หน้าแรก | ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด | ตลาดออนไลน์ | อัตราค่าลงโฆษณา
www.cmprice.com เว็บไซต์ของฅนเชียงใหม่ ผ้าพันคอราคาถูก ราคาส่ง เชียงใหม่ ลำพูน

หน้าแรก » เว็บบอร์ด
ห้องการเมือง
เว็บบอร์ด » ห้องการเมือง
รายละเอียดของห้อง : "แตกต่างแต่ไม่แตกแยก" ความคิดอันหลากหลาย สำหรับการเมืองในไทย
กระทู้ที่ตอบกลับล่าสุด | สร้างกระทู้ใหม่ | ดูกระทู้ทั้งหมด | ค้นหากระทู้ :
มติชน...นักวิชาการธรรมศาสตร์กระตุกต่อมสำเหนียกของรัฐบาลเผด็จการเรื่องปิดสื่อ

แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV
มติชน...นักวิชาการธรรมศาสตร์กระตุกต่อมสำเหนียกของรัฐบาลเผด็จการเรื่องปิดสื่อ
โพสต์โดย ดร.สุเมท ณ ดอยนางนอน , วันที่ 17 เม.ย. 53 เวลา 09:04:29 IP: Hide ip    


กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน


 

© เนื้อหาข่าว/กระทู้

 

วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2553 เวลา 23:00:00 น.  มติชนออนไลน์

 

 

การลิดรอนสิทธิในการสื่อสารคือเผด็จการ

โดย ดร.ยุกติ มุกดาวิจิตร คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

รัฐบาลอาจจะมีอำนาจตามกฎหมายที่จะดำเนินการปิดเว็บไซต์ 36 แห่งตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2553 และออกประกาศของกระทรวง ICT เมื่อ 12 เมษายน 2553 ห้ามเผยแพร่ภาพและวิจารณ์การใช้กำลังทหารติดอาวุธสงครามสลายการชุมนุมจนเป็นเหตุให้มีการบาดเจ็บและเสียชีวิตในวันที่ 10 เมษายน 2553  แต่สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างรุนแรง การกระทำดังกล่าวแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์กำลังเป็นรัฐบาลเผด็จการ โดยมิได้ตระหนักว่าผลของการใช้อำนาจเผด็จการนี้จะยิ่งก่อให้เกิดความขัดแย้งที่ขยายวงกว้าง และฝักรากลึกยืดเยื้อในสังคมไทยไปอีกนาน กล่าวคือ


ประการแรก การที่รัฐบาลเน้นปิดกั้นข่าวสารในโลกอินเทอร์เน็ต ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของโลกอินเทอร์เน็ตต่อสังคมปัจจุบัน ที่อินเทอร์เน็ตเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตประจำวัน คนใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการเรียนรู้ เพื่อการแสดงออกทางความคิด เพื่อการสร้างสรรค์อัตลักษณ์ เพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร โดยสรุปแล้วคือคนใช้อินเทอร์เน็ตสร้างสรรค์สังคม ทั้งสังคมในชีวิตประจำวันและสังคมในอุดมคติ


ในระบอบประชาธิปไตย หากรัฐบาลเห็นว่ากิจกรรมใดๆ ที่เว็บไซต์เหล่านั้นกระทำเป็นการละเมิดกฎหมาย รัฐบาลก็สามารถใช้กระบวนการยุติธรรม เพื่ออาศัยอำนาจศาลในการปิดเว็บไซต์เหล่านั้น การอาศัยอำนาจศาลนับได้ว่าเป็นวิธีควบคุมการละเมิดกฎหมายอย่างถูกต้องและชอบธรรมในระบอบประชาธิปไตย


แต่การปิดกั้นการสื่อสารด้วยอำนาจทางการบริหาร ด้วยการอ้าง พรก. ฉุกเฉินซึ่งให้อำนาจรัฐบาลอย่างล้นพ้นเกินการตรวจสอบได้เพื่อการปิดกั้นข่าวสาร ไม่แตกต่างจากการเอากระบอกปืนมาจ่อหัวไม่ให้คนพูดคุยถกเถียง การปิดเว็บไซต์ของรัฐบาลเป็นการละเมิดสิทธิการติดต่อสื่อสารและการสร้างสรรค์สังคมของประชาชนอย่างร้ายแรง รัฐบาลกำลังวิสามัญฆาตกรรมการสื่อสารของผู้คนในสังคมโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม


ประการที่สอง รัฐบาลอาจมองว่าการปิดเว็บไซต์เป็นวิธีการที่ถูกต้องในการระงับความขัดแย้งในปัจจุบัน แต่รัฐบาลต้องศึกษาให้เข้าใจว่าความขัดแย้งนี้ผังรากลึกในสังคมไทยมายาวนานกว่าการชุมนุมที่เพิ่งผ่านมาเพียงเดือนหนึ่งนี้


ความขัดแย้งทางการเมืองครั้งนี้มิใช่ความขัดแย้งทางการเมืองในระยะสั้น รัฐบาลควรศึกษาให้เข้าใจว่าความขัดแย้งนี้ยืดเยื้อมาเป็นทศวรรษแล้ว การเคลื่อนไหวทางการเมืองในปัจจุบันเป็นผลมาจากการที่ประชาชนส่วนหนึ่ง เกิดความรู้สึกว่าพวกเขาถูกทำให้กลายเป็นพลเมืองชั้นสองต่อเนื่องมาตั้งแต่หลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 จนกลายมาเป็นสำนวนเรียกตนเองว่า "ไพร่" ส่วนปัญหาระยะยาวยิ่งกว่านั้น รัฐบาลนี้คงพอรู้อยู่บ้างว่าผู้คนในสังคมไทยตกอยู่ในภาวะของความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองมายาวนานและฝังรากลึกเพียงใด


การปิดกั้นข่าวสาร ปิดกั้นการสื่อสารในสื่อทางเลือก จะยิ่งทำให้กลุ่มคนที่ไม่สามารถสื่อสารด้วยช่องทางการสื่อสารทั่วไป รู้สึกถึงการถูกกดทับให้กลายเป็นพลเมืองชั้นสอง ตอกย้ำความไม่เท่าเทียมกันในสังคมมากยิ่งขึ้น


ประการที่สาม การปิดกั้นการสื่อสารนี้ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์มีกรอบความเข้าใจเรื่องการสื่อสารอย่างคับแคบและดูถูกประชาชน ในขณะนี้รัฐบาลกำลังมุ่งสื่อสารกับประชาชนเพียงด้านเดียว สื่อหลักที่รัฐบาลใช้คือ "ฟรีทีวี" ซึ่งอยู่ในการควบคุมของรัฐทั้งหมด รัฐบาลอาจคิดว่าการสื่อสารผ่านทีวีเหล่านี้มีต้นทุนต่ำและได้ผลสูง รัฐบาลมีความเชื่อว่า ประชาชนจะเชื่อฟังข่าวสารที่รัฐบาลนำเสนอด้านเดียวอย่างเชื่องๆ


แต่รัฐบาลหารู้ไม่ว่าพฤติกรรมการบริโภคสื่อในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว ฟรีทีวีเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งในหลายๆทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นเคเบิลทีวีหรือจานดาวเทียม ตลอดจนหนังสือพิมพ์และสื่อทางเลือกต่างๆในอินเทอร์เน็ต ดังนั้นจึงมีเพียงคนที่สนับสนุนรัฐบาลหยิบมือเดียว ที่พร้อมจะเชื่อและรับรู้ข่าวสารผ่านทางฟรีทีวี ส่วนประชาชนผู้ตื่นตัวทางการเมืองจำนวนมากจะหันไปหาสื่อทางเลือกอื่นๆเพื่อรับรู้ข่าวสารมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ


ไม่เพียงรัฐบาลจะไม่สามารถโน้มน้าวให้คนเชื่อในสิ่งที่รัฐบาลนำเสนอผ่านฟรีทีวีเท่านั้น แต่สื่อทางเลือกอื่นๆจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนำเสนอข่าวสารที่ให้แง่มุมที่แตกต่างจากที่รัฐบาลเสนอ


