หน้าแรก | ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด | ตลาดออนไลน์ | อัตราค่าลงโฆษณา
www.cmprice.com เว็บไซต์ของฅนเชียงใหม่ ผ้าพันคอราคาถูก ราคาส่ง เชียงใหม่ ลำพูน

หน้าแรก » เว็บบอร์ด
ห้องการเมือง
เว็บบอร์ด » ห้องการเมือง
รายละเอียดของห้อง : "แตกต่างแต่ไม่แตกแยก" ความคิดอันหลากหลาย สำหรับการเมืองในไทย
กระทู้ที่ตอบกลับล่าสุด | สร้างกระทู้ใหม่ | ดูกระทู้ทั้งหมด | ค้นหากระทู้ :
ทักษิณ คุยลั่นแนะทางแก้วิกฤตเศรษฐกิจโลก

กรุณาอ่าน!!! กระทู้เงินกู้ กู้เงินฯลฯ
เนื่องจากมีผู้ถูกหลอกเป็นจำนวนมาก กรุณาอย่าโอนเงินไปก่อน และใช้วิารณญาณในการตัดสินใจ

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง


แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV
ทักษิณ คุยลั่นแนะทางแก้วิกฤตเศรษฐกิจโลก
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 12 มี.ค. 52 เวลา 19:00:15 IP: Hide ip    


กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน


 

© เนื้อหาข่าว/กระทู้

 

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปาฐกถา ” วิกฤตเศรษฐกิจโลก : ทำไมจึงไม่ใช่เป็นเพียงแค่วิกฤตการเงิน แต่เป็นวิกฤตทางปัญญา “ณ สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ฮ่องกง 12 มีนาคม 2552 โดยผ่าน VDO Conferrent ถ่ายทอดมาที่ สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในประเทศไทยด้วย ที่อาคารมณียาเซ็นเตอร์ ชั้นเพนท์เฮาส์

หมายเหตุ : พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปาฐกถา” วิกฤตเศรษฐกิจโลก : ทำไมจึงไม่ใช่เป็นเพียงแค่วิกฤตการเงิน แต่เป็นวิกฤตทางปัญญา” ณ สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ฮ่องกง 12 มีนาคม 2552 โดยผ่าน VDO Conferrent

ฟาง เส้นสุดท้าย ที่ทำให้สถาบันการเงิน ล่มสลาย จนได้ลุกลามกลายเป็นวิกฤตเศรษฐกิจระดับโลกครั้งนี้  เกิดขึ้นจากนักการเงินใช้จ่ายเงินเกินตัวอย่างไร้เหตุผล  การกำกับดูแลตรวจสอบสถาบันการเงินที่ไร้ประสิทธิภาพ และถ้าเราเชื่ออีกว่า การโยกย้ายผ่องถ่ายเงินไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว เป็นต้นเหตุสำคัญของวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ผมคิดว่าเรากำลังจะพลาดประเด็นที่สำคัญของปัญหาไปอย่างน่าเสียดาย

เราทราบกันดีว่าต้นเหตุของวิกฤตครั้งนี้ เกิดขึ้นชัดเจนตั้งแต่ปี 1997 โดยการโจมตีค่าเงินบาท และลุกลามกลายเป็น ” วิกฤตการเงินของเอเชีย ” ทุกประเทศในเอเชีย ยกเว้นเกาหลีเหนือได้ดำเนินนโยบายตาม “ฉันทามติแห่งวอชิงตัน ” ( Washington′s Mantra ) ซึ่งแต่ละประเทศประสบความสำเร็จมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป  แต่ดูเหมือนว่าประเทศที่เดินตาม “ฉันทามติแห่งวอชิงตัน” อย่างเคร่งครัดในครั้งนั้น จะกลับกลายเป็นประเทศที่ได้ผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤตการเงินรอบใหม่ใน ครั้งนี้

“ฉันทามติแห่งวอชิงตัน” ที่ทุกประเทศท่องจำจนขึ้นใจ คือ คำว่า “ตลาดเสรี” ( Free  Markets ) ตลาดที่เป็นอิสระจากการกำกับควบคุมดูแล และจะนำไปสู่ความมั่งคั่งอย่างไม่มีขีดจำกัด สำหรับคนทุกหมู่เหล่า

ผมเติบโตมาในประเทศที่ได้รับประโยชน์มหาศาล จากการยอมรับนโยบาย ต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ยุคสงครามอินโดจีน ชนชั้นปกครองเชื่อว่า ประเทศจะประสบความสำเร็จและก้าวหน้าด้วยการเปิดประเทศ ทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับใครก็ตามที่ต้องการทำธุรกิจกับเรา โดยเฉพาะเมื่อมีข้อเสนอดี ๆ จาก 2 ประเทศมหาอำนาจ คือ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ที่เวลานั้นเป็นหัวขบวนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก

แนวความคิดจากต่างประเทศ ได้รับการยอมรับและนำไปปฏิบัติด้วยดี โดยไม่มีการตั้งคำถามว่า เราจะถูกกลืนเข้าไปในวังวนห่วงโซ่อุปสงค์และอุปทาน ของสินค้าและบริการหรือไม่ อย่างไร  รวมทั้งระบบการเงินที่เราไม่สามารถตีตัวออกห่างได้ แม้ในยามที่เราประสบกับวิกฤตที่ร้ายแรงที่สุด เราไม่สามารถมีปากเสียงที่จะไปต่อกรว่า ความเชื่อมโยงต่างๆ เหล่านี้ ถูกบงการมาอย่างไร เราต้องปล่อยไปตามกระแส หรือไม่เช่นนั้น ก็ต้องถูกตราหน้าว่าเป็นพวกชาตินิยมและจะไม่สามารถแข่งขันกับใครได้  การพัฒนาทักษะจากจุดแข็งที่มีอยู่ของคนในประเทศ ถูกกล่าวหาว่าเป็นสิ่งเชื่องช้าล้าหลัง

การหมุนเวียนของเงิน และความหลากหลายของตราสารทางการเงินที่ถูกสร้างขึ้นจากศูนย์กลางการเงินต่าง ๆ ของโลกนั้น เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณวันต่อวัน ความรุ่งเรืองและความถดถอยเป็นวัฏจักรของธรรมชาติ แต่จะเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก ถ้าเกษตรกรและคนงานในโรงงานอุตสาหกรรมของเราต้องเดือดร้อน โดยได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากปัญหาภายในประเทศ แต่วิกฤตกลับเกิดเพราะรัฐบาลในขณะนั้นไม่มีความรู้  รู้ไม่เท่าทันการไหลเวียนของตราสารทางการเงินในตลาดต่างประเทศที่อยู่ห่าง ไกลจากอีกซีกโลกหนึ่ง

วิกฤตเศรษฐกิจในปี 1997 ทำให้เราต้องกลับมาเริ่มต้นคิดใหม่ว่า เราจะสามารถก่อร่างสร้างตัวได้อย่างไร ในแนวทางที่มีเหตุมีผล ซึ่งจะทำให้เราสามารถควบคุมเศรษฐกิจ ให้ดำเนินไปในแบบอย่างที่เราอยากจะให้เป็นได้มากขึ้น ผลของการคิดอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ ถูกร่างเป็นนโยบายของพรรคการเมือง ที่ผมก่อตั้งขึ้น ด้วยแนวความคิดหลัก ที่ต้องการให้คนไทยทั่วทั้งประเทศทุกพื้นที่ นำจุดเด่น จุดได้เปรียบ ของตนเองมาผลิตสินค้าและบริการออกไปขาย และแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพได้ในตลาดโลก ทั้งยังเสนอวิธีการช่วยเหลือและพัฒนาความได้เปรียบเหล่านั้นให้มี ประสิทธิภาพอย่างเป็นรูปธรรม

แนวความคิดนี้ ไม่เชื่อเรื่องการปิดประเทศ การปิดประเทศอาจเป็นไปได้ เพราะประเทศไทย เป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ แต่เราเลือกที่จะไม่ถอนตัวจากเศรษฐกิจโลก แต่จะทำให้ประเทศไทยดีขึ้น และเป็นประเทศที่น่าอยู่สำหรับทุกคน ผมมีความยินดีที่จะรายงานว่า หลายนโยบายที่ผมได้พัฒนาไว้ รัฐบาลต่อ ๆ มาของไทยเห็นด้วยและนำมาใช้บริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง แม้บางครั้งจะถูกเปลี่ยนชื่อไปเป็นอย่างอื่น แต่สาระสำคัญของนโยบายยังคงอยู่เหมือนเดิม
ครั้ง นี้ไม่ใช่เป็นเพียงวิกฤตการเงิน แต่เป็นวิกฤตทางปัญญาของโลก นาย โทนี่ แบลร์  อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ให้ความเห็นว่า ถ้าคุณไปถามผู้เชี่ยวชาญว่า จะแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโลกครั้งนี้อย่างไร คำตอบที่คุณจะได้รับ น่าจะเป็นคำตอบว่า “ผมจนปัญญาจริง ๆ ครับ”

วิกฤติครั้งนี้เป็นวิกฤตทางปัญญาของโลก ( Intellectual Crisis ) ซึ่งเป็นผลจากการปฏิเสธที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริง และที่สำคัญที่สุดปฏิเสธที่จะคิดแก้ปัญหาจากภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง ( Real Economy )
ความสำเร็จของอเมริกาและญี่ปุ่น เกิดขึ้นจากการที่ประเทศทั้งสองเรียนรู้ความก้าวหน้าจากการปฏิวัติ อุตสาหกรรมในยุโรป รวมทั้งการพัฒนาทักษะความสามารถในการผลิตสินค้าจำนวนมาก ( Mass Production ) เพื่อตอบสนองความต้องการของโลก นวัตกรรมใหม่ถูกคิดค้นด้วยมันสมองและแรงงานที่มีคุณภาพ

แต่ในปัจจุบัน กลับไม่เป็นเช่นนั้น นักศึกษาที่ฉลาดที่สุด เก่งที่สุด ดีที่สุด เมื่อจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และ ญี่ปุ่น ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา กลับหลั่งไหลไปทำงานในธุรกิจบริการด้านการเงินการธนาคาร ดังนั้นความคิดสร้างสรรค์ใหม่จึงถูกจำกัดอยู่เพียงแค่การออกแบบผลิตภัณฑ์ทาง การเงิน ที่สัญญาว่า จะให้ผลตอบแทนสูงลิบลิ่วเท่านั้น และถ้าหากว่ามีใครกล้าตั้งคำถามว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจะมีความยั่งยืนมั่นคงเพียงใด คนแหล่านั้นก็อาจจะถูกโจมตีได้ว่า เป็นพวกมีความคิดล้าหลังและเป็นพวกต่อต้านความเจริญก้าวหน้าของโลกยุคโลกาภิ วัฒน์

วันนี้ไม่มีใครสามารถหมุนเวลาย้อนกลับ และถอนตัวจากเศรษฐกิจยุคโลกาภิวัตน์ได้ สิ่งที่เศรษฐกิจยุคโลกาภิวัตน์ต้องการ คือ การ ถูกกำกับดูแลระดับโลก (Globalized Regulation) ซึ่งยังไม่มีประเทศใดกล้าที่จะพูดถึง เพราะการทำเช่นนั้น หมายถึงการท้าทายความเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลกของสหรัฐอเมริกา

คู่ค้าที่สำคัญอย่างประเทศจีน มีประสบการณ์มากมายในอดีต  น่าจะมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยแก้ไขปัญหาในขณะนี้ได้ แต่ก็ยังไม่กล้าทำเช่นนั้น  เพราะด้วยเหตุผลทางการเมืองที่ไม่ต้องการแสดงให้เห็นว่า จีนอยากแข่งขัน และเป็นผู้นำของโลกแทนสหรัฐอเมริกา จีนต้องการคงบทบาทเป็นแค่เพียงผู้สนับสนุนที่ดีเท่านั้น

ขณะที่สหรัฐอเมริกาและยุโรป กำลังหาทางแก้ปัญหาวิกฤตทางปัญญาอยู่ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ กำลังหาทางที่จะผลิตสินค้าและบริการอะไรสักอย่างที่ดีกว่า การสร้างตราสารทางการเงิน และเป็นความต้องการของตลาดโลกชิ้นใหม่ที่สำคัญ ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่จีนและอินเดียไม่สามารถผลิตได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า

อะไรคือหนทางรอดของประเทศเล็ก ๆ ที่เหลืออยู่ในภูมิภาคเอเชีย ?

เราต้องสร้างความสามารถในการแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพให้ได้ ด้วยทรัพยากรที่เรามีอยู่ ซึ่งไม่ด้อยไปกว่าใครทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ คนของเราได้รับการศึกษาที่ดีกว่าในอดีตมาก ประกอบกับคนงานของเราไม่ได้มีความมั่นคงในหน้าที่การงาน เหมือนกับที่ชาวอเมริกันในอุตสาหกรรมรถยนต์และเหล็กได้รับมายาวนาน

ดังนั้นเราจึงสามารถฝึกอบรมคนงานของเราใหม่ได้ไม่ยาก โดยไม่ต้องกลัวกับการต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้จัดการทั้งหลาย ที่หมดไฟในการทำงานและขาดแคลนความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ

อุตสาหกรรมการเกษตรของเรา ก็ก้าวมาถึงขั้นที่สามารถปรับปรุงคุณภาพและความหลากหลายเพื่อตอบสนองความ ต้องการของตลาดต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายทั่วโลก อุตสาหกรรมระดับหมู่บ้านก็สามารถปรับให้อยู่ในรูปของอุตสาหกรรมขนาด กลางและขนาดเล็กคล้ายกับของประเทศอิตาลีที่สามารถเอาตัวรอดได้ในยาม วิกฤตมานับครั้งไม่ถ้วน

ระบบเศรษฐกิจบนพื้นฐานความคิดสร้างสรรค์  (Creative Economy) ไม่จำเป็นที่จะต้องถูกผูกขาดเฉพาะชาวยุโรปเท่านั้น ระบบเศรษฐกิจบนพื้นฐานความคิดสร้างสรรค์ และจะต้องถูกพัฒนาอย่างจริงจัง จะเป็นทางออกที่สำคัญของประเทศในอนาคต จะเป็นตัวจักรสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ จะทำให้เกิดการสร้างงานที่มั่นคงและสังคมที่แข็งแรงในอนาคต

ทั้งหมดที่ผมได้กล่าวมานี้เป็นจะต้องได้รับความช่วยเหลือด้านการพัฒนา อย่าง มีเป้าหมายซึ่งสามารถทำได้ ทุนสำรองระหว่างประเทศไม่ใช่สิ่งที่ไม่สำคัญแต่คงไม่มีประเทศใดใช้ทุนสำรอง ระหว่างประเทศที่มีอยู่ทั้งหมดไปกับการแก้ไขปัญหาของประเทศ เพราะกลัวว่าประเทศจะประสบกับภาวะวิกฤตทางการเงิน

ด้วยเหตุนี้เองที่แนวทางในการพัฒนาตลาด ” พันธบัตรเอเชีย ” (Asia Bonds) ที่ผมเป็นผู้ริเริ่ม จึงมีบทบาทสำคัญ หากจีนและญี่ปุ่นยอมรับที่จะเป็นผู้นำในการนี้ ประกอบกับความร่วมมือของประเทศอื่น ๆ  ที่มีทุนสำรองส่วนเกิน เราจะมีแหล่งเงินทุนสำหรับใช้พัฒนาเศรษฐกิจของเราในอนาคตได้อย่างมั่นใจ

ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าประเทศในเอเชียและประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ในโลกจะอยู่ได้อย่างมั่นคง โดยไม่คำนึงถึงประเด็นเกี่ยวกับธรรมาภิบาล  ซึ่งขณะเดียวกันเรายังต้องรักษาและยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ดังการศึกษาของ “อมาตยา เซน” (Amartya  Sen) ที่แสดงให้เห็นว่า  ” ระบอบประชาธิปไตย เป็นหนทางเดียวที่จะช่วยป้องกันปัญหาความอดอยาก “  มีแต่การพัฒนาที่สมดุลที่คนจนและคนด้อยโอกาสไม่ถูกละเลยเท่านั้น ที่จะนำมาซึ่งเสถียรภาพในระยะยาว

เราจำเป็นต้องเรียนรู้ความสำเร็จของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้ใช้นโยบายยืดหยุ่นและละเอียดอ่อน ในการปกครองประชาชนและการบริหารประเทศ จนประสบความสำเร็จอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ทำให้จีนกลายเป็นโรงงานของโลก ผลิตสินค้า ทำรายได้ และที่สำคัญมีเงินออมมากมายเพียงพอ ที่จะอุดหนุนการใช้จ่ายการบริโภคของประชาชนในประเทศมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่ สุดในโลกได้

จากวิกฤตครั้งนี้  ถึง เวลาแล้วที่จีนจะต้องใช้เงินออมที่มีอยู่ เป็นแหล่งทุน สำหรับการสร้างโอกาส สร้างความมั่งคั่ง ให้กับประชาชนของตน ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคม ปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ทั่วทั้งประเทศทัดเทียมและดียิ่งขึ้น มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพราะการทำเช่นนี้นอกจากจะช่วยลดแรงกดดันทางสังคมและการเมืองที่มีต่อพรรค คอมมิวนิสต์แล้ว ยังช่วยลดแรงกดดันจากสหรัฐอเมริกาได้อีกด้วย

เราต่างรู้ดีว่าปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้…ร้ายแรงกว่าที่หลายคนคิดไว้ มาก จนในที่สุดรัฐบาลอาจหนีไม่พ้น จำเป็นต้องเข้าไปช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดใหญ่ที่กำลังล่มสลาย แต่รัฐบาลของเราต้องให้ความช่วยเหลืออย่างมีความซื่อสัตย์ทางปัญญา กล้าปฏิเสธความไม่ถูกต้อง หากจำเป็นต้องเข้าไปรับผิดชอบความเสียหายของธุรกิจใดๆ  ก็ตาม ต้องทำอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม รัฐบาลต้องกล้าที่จะประกาศว่า เงินภาษีของประชาชนที่รัฐบาลจะนำไปให้ความช่วยเหลือนั้นจะต้องไม่ถูกนำไป จ่ายเป็นค่าโบนัสให้กับบรรดาผู้บริหารทั้งหลายที่สร้างความเสียหายให้กับ ธุรกิจนั้น

ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลกจะไม่มีทางแก้ไขได้ ถ้านักเศรษฐศาสตร์ยังคิดว่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินไปข้างหน้า ต้องพึ่งพาพลังเศรษฐกิจขนาดใหญ่เท่านั้น ถึงวันนี้เราต้องยอมรับความจริงว่า ความสามารถในการชำระหนี้ต่างหากคือกุญแจสำคัญไม่ใช่เรื่องของขนาดเท่านั้น “ขนาด” จะมีบทบาทช่วยได้ ตราบเท่าที่ “ขนาด” และความสามารถในการชำระหนี้เดินหน้าไปพร้อมๆ กัน

ธุรกิจจะเติบโตได้ตราบเท่าที่มีความสามารถในการชำระหนี้ ความสามารถในการชำระหนี้ย่อมเกิดจากความสามารถในการสร้างรายได้สุทธิ (Net Income) เงินออมจะมีประสิทธิภาพได้ ก็ต่อเมื่อเงินออมนั้นมาจากรายได้สุทธิเช่นกัน
สมมติ ว่าเราสามารถคลี่คลายวิกฤตสถาบันการเงินของโลกได้แล้ว ธนาคารกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง เพราะได้รับการชดเชยและสนับสนุนจากรัฐบาล   ธนาคารเหล่านั้นจะทำธุรกิจอะไร พวกเขาจะให้ใครกู้เงิน และจะให้เงินกู้เพื่อทำธุรกิจแบบเดิม ๆอีก…อย่างนั้นหรือ

วันนี้ ท่าเรือสำคัญของโลกเต็มไปด้วยตู้คอนเทนเนอร์ ที่อัดแน่นด้วยสินค้าที่ผลิตแบบเดียวกัน เหมือนกัน จำนวนมากมายมหาศาล เราจะผลิตสินค้าแบบนั้นเพิ่ม ขึ้น…..อีกหรือ   คนงานจีนจะยังเดินหน้าผลิตรถยนต์เหมือนกับที่คนงานอเมริกันคงผลิตและขายไม่ ออก….อีกหรือ

เราต้องยอมรับว่าสินค้ากำลังล้นตลาด การผลิตสินค้าแบบอุตสาหกรรม ( Mass Production ) มีขีดจำกัด เราจึงจำเป็นต้องสนับสนุนการสร้างรายได้แบบใหม่ด้วยการผลิตสินค้าและบริการ ที่อาศัยความได้เปรียบจากสินทรัพย์วัฒนธรรม ภูมิปัญญาแห่งชนชาติ และการผลิตด้วยทักษะแรงงาน ที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว  พร้อมทั้งสนับสนุนการสร้างตลาดที่จะแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างท้องถิ่นที่ คึกคักและมีชีวิตชีวา

วันนี้…จึงเป็นหน้าที่ที่เราจะต้องพยายามค้นหาสินค้าและบริการเหล่านั้น ให้พบ รวมทั้งให้การสนับสนุนด้านเงินทุนในทุกวิถีทาง เพื่อทำให้ธุรกิจเหล่านี้อยู่รอด เราจึงจะสามารถสร้างระบบเศรษฐกิจที่มั่นคงและสังคมที่แข็งแรงได้ในระยะยาว

ผมเชื่อว่า อเมริกา มีพลังของภูมิปัญญาในหลากหลายแขนง ซึ่งสามารถสร้างสรรค์สินค้าและบริการอย่างมีคุณภาพสูง โดยไม่จำเป็นต้องแข่งขันด้านราคากับใคร โลกกำลังต้องการพลังงานทดแทนที่มีประสิทธิภาพและต้นทุนต่ำอย่างพลังงานแสง อาทิตย์ โลกกำลังต้องการเทคโนโลยีและบริการที่ให้ความสำคัญกับการปกป้องสิ่งแวดล้อม

อเมริกามีผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และสามารถสร้างนวัตกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการของโลกยุคใหม่นี้อย่างไม่ยากเย็น  เมื่อสหรัฐอเมริกา เริ่มที่จะใช้เทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเหล่านี้ ก็จะเป็นการบังคับให้ประเทศต่างๆ ในเอเชียรวมทั้งประเทศอื่น ๆ ในโลก ต้องปรับปรุงกระบวนการผลิตสินค้าและบริการ

สติปัญญาของชาวอเมริกัน สามารถสร้างสิ่งเหล่านี้ ให้เกิดขึ้นมาได้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อชาวอเมริกันเอง รวมทั้งต่อประเทศอื่นๆ ในโลก เพียงแต่ชาวอเมริกันต้องยอมรับว่า “โลกในอนาคตจะต้องไม่ถูกกำหนดจากวอลสตรีท ที่สำคัญสินค้าและบริการต้องมีความสัมพันธ์กับการจ้างงาน รวมทั้งให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และนำมาซึ่งรายได้สุทธิ (Net  Income) ที่คุ้มค่ากับความตั้งใจที่ใส่ลงไป”

การสร้างเศรษฐกิจที่แท้จริง  Real  Economy) มีความสำคัญอย่างยิ่ง การค้าตราสารทางการเงิน  (Paper  Trading) จะเป็นประโยชน์ก็ต่อเมื่ออยู่ภายใต้การกำกับดูแลที่เหมาะสมเท่านั้น

หากบรรดาผู้นำทางปัญญาในสหรัฐอเมริกา ยอมรับแนวคิดนี้ได้เร็วเท่าใด ผลดีที่จะเกิดขึ้นต่อเราทุกคนในโลกก็จะมีมากขึ้น…เท่านั้น

ดร.ทักษิณ  ชินวัตร
ประธานมูลนิธิสร้างอนาคตที่ดีกว่า
( The Building a Better Future Foundation )
และอดีตนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
ที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของประเทศไทย

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก มติชนออนไลน์

 


Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV


ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน

 

 

 

 

 



แจ้งลบกระทู้นี้

อ่าน 2724

แสดงความคิดเห็น โดย ตนข่าว IP: Hide ip , วันที่ 12 มี.ค. 52 เวลา 19:00:15
 


กรุณาอ่าน!!! กระทู้เงินกู้ กู้เงินฯลฯ
เนื่องจากมีผู้ถูกหลอกเป็นจำนวนมาก กรุณาอย่าโอนเงินไปก่อน และใช้วิารณญาณในการตัดสินใจ

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

 

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 

 
กรุณาอ่าน
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใด ที่ขัดต่อกฎหมายและ ศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ 08-0500-1180 เพื่อให้ผู้ควบคุม ระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
 
 


ปิดโฆษณานี้X

ผ้าพันคอราคาถูก

ปิดโฆษณานี้X

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 


หน้าแรก l หางานเชียงใหม่ | ตลาดออนไลน์ | เว็บบอร์ด | อัตราค่าลงโฆษณา | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี | ติดต่อเรา


เพื่อนบ้านเราทั้งหมด วิธีแลก Link

© cmprice.com since 14 Jan 2005
E-mail: info@cmprice.com
FaceBook : facebook.com/cmprice.fc
TEL. 08-0500-1180
Line id: cmprice









www.cmprice.com ที่นี่มีสิ่งดีๆ รอคุณอยู่
ผู้สนับสนุน แบบพิเศษ

บ้านหนองช้างคืน | เครื่องฟอกอากาศ เชียงใหม่-ลำพูน | ผ้าพันคอราคาถูก | ของชำร่วย | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี