ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ได้ยินคำว่า ประชาธิปไตยที่แท้จริง ออกจากปากของ ทักษิณ ชินวัตร หลายต่อหลายครั้ง มีผู้สื่อข่าวเคยถามหลายต่อหลายครั้งว่า คำว่าประชาธิปไตย ที่แท้จริงเป็นอย่างไร แต่ ทักษิณ ก็ไม่เคยอธิบายแบบชัดเจนแม้แต่ครั้งเดียว
แต่เมื่อพิจารณาจากวิธีการขับเคลื่อนเกมส์การเมืองทั้งระบบ ของทักษิณ ซึ่งมีหลายส่วนด้วยกัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ในประเทศก็มีทั้งในสภาและนอกสภา
นอกสภาก็ทีทั้งพวกเอาเจ้าและไม่เอาเจ้า
ในต่างประเทศ มีทั้งจ้างบริษัทล้อบบี้ยิสต์ และสำนักข่าว รวมทั้งคอลัมนิสต์
ประเทศไทยมีโครงสร้างสังคมแบบพิเศษ นักวิชาการบางท่านให้เหตุผลรองรับว่า เกิดจากการสืบทอดพฤติกรรมมาตั้งแต่ สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ที่ใช้ระบบการปกครองแบบ พ่อปกครองลูก
วัฒนธรรมของประเทศไทย จึงเป็นวัฒนธรรมเชื่อผู้ใหญ่ ในสังคมครอบครัว ไม่ว่าลูกจะเรียนสูงแค่ใหน ทำงานใหญ่โตมีลูกน้องบริวารเท่าใดก็ตาม แต่ก็จะยึดพ่อแม่ เป็น ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ตลอดชีวิต คำเตือนของพ่อแม่จะถือเป็นมงคลชีวิต เป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติ
ด้วยวัฒนธรรมและจารีต ที่กระทำติดต่อกันมาเช่นนี้ แม้ว่าประเทศจะเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 โดยรัฐธรรมนูญและกกหมายที่วางระเบียบแห่งรัฐจะเอามาจากต่างประเทศก็ตาม แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ก็ยังยึดวัฒนธรรมและจารีตที่เป็นรากเหง้าของประเทศเหมือนเดิม
แม้ประเทศจะปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้การปกครอง มีอำนาจอยู่ 3 อำนาจคือ 1.นิติบัญญัติ 2.ตุลาการ 3.บริหาร ซึ่งโดยนัยยะแล้วน่าจะถือว่า เป็นอำนาจสูงสุดของอำนาจทั้งมวลในประเทศ
แต่รัฐธรรมนูญ ทุกฉบับที่ผ่านมาต่างก็ยังยกให้องค์พระมหากษัตริย์ ทรงมีอำนาจสูงสุด
อำนาจนิติบัญญัติ ออกกฎหมายมา พระเจ้าอยู่หัวต้องลงพระปรมาภิไธยไทยก่อน จึงจะใช้ได้
อำนาจตุลาการ จะตัดสินคดีความภายใต้พระปรมาภิไธย
อำนาจบริหาร นายกรัฐมนตรี ต้องมีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง จากพระมหากษัตริย์ ซึ่งรวมถึงคณะรัฐมนตรีและแม่ทัพนายกอง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ด้วย
เมื่อมองเข้าไปทั้งบริบท ระบอบการปกครองประชาธิปไตยของประเทศไทยนั้น เมื่อประชาชนเลือกผู้แทนเข้ามาแล้ว และผู้แทนเป็นผู้คัดเลือก บุคคลที่จะบริหารประเทศ หรือ นายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ยังไม่สามารถบริหารประเทศได้ต้องให้พระเจ้าแผ่นดิน โปรดเกล้าฯก่อน เปรียบเหมือนในบ้าน เมื่อลุกเรียนสูง มีหน้าที่การงานใหญ่โต ต้องการขยายงาน เปิดบริษัทใหม่ ลงทุนใหม่ ลูกจะปรึกษาพ่อ แม่ก่อนเสมอ ว่าดีไหม ถูกต้องไหม อย่างที่บอกโดยจารีตของไทย พ่อแม่ คือที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ตลอดชีวิต
ในการปกครองประเทศก็เช่นกัน เรื่องใหญ่ๆ ที่สำคัญต่อประเทศ จะให้พระเจ้าอยู่ ทรงตัดสินพระทัยขั้นสุดท้ายเสมอ หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า กันเหนียวไว้ก่อน เผื่อพลาด
สรุปความก็คือ การปกครองระบอบประชาธิปไตย ของประเทศไทยที่ผ่านมานั้น จะขยักอำนาจสูงสุดไว้ให้พระเจ้าอยู่หัว เหมือนกับสังคมในบ้าน ตามจารีต ที่ลูกจะให้พ่อแม่เป็นผู้ตัดสินใจ ขั้นสุดท้าย
นั่นก็คือ ระบอบการปกครองประชาธิปไตย ของไทยนั้นให้อำนาจสูงสุดอยู่ที่พระเจ้าอยู่หัว
นี่คือ บริบท ของประเทศไทย อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
แต่การเรียกร้องของ ทักษิณ ชินวัตร ในวาทะกรรม ประชาธิปไตยที่แท้จริง การเคลื่อนไหวทั้งหมด พอจับใจความได้ว่า อำนาจสูงสุด ควรจะอยู่ที่ผู้ที่ประชาชนเลือกเข้ามาบริหารประเทศ เฉกเช่นเดียวกันกับ กัมพูชา ที่ฮุนเซน เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของประเทศ
การจับการเคลื่อนไหว ของ ทักษิณ ชินวัตร คือ การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ที่โจมตีพระเจ้าอยู่หัว เพื่อลดพระบารมีลง อาทิเช่น การปราศรัยของ ดา ตอปิโด จักรภพ เพ็ญแข สุชาติ นาคบางไทร หรือการเขียนบทความของ ใจ อึ้งภากรณ์ รวมทั้ง เวบไซด์ต่างๆเช่นฟ้าเดียวกันเป็นต้น
ปฏิกิริยาของ ฝ่ายทักษิณ ชินวัตร ที่พบในปัจจุบัน คือ พยายามโจมตีองครักษ์ พิทักษ์ พระเจ้าอยู่หัว เช่น ท่านประธานองคมนตรี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พล.อ.สุรยุทธ จุลนานนท์ พล.อ.พิจิตร กุลวณิชย์ และการประดิษฐ์คำโจมตีต่างๆเช่น ล้มอำมาตย์ ซึ่งถ้าพิจารณาการขับเคลื่อนแล้ว ต่างก็มุ่งไปที่ผู้ที่รับใช้ใกล้ชิด พระเจ้าอยู่หัว ทั้งสิ้น ลิ่วล้อบางคนของ ทักษิณ ถึงขนาดเคยให้ความเห็นไว้ว่า ไม่มีความจำเป็นต้อง มีองคมนตรี ทั้งๆที่รู้ว่า พระภารกิจ ของพระเจ้าอยู่หัวมีมากมายและใหญ่หลวง พระองค์ท่าน จึงมีความจำเป็นต้องมีที่ปรึกษาคือองคมนตรี ขนาดบริษัท ยังต้องมีที่ปรึกษา นี่พระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งดูแลประเทศทั้งประเทศ แต่คนเสื้อแดง กลับบอกว่า ไม่จำเป็นต้องมีที่ปรึกษา นั่นก็หมายความว่า หากไม่ต้องการให้พระเจ้าอยู่หัวมีที่ปรึกษา ก็คือ ไม่ต้องการให้รับพระภาระของบ้านเมือง
เมื่อเอาเหตุการณ์เหล่านี้มาประกอบกันแล้ว คำว่า ประชาธิปไตยที่แท้จริง ของทักษิณ ชินวัตร ก็คือ ให้อำนาจสูงสุดมาอยู่ที่ ผู้ที่ประชาชนเลือกมา นั่นก็คือ ลดบทบาทและพระราชอำนาจ ของพระเจ้าอยู่หัวที่เป็นอยู่ ณ.ปัจจุบันลง
แนวรบใหม่ที่ต้องการให้กระทบไปถึงพระเจ้าอยู่หัว ของฝ่ายเสื้อแดงคือ จะแก้รัฐธรรมนูญ ไม่ให้มีองคมนตรี ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่า เป็นกลุ่มบุคคลเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นที่พระเจ้าอยู่หัว สามารถเลือกมาช่วยงานได้ด้วยพระองค์เอง และยังเปิดประเด็นต่อมา ในเรื่องผู้สำเร็จราชการอีก ทั้งๆที่ได้กำหนดมาโดยรัฐธรรมนูญมาทุกฉบับในเนื้อหาแบบเดียวกันนี้ รัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ ทักษิณ เรียกร้องให้กลับมาใช้ ก็ระบุ ให้ องคมนตรีเป็นผู้เลือก เพราะองคมนตรีทุกท่านนั้น พระเจ้าอยู่หัว ทรงเลือกมาด้วยพระองค์เอง การที่เคลื่อนไหวจะแก้ในประเด็นนี้ ก็เพื่อที่จะลดความน่าเชื่อถือของพระเจ้าอยู่หัวทางอ้อม อีกเช่นกัน โดยให้คิดว่า คนที่พระเจ้าอยู่หัว ทรงเลือกมาไม่น่าเชื่อถือ ให้เป็นผู้เลือก ผู้สำเร็จราชการไม่ได้
วาทะกรรมของ ทักษิณ ชินวัตร ที่ว่า ประชาธิปไตยที่แท้จริง ก็คือ อยากมีอำนาจสูงสุด เท่านั้นเอง
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|