ประการสุดท้าย การปิดกั้นข่าวสารไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งครั้งนี้ได้เลยแม้แต่น้อย แต่กลับจะขยายวงของความขัดแย้งมากยิ่งขึ้น ทำให้กลุ่มคนที่อยู่ตรงกลางๆ หรือไม่ได้ "เป็นแดง" กลับถูกผลักหรือต้องเดิน "เส้นทางสายแดง" มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่ต่างอะไรกับ "การเข้าป่า" เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งการเข้าป่าเป็นเส้นทางที่นักศึกษาหลายคนเลือกเดินโดยมิได้มีใจเป็นคอมมิวนิสต์มาก่อน


หนทางในการ "ลงใต้ดิน" ของชุมชนในอินเทอร์เน็ตนั้นมีได้หลายทาง คนในโลกอินเทอร์เน็ตเห็นการปิดกั้นข่าวสารในโลกอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องน่าขัน เนื่องจากกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจะสามารถสร้างทางลัดทางลอด ก้าวข้ามการปิดกั้นควบคุมของรัฐได้เสมอ การที่เว็บไซต์บางเว็บมิได้หลีกลี้จากอำนาจรัฐแต่ต้น มิได้หมายความว่าเว็บไซต์เหล่านั้นไม่รู้ทางเลี่ยง หากแต่พวกเขาต้องการดำเนินการอย่างโปร่งใส อยู่ภายใต้กฎหมายของรัฐไทยและพร้อมรับการตรวจสอบการละเมิด


แต่หากรัฐบาลผลักไสให้เว็บไซต์เหล่านี้ลงใต้ดินเสียแล้ว กฎหมายของรัฐไทยก็จะไร้ความหมาย และการละเมิดและผลของการละเมิดกฎหมายก็จะรุนแรงยิ่งกว่า ในอนาคตอันใกล้ เชื่อได้ว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์จะไม่สามารถรับผิดชอบต่อผลกระทบจากการต่อต้านของชุมชนอินเทอร์เน็ตได้


กล่าวโดยสรุป หากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะไม่ตระหนักถึงประเด็นต่างๆ ข้างต้น แต่กระทำการใดๆ เพียงเพื่อรักษาอำนาจของตนและพวกพ้อง นายอภิสิทธิ์และพวกพ้องก็จะยังคงดำรงอำนาจอยู่ได้ด้วยข้ออ้างทางกฎหมายอย่างแน่นอน แต่ทว่า นายอภิสิทธิ์จะได้รับการตีตราว่าเป็นเผด็จการผู้สร้างความขัดแย้งยืดเยื้อในสังคมไทยตลอดไป

 


Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV


ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน

 

 

 

 

 



แจ้งลบกระทู้นี้

อ่าน 1285

แสดงความคิดเห็น โดย ดร.สุเมท ณ ดอยนางนอน IP: Hide ip , วันที่ 17 เม.ย. 53 เวลา 09:04:29
 

 

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 

 
กรุณาอ่าน
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใด ที่ขัดต่อกฎหมายและ ศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ 08-0500-1180 เพื่อให้ผู้ควบคุม ระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
 
 


ปิดโฆษณานี้X

ผ้าพันคอราคาถูก

ปิดโฆษณานี้X

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 


หน้าแรก l หางานเชียงใหม่ | ตลาดออนไลน์ | เว็บบอร์ด | อัตราค่าลงโฆษณา | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี | ติดต่อเรา


เพื่อนบ้านเราทั้งหมด วิธีแลก Link

© cmprice.com since 14 Jan 2005
E-mail: info@cmprice.com
FaceBook : facebook.com/cmprice.fc
TEL. 08-0500-1180
Line id: cmprice









www.cmprice.com ที่นี่มีสิ่งดีๆ รอคุณอยู่
ผู้สนับสนุน แบบพิเศษ

บ้านหนองช้างคืน | เครื่องฟอกอากาศ เชียงใหม่-ลำพูน | ผ้าพันคอราคาถูก | ของชำร่วย | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี