจังหวะและนี้เป็นสุรศักดิ์ที่ได้ยิงบอลติดกำแพงกระเด้งออกไป
อีกจังหวะเป็นจังหวะที่สมเจต์ จันทาพูล หลุดขึ้นไปทางด้านขวาก่อนเปิดเข้ามาและเป็นพัฒน์ ทองเพ็ญกุล ขึ้นโหม่งคนเดียวโล่งๆ บอลหลุดออกนอกกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
หลังจากพยายามบุกอยู่นานลำพูรน วอริเออร์ ก็มาประสบความสำเร็จจากได้ประตูขึ้นนำ 1 – 0 จังหวะที่ กัปตันทีม ณัฐพล เจริญพร ได้เปิดฟรีคิกทางด้านซ้ายเข้ามาบอลย้อยมาที่หน้าประตูเป็น ญาณพัฒน์ นามแก้ว ของสิงห์บุรีที่พยายามโหม่งสกัดแต่ไม่โดนบอล ประกอบกับผู้รักษาประตูเสียจังหวะบอลเลยไปโดนตัวของ เบอร์ 3 เอกราช ทรัพย์ทิพ เข้าประตูตนเองในนาทีที่ 43 ให้ลำพูน วอริเออร์ออกนำ สิงห์บุรี ไป 1 – 0 เป็นประตูที่ปลดล็อกคลายความกดดันให้ลำพูนวอริเออร์ ท่ามกลางเสียงดีใจของเหล่ากองเชียร์สาวก ลำพูน วอริเออร์ ที่ส่งเสียงดีใจกันลั่น แม่กวงสเตเดี่ยม
ทำให้จบครึ่งเวลาแรกเป็น ราชันโคขาว ลำพูน วอริเออร์ ออกนำ นักรบบางระจัน สิงห์บุรี FC ไปก่อนด้วยสกอร์ 1 – 0
ในครึ่งเวลาหลังก่อนเริ่มเกมเป็นทางสิงห์บุรีที่เปลี่ยนตัวเป็นคนแรก โดยการถอด หมายเลข 29 อิสฮิซู ไดกิ ที่ดูเหมือนจะมีอาการบาดเจ็บออก แล้วส่ง หมายเลข 10 ธีรพร กลิ่นถือศีลลงมาเล่นแทน
ต้นเกมก็ยังเป็น สิงห์บุรีที่เริ่มต้นได้ดีกว่า พยายามบีบเกมเร็วเหมือนในครึ่งเวลาแรกและได้โอกาสสองครั้งติดต่อกันจาก จังหวะที่ ญาณพัฒน์เปิดเข้ากลางแต่กองหลังลำพูน สกัดเอาไว้ได้ อีกจังหวะจาก เบอร์ 15 สมใจ วิวัฒน์ เหลือบเห็นชาญชนะ ที่ออกมาไกลเกิน ตัดสินใจกึ่งยิง กึ่งผ่านบอลลอยจะเสียบใต้คานแต่ชาญชนะ ยังไวถอยกลับไปปัดบอลจนตัวกระแทกเสาก่อนที่กองหลังจะเข้ามาเก็บบอลไปเล่นต่อ ได้
ลำพูน วอริเออร์แก้เกมเร็วเหมือนกันโดยการถอดเอา เบอร์ 23 สมเจตน์ จันทาพูล ออก แล้วจัดการส่ง เบอร์ 10 บัณฑิต เพชรอำไพ ลงไปแทน พร้อมกับปรับแท็กติกการเล่น โดยการให้บัณฑิต เพชรอำไพ ไปยืนหน้าคู่กับ พัฒน์ ทองเพ็ญกุล จัดการถอยเอาเบนจามิน มูซ่า ลงมายืนกองกลางคู่กับ ณัฐพล เจริญพร พร้อมกับโยกเอา ซากิรีน ดีกาสม ไปยืนเป็นปีกขวา ทางด้านของสิงห์บุรีก็เปลี่ยนตัวโดยการถอด เบอร์3 เอกราช ทรัพย์เพิ่ม ออก และส่ง พรเทพ ปานอินทร์ ลงมาเล่นแทน
หลังจากปรับระบบการเล่นมาเป็น 4-4-2 เต็มตัว เป็นการใช้กองหน้าโดยธรรมชาติลงไปเล่น นักเตะได้เล่นตำแหน่งที่ตนเองถนัดทำให้เกมรุกของเราเริ่มดีขึ้นมาก และกดดันเข้าใส่สิงห์บุรีได้เป็นอย่างดี
มาประสบความสำเร็จได้ประตูที่ สองในนาทีที่ 54 เมื่อซากิรินที่โยกไปเล่นทางด้านขวาลากตะลุยเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนหักกลับ มาให้กับ วสุวัฒน์ หลักฐาน เอี้ยวตัววอลเล่ย์เข้าประตูไปอย่างสวยงาม ลำพูน วอริเออร์ออกนำไปเป็น 2 – 0
กลายเป็นเป็นลำพูนที่ทำเกมรุกเข้ากดดันประกอบกับเสียงเชียร์อันดังกระหึ่ม จากกองเชียร์ทั้งสนามกดดันนักเตะสิงห์บุรีจนออกอาการเป๋อย่างเห็นได้ชัดและ ประตูที่สามก็ตามมาอย่างรวดเร็วในสนามที่ที่ 58 จากซากิรินที่ลากบอลมาจากแดนกลางจี้เข้าไปในแดนของสิงห์บุรี ก่อนดีดต่อให้กับ พัฒน์ ทองเพ็ญกุล โชว์ความสามารถเฉพาะตัวอันยอดเยี่ยม ใช้ข้างเท้าเกี่ยวบอลเข้าในเขตโทษก่อนจิ้มบอลด้วยหลังเท้าเข้าประตูไปอย่าง สวยงาม ให้ราชันโคขาวทะยานนำสิงห์บุรี ห่างเป็น 3 – 0
และประตูที่สามก็ไม่ต้องรอนาน เมื่ออีกหนึ่งนาทีต่อมา นาทีที่ 59 พัฒน์ ทองเพ็ญกุล อาศัยความเร็วหลุดเข้าไปจิ้มบอลผ่าน ผู้รักษาประตูของสิงห์บุรี เข้าไปให้ลำพูน วอริเออร์ ทิ้ง สิงห์บุรี ไปไกล เป็น 4 – 0 และเป็นประตูที่สองของพัฒน์ ทองเพ็ญกุล ในเกมนี้มีลุ้นแฮททริคในนัดนี้ด้วย
ยังเป็นลำพูน วอริเออร์ที่ลำเลียงบอลบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่องและมีโอกาสอีกหลายครั้งทั้ง จาก พัฒน์ บัณฑิต เบนจามิน ที่พยายามหาจังหวะในการจบสกอร์ แต่ก็ทำได้เพียงแค่เกือบเท่านั้น ก่อนจะมาประสบความสำเร็จในนาทีที่ 69 จากจังหวะที่ แบ็คซ้าย อัจฌาวุฒิ เขื่อนชนะ ทุ่มเร็วให้กับ บัณฑิต เพชรอำไพ หลุดไปเปิดเข้ากลาง เป็นซากิริน ดีกาสม โถมเข้าโหม่งแต่บอลไปถูบริเวณลำตัวของซากิริน กลายเป็นดีบอลกลิ้งเข้าประตูไปให้ลำพูน วอริเออร์นำไปสุดกู่ 5 – 0 และเป็นประตูแรกของซากีรีน ในสีเสื้อลำพูน วอริเออร์
และเป็นทางลำพูนที่เปลี่ยนตัวอีกครั้งโดยการส่ง เบอร์ 28 เมสซี่ แห่งปกาเกอะญอ อภิชัย กุออ ลงมาแทน เบอร์ 11 วสุวัฒน์ หลักฐาน พร้อมโดยเอาซากิรินมาเล่นทางซ้าย อภิชัยขึ้นเกมทางขวา
ประตูที่ 6 ของลำพูน วอริเออร์ก็ไม่ต้องรอนาน เมื่อประสบความสำเร็จในนาที่ที่ 74 จากจังหวะที่ อัจฌาวุฒิ เติมขึ้นมาทางซ้ายและทำชิ่งกันกับ พัฒน์ ทองพ์ญกุล หลุดเข้าไปจิ้มบอลติดเซฟผู้รักษาประตู แต่บอลกลิ้งเป็นใจให้กับลำพูน วอริเออร์ ทำให้อภิชัยวิ่งเข้ามาซัดเผาขนเข้าไปตุงตาข้าย ส่งให้ ลำพูน วอริเออร์ ออกนำสิงห์บุรี หายห่วง 6 – 0
จากนั้นเราเริ่มปรับเกมส์อีกครั้งโดยการถอดเอา ซากิรีน ดีกาสม ไปพัก ให้โอกาส ศราวุฒิ วงศ์ชัย ลงมาเล่นแทน พร้อมกับปรับแทคติคโอยการโยกเอาพัฒน์ ทองเพ็ญกุล ไปเล่นเป็นปีกซ้าย ให้ศราวุฒิ เล่นเป็นศูนย์หน้าคู่กับ บัณฑิต หลังจากได้ประตูที่หกแล้วเราเริ่มผ่อนเกมส์ลงเปิดโอกาสให้ทางสิงห์บุรี ดั้งเกมทำเกมรุกเข้ากดดันเราบ้าง แต่เราก็ต้านทานได้เป็นอย่างดี ทำให้จบเกม ราชันโคขาว ลำพูน วอริเออร์ ไล่ถลุง นักรบบางระจัน สิงห์บุรี FC ไปย่อยยับ 6 – 0
ครับอย่างที่เริ่มต้นคอลั่มไว้ว่าขออนุญาตปรบมือให้กับนักเตะและทีมงานทุก ท่านที่ได้รวมพลังมอบความสุขให้แฟนบอลราชันโคขาวที่เข้ามาเชียร์กันอย่าง เนืองแน่น เป็นการแก้ตัวทันควัน หลังจากที่นัดที่ผ่านมากับน่าน ทำผลงานกันได้ต่ำกว่ามาตรฐาน เรียกว่าเป็นการเอาคืนทบต้นทบดอกเลยทีเดียว เรียกศรัทธาแฟนบอลกลับคืนมาได้อย่างน่าชื่นชม เกมโดยรวมวันนี้เราทำได้ดีทีเดียวโดยเฉพาะในครึ่งเวลาหลัง ครึ่งแรกเราอาจจะอึดอัดบ้าง โดยเฉพาะในช่วง 15 – 20 นาทีแรก ที่ทางด้านสิงห์บุรี ไล่เพรสซิ่ง กดดันเราทำให้เราจับจังหวะในการเล่นค่อนข้างยากประกอบกับพื้นสนามที่ลื่นเอา มากๆ ทำให้เราเสียจังหวะกันหลายต่อหลายครั้ง ( จนถึงขนาด ซากิรีน ต้องเปลี่ยนรองเท้าเลยทีเดียว ) นับเป็นช่วงเวลาที่อึดอัดมากการต่อเกมทำไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นสิงห์บุรี ที่มีจังหวะกดดันเข้าใส่เราเล่นเอาหายใจไม่ทั่วท้องในหลายๆจังหวะ
แต่พอเกมเข้าสู่นาทีที่ 25 เป็นต้นไป เกมของเราเริ่มกลับเข้ามาทำงานอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเราเริ่มปรับตัวเข้ากับสนามและเกมดีขึ้นแล้วเริ่มทำเกมรุกกดดันเข้าใส่ อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังหาโอกาสจบสกอร์ไม่ได้ เพราะการขึ้นเกมส์ริมเส้นยังขาดความแม่นยำในการเปิดบอลเข้าหาคู่กองหน้า ประกอบกับการดันเอาเบนจามิน เล่นกองหน้าซึ่งอย่างไรก็แล้วแต่โดยส่วนตัวผมเห็นว่าไม่เวิร์ก เบนจามิน ต้องเล่นตรงกลางสนามเท่านั้นเพราะเซ็นต์บอลของเขาถูกหล่อหลอมมม ถูกฝึกมาให้เล่นกลางเพื่อคุมพื้นที่ เพราะสังเกตว่าเวลาเปิดเข้าไปการเข้าชาร์ตจะมีแค่พัฒน์ เพียงคนเดียว ส่วนเบนจามินนั้นหลุดหายจากตำแหน่งไป พูดง่ายๆคือ เบนจามินไม่มีเซ็นต์ของการเป็นกองหน้า ที่ต้องจมูกไว รู้ว่าบอลจะเปิดไปตรงไหน และจะต้องไปที่จุดนัดพบตรงไหน ซึ่งกองกลางไม่มีตรงจุดนี้
จุดเปลี่ยนที่สำคัญของเกมอีกอย่างคือการที่เราได้ประตูขึ้นนำในช่วงเวลาที่ เหมาะเหลือเกิน คือนาทีที่ 43 ก่อนหมดเวลา 2 นาที ทำให้ดูเหมือนกำลังใจ และความฮึกเหิมของสิงห์บุรี มันหายไปหมด เพราะถ้าเสมอ 0 – 0 ในครึ่งแรกสิงห์บุรีก็ต้องพอใจมากและจะเล่นแบบเดิมในครึ่งเวลาหลัง คือตั้งรับอย่างอดทน ขอโอกาสส่วนกลับงามๆสักครั้งสองครั้ง แล้วมันจะกลายเป็นการกดดันนักเตะของเราไปโดยอัตโนมัติ ทีนี้พอตกเป็นฝ่ายตามจะเล่นอย่างเดิมก็ไม่ได้ ต้องดันขึ้นสูงเพื่อเปิดเกมบุกบ้าง พอดันเกมสูงเพื่อตั้งเกมส์บุกสู้จะทำให้เราเริ่มมีพื้นที่ในการเล่นมากขึ้น ไปด้วย จะเห็นได้จากครึ่งหลังเรามีพื้นที่เล่นกันมากกองหน้าได้เล่นบอลบ่อยขึ้น ทำให้จังหวะจบสกอร์มากตามปด้วย
จุดเปลี่ยนอีกจุดหนึ่งในครึ่งเวลาหลังคือ การที่เราปรับเกมอีกครั้งหนึ่ง โดยการเปลี่ยนสมเจตน์ จันทาพูล ออกแล้วส่งเอา บัณฑิต เพชรอำไพลงมาแทน เพื่อปรับระบบการเล่นแบบ 4-4-2 เต็มตัว โดยให้ พัฒน์ ยืนหน้าคู่กับ บัณฑิต แล้วดึงเอาเบนจามินลงต่ำไปคู่กับ ณัฐพล จากนั้นโยกเอา ซากิรีน ไปเล่นเป็นปีกขวา การแก้เกมในช็อตนี้ผมยกนิ้วให้กีบทางสต๊าฟโคชเลยทีเดียว เพราะเป็นกลับมาเล่นระบบเดิมที่นักเตะมองตาแล้วแทบจะรู้ใจ
เพราะระบบนี้ เราเล่นต่อบอลสอดประสานกันได้อย่างลงตัวทำ การสอดส่ายหาบอลของคู่กองหน้าก็ทำได้ดีเอามาก พยายามช่วยกันวิ่งทำทางตลอด เรียกว่านี่คือกองหน้าอาชีพอย่างแท้จริงที่รู้เคล็ดลับการเอาชนะกองหลังคู่ ต่อสู้ รู้จังหวะการเล่นของตนเอง ส่วนแดนกลางเมื่อเบนจามีนลงไปเล่นกลางคู่กับ ณัฐพล ทำให้ดูเด่นมีสง่าราศีมาอีกเยอะเพราะเขาเริ่มมีพื้นที่ในการเล่นมากขึ้น ประกอบกับเขามีความขยันอยู่แล้วจึงสามารถช่วยงานของณัฐพล ได้อย่างดีเยี่ยมทั้งการทำเกมและตัดเกมทำได้เป็นอย่างดีทีเดียว
ส่วนซากิรีนนั้นตอนแรกผมก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าการปรับเอาไปเล่นทางขวาจะทำ ได้ดีไหมเพราะตำแหน่งที่ถนัดของเขาน่าจะเป็นตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค แต่เอาเข้าจริงแล้วกลับทำได้อย่าน่าทึ่งเลยทีเดียว เรียกว่ามีส่วนร่วมกับ 3 ประตูเลยทีเดียว เป็นการ ยิงหนึ่งจ่ายสองเลยทีเดียว นี่เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่สารพัดประโยชน์พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อทีมเสมอ นักเตะแบบนี้แหละครับที่ทุกทีมอยากมีไว้ในทีมเพราะมันเหมือนประเภท ทรีอินวันที่สามารถช่วยทีมได้มากทีเดียว
ครับต้องแสตนดิ่งโอเวชั่น ให้กับทุกคนอีกครั้งหนึ่งจะเรียกว่าเป็นฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ นัดแรกมาจนถึงนัดที่ 9 ( ขออนุญาตลืม 15 นาทีแรกชั่วคราวครับ ) เป็นการเล่นที่เรียกว่าเล่นแบบมีสไตล์ ชนะแบบมีสไตล์ เดินเกมรุกอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย กดดันเข้าใส่คู่แข่งไม่ให้ตั้งตัวได้นี่เป็นแนวทางการเล่นที่ได้ใจแฟนบอลเอา มากๆ ใครที่ได้เข้าชมเกมนี้จะต้องกล่าวขวัญถึงอย่างแน่นอน บอลตามช่องเล่นได้ดีทีเดียวการทะลุทะลวงตามปีกทั้งสองข้างดีมากแม้นจังหวะ สุดท้ายอาจมีติดๆ ขัดๆ บ้างแต่ก็เป็นไปตามจังหวะของฟุตบอล แต่ที่อยากให้ปรับปรุงคือจังหวะที่หลุดไปแล้วการผ่านบอลเข้ามา การเปิดบอลจะต้องกดดันผู้รักษาประตูกับกองหลังให้ได้มากที่สุด อาจจะต้องฝึกเปิดบอลให้มากขึ้น ให้บอลพุ่งมีน้ำหนักไม่ให้บอลย้อยเกิน ไปไม่ว่าจะเป็นปีกซ้าย-ขวา หรือแบ็คทั้งสองข้าง อันจะเป็นการเพิ่มอาวุธเด็ดให้เราอีกทางหนึ่ง
จากนัดนี้จะเห็นได้ว่าเกมเราเริ่มแน่นขึ้น มีผู้รักษาประตูฝีมือดีอยู่ถึงสองคน กองหลังเหนียวแน่นมาก มีตัวตายตัวแทนกันแต่ต้องภาวนาอย่าให้ ซี เอโวนาเซ เจ็บ เพราะเขาคือตัวหลักที่เล่นได้เหนียวแน่นมากทั้งภาคพื้นดินและกลางอากาศ ส่วนคนอื่นๆทดแทนกันได้ ทั้งซากิรีน วิชิตนันท์ ภาคภูมิ ก็สามารถเล่นได้ กองกลางถ้าเจ้าไนท์ สุดนที ฟิตเต็มร้อยเราจะมีอาวุธหนักไว้โจมตีคู่แข่งอันจะเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้า ทำให้กับเรา รอ อนุชา ไชยวงศ์ ฟิตเต็มร้อยเมื่อไหร่ทีมไหนก็หยุดเรายาก
ทีนี้เหลือแค่รูปแบบวิธีการเล่นที่จะปรับอย่างไรเท่านั้น เจอทีมระดับใดจะต้องเดินหน้าฆ่าให้ตายหรือจะต้องปลอดภัยไว้ก่อน ก็เป็นหน้าที่ของสต๊าฟโคชแล้วว่าจะเลือกอย่างไรเอาให้เหมาะสมเป็นนัดๆไปแต่ โดยส่วนตัวเห็นว่าในบ้านควรใช้ 4-4-2 เข้ากดดันก่อนมากกว่าที่จะเป็น 4-5-1 เพราะดูแล้วผู้เล่นของเราน่าจะปรับตัวให้เข้ากับระบบ4-4-2 ได้มากกว่า เรียกว่าเป็นความคุ้นเคยกับระบบมากกว่า การวิ่งไม่ทับกันสามารถสอดประสานกันได้อย่างลงตัวดังจะเห็นได้จาก 40 นาทีหลังที่เราปรับระบบการเล่น มาเป็น 4-4-2 เต็มตัว เกมของเราก็สามารถกดดันใส่สิงห์บุรีจนโงหัวไม่ขึ้น
ครับนับว่าเป็นของขวัญให้พี่น้องราชันโคขาวได้สุขใจรับวันแรงงานแห่งชาติ บรรยากาศในสนามวันนี้นับว่าสุดยอดกว่าทุกนัดที่ผ่านมา กองเชียร์เรามีสีสันมากมีอุปกรณ์การเชียร์มาเสริม มีเสื้อหมายเลข 12 อันหมายถึงกำลังใจจากพี่น้องกองเชียร์ราชันโคขาว เพื่อสื่อสารไปยังทีมงานนักเตะทุกคนว่าพวกเราจะคอยเป็นกำลังใจให้และจะเดิน เคียงข้างคุณเสมอ ไม่ว่ายามสุขหรือทุก เราพร้อมจะเชียร์ เราพร้อมจะเป็นกำลังใจให้ ไม่ว่าท่านจะมาจากที่ใดก็ตามแต่เรามายืนตรงจุดนี้เราถือว่าเป็นครอบครัว หนึ่ง เป็นครอบครัวของ ราชันโคขาว ลำพูน วอริเออร์ขอให้ทุกท่านแสดงความสามารถให้เต็มที่ ทุ่มเทให้เต็มร้อยเราจะเป็นผู้เล่นคนที่สิบสองคอยเคียงข้างพวกคุณเสมอ เพราะว่า .............เรามาเอาชัย ไม่ว่าเป็นใคร ธงโบกไสว ไม่ว่าที่ไหน เราคือลำพูน ที่นี่ลำพูน (ที่นี่ลำพูน) หริภุญชัย (หริภุญชัย) เรามาด้วยใจ ไม่ว่าที่ไหนเราก็จะเชียร์ (***ร้องซ้ำ) โอ้เลโอเล โอ้เลโอเล โอ้เลโอเล ลำพูน แวร์ริเออร์ โอ้เลโอเล โอ้เลโอเล โอ้เลโอเล ลำพูน แวร์ริเออร์
อักษราพัฒน์ เขียน 2 / 5 /2554
http://board.lamphunwarrior.com/index.php?topic=1417.msg21620;topicseen#msg21620
สามารถเข้าไปดูรูปภาพได้ที่ http://board.lamphunwarrior.com/index.php
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 3710 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย โน้ต cmprice.com
IP: Hide ip
, วันที่ 02 พ.ค. 54
เวลา 11:27:06
|
