ลิงก์ผู้สนับสนุน

ทูตไทยกลับพนมเปญ เร่งฟื้นสัมพันธ์-ช่วยคนไทย "ปณิธาน"หาช่องให้ผู้นำพบกันก่อนประชุมอาเซม ลือ"จีน-เวียดนาม"บีบ แต่เชื่อเปิดเกมใหม่กดดันไทย

ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 16.15 น. นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ กล่าวก่อนจะเดินทางกลับไปปฏิบัติหน้าที่ ณ สถานทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ว่า งานหลักคือการฟื้นความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา แต่การเดินทางไปครั้งนี้ต้องรอสาส์นตราตั้งก่อน จึงจะทำหน้าที่ได้ ทำให้ขณะนี้ยังไม่สามารถเข้าเยี่ยมคนไทยที่ถูกจับกุมได้ อย่างไรก็ตาม การให้ความช่วยเหลือคนไทยในกัมพูชาเป็นหน้าที่สถานทูตไทยอยู่แล้ว และจะทำให้ดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนางยู ออย เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ก็จะเดินทางกลับมาปฏิบัติหน้าที่ในไทย ซึ่งจะเดินทางโดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 932 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 10.00 น. วันที่ 25 ส.ค.

"ปณิธาน"หาช่องให้"อภิสิทธิ์"พบ"ฮุนเซน"

เมื่อเวลา 12.30 น. นายปณิธาน วัฒนยากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการส่งเอกอัครราชทูตประเทศไทย ประจำประเทศกัมพูชา กลับไปยังประเทศกัมพูชา ภายหลังที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลาออกจากการเป็นที่ปรึกษาของสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่า การลาออกของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นไปในแนวทางที่รัฐบาลเคยพูดไว้ การที่พ.ต.ท.ทักษิณจะมีความสัมพันธ์ส่วนตัวไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้ามีความสัมพันธ์และมีบทบาทในประเทศใด อาจจะมีผลกระทบต่อกันได้

"รัฐบาลอยากให้พันตำรวจโททักษิณ กลับมาต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ปัญหาทุกอย่างจะได้จบโดยเร็ว ซึ่งสอดคล้องกับทูตนานาประเทศเห็นด้วยกับแนวทางของรัฐบาล ถ้ากลับมาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมจะทำให้สถานการณ์ภายในประเทศดีขึ้น" นายปณิธาน กล่าว

รองเลขาธิการนายกฯ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศกำลังเตรียมหาช่องทางให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทย และสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพุชา ได้พบกันก่อนการประชุมอาเซมในเดือนตุลาคม ที่ประเทศเบลเยี่ยม เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ โดยคาดว่าอาจจะพบกันในเวทีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับสหรัฐฯ แต่ยังไม่มีหมายกำหนดการที่ฃัดเจน

ลือ"จีน-เวียดนาม"บีบ"ฮุนเซน"กลับลำอ้อนไทย

รายงานอ้างแหล่งข่าวจากแกนนำพรรคประชา ธิปัตย์ เปิดเผยกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลาออกจากที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของกัมพูชา โดยก่อนนี้สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เคยเลือกแทงข้างคนเสื้อแดงคิดว่าจะล้มรัฐบาลได้ในการชุมนุมใหญ่ที่ผ่านมา แต่เมื่อเหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่คิด การชุมนุมของคนเสื้อแดงล้มรัฐบาลไม่ได้ จึงทำให้สมเด็จฮุนเซน ต้องกลับมาทบทวนใหม่ เพราะเมื่อคนเสื้อแดงไม่ชนะแล้วกัมพูชาต้องอุ้มผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายไว้ใน ประเทศให้ที่พักพิงต่าง ๆ ก็จะทำให้กัมพูชามีแต่จะเสีย และได้รับความเดือดร้อน

เดิมประเทศไทยค้าขายกับกัมพูชาส่ง สินค้าไปขายถึง 90% แต่เมื่อมีความขัดแย้งกับประเทศไทย ทำให้กัมพูชาเกิดปัญหาเศรษฐกิจทันที จึงหวังไปพึ่งเวียดนามและจีนแต่ปรากฎว่า จีนและเวียดนามไม่เอาด้วยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยทั้ง 2 ประเทศเลือกจะสนับสนุนประเทศไทย ทำให้เศรษฐกิจของกัมพูชายิ่งแย่ลงไปอีก

ดังนั้น สมเด็จฮุนเซนจึง ตัดสินใจส่งสัญญาณให้กับประเทศไทย จีน และเวียดนาม โดยให้พ.ต.ท.ทักษิณ ออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ เชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ขอลาออกเอง เพราะถ้ามีเจตนาจะช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกัมพูชาจริง ก็คงจะลาออกตั้งแต่ถูกคัดค้านเข้ารับตำแหน่งใหม่ ๆ แล้ว

ขณะที่ แหล่งข่าวจากแกนนำพรรคเพื่อไทย อ้างว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทยกับกัมพูชานั้น มีปัญหาไม่จบสิ้น โดยเฉพาะกรณีเขาพระวิหารและพื้นที่ทับซ้อน พ.ต.ท.ทักษิณจึงได้โทรศัพท์ไปหาสมเด็จฮุนเซน ระบุว่า ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นนั้น เกี่ยวข้องกับตนมากน้อยเพียงใด หากเกี่ยวข้องกับก็ยินดีจะลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว

เพราะถึงแม้จะไม่มีตำแหน่งก็พร้อมจะ ช่วยเหลืออยู่แล้ว และจะไม่ทำให้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศบานปลาย อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของพ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งนี้ไม่ได้แจ้งให้แกนนำพรรคเพื่อไทยทราบ ก็เหมือนเมื่อครั้งที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ๆ ก็ตัดสินใจด้วยตัวเอง

เชื่อ"ฮุนเซน"เปิดเกมใหม่ ดึงต่างชาติกดดันไทย

แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงการต่าง ประเทศ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทน ลาออกตำแหน่งที่ปรึกษาเศรษฐกิจของสมเด็จฮุน เซน ว่า สถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศขณะนี้ จะเห็นว่าสมเด็จฮุนเซน จะมุ่งเรื่องปราสาทพระวิหาร รวมทั้งปัญหาเรื่องเขตแดนที่ยังค้างคา และพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลที่ยังไม่จบ

ซึ่งการกดดันไทยด้วยการสร้างเงื่อนไข จาก พ.ต.ท.ทักษิณใช้ไม่ได้ผล หรืออาจกล่าวได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีประโยชน์ต่อกัมพูชาแล้ว เนื่องจากกัมพูชาเล่นเกมการเมืองระหว่างประเทศ สามารถดึงความสนใจต่างชาติและองค์การระหว่างประเทศ อย่างยูเอ็น และอาเซียน ต่อข้อพิพาทไทย - กัมพูชาได้เอง

ทั้งนี้ จะเห็นว่าการที่รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชามีหนังสือเสนอไปยังเวียดนาม ในฐานะประธานอาเซียนปีนี้ เพื่อให้ประเทศอาเซียนเข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาของสองประเทศแม้ว่าเวียดนามมีท่าทีตอบรับ แต่ได้ทำหนังสือเพื่อหยั่งความเห็นต่อประเทศสมาชิกอาเซียนต่อเรื่องนี้ทันที

แหล่งข่าวระดับสูงเชื่อว่ากัมพูชา ประเมินสถานการณ์แล้ว เห็นถึงแนวโน้มที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่สามารถกลับคืนสู่อำนาจได้ จากเหตุการณ์ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงที่ผ่านมา เหมือนพาคนไปตาย ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ยังคงอยู่ โดยที่ พ.ต.ท.ทักษินทำได้แค่ป่วนให้เกิดกระแสการเมืองในไทยได้เท่านั้น ทางกัมพูชาคงชั่งน้ำหนักและคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ไม่เอาประเทศมาแลกกับ ทักษิณ แม้พ.ต.ท.ทักษิณจะเคยช่วยเงินหาเสียงกับสมเด็จฮุน เซน ในฐานะมิตรเก่า โดยความช่วยเหลือสมเด็จฮุนเซนที่ มีต่อพ.ต.ท.ทักษิณก็ถือว่าได้ตอบแทนแล้ว อย่างไรก็ตามเชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณกำลังรับสภาพความพ่ายแพ้ของตนเอง ประกาศลาออกก่อนยังดีกว่าปลดจากตำแหน่ง

Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
		VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV