|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ต้นเหตุที่แท้จริงที่นำไปสู่การบาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น เนื่องจากมีกองกำลังติดอาวุธแฝงตัวอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งได้สร้างสถานการณ์รุนแรงให้เกิดการสูญเสีย เป็นการดำเนินการที่มีการคิดและวางแผนมาเป็นอย่างดีของแกนนำผู้ชุมนุม ดังจะเห็นได้ชัดเจนว่าก่อนหน้านั้น ในการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในการชุมนุมเมื่อ เม.ย.๕๒ ไม่มีการสูญเสียชีวิตเกิดขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ยึดหลักหลีกเลี่ยงความรุนแรง และไม่ใช้เครื่องมือที่จะก่อให้เกิดความสูญเสีย แต่ก็จะเห็นได้ว่าแกนนำผู้ชุมนุมพยายามสร้างข่าว ปลอมแปลงเสียง นรม. และหาศพผู้เสียชีวิตเพื่อใช้โจมตีเจ้าหน้าที่และรัฐบาล ส่วนในการชุมนุมที่ผ่านมาเมื่อ มี.ค. – พ.ค.๕๓ นี้ กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังใช้วิธีเดิมคือทำให้เกิดศพผู้เสียชีวิตให้ได้ โดยใช้วิธีการที่ต้องได้รับการประณาม คือจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธขึ้น และใช้ชีวิตเลือดเนื้อของประชาชนผู้ชุมนุมเป็นเครื่องมือให้บรรลุวัตถุประสงค์ของกลุ่มตน นับว่าเป็นแนวความคิดที่เป็นอันตรายต่อประเทศชาติเป็นอย่างยิ่ง
เจ้าหน้าที่ไม่เคยมีแนวความคิดในการใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม โดยได้ใช้วิธีปิดล้อมพื้นที่ พยายามไม่ให้คนและอาวุธของกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปเพิ่มเติม
การชุมนุมที่ผ่านมามีการวางแผนมาเป็นอย่างดีเพื่อให้เกิดสถานการณ์รุนแรงและการสูญเสีย โดยจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธแฝงตัวอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุมและพยายามสร้างสถานการณ์ยั่วยุให้เกิดความรุนแรง อันเป็นการใช้ชีวิตเลือดเนื้อของประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นเครื่องมือในการบรรลุวัตถุประสงค์ของกลุ่มตน นั่นคือทำให้เกิดการบาดเจ็บ และให้มีศพผู้เสียชีวิตให้ได้ เป็นการกระทำที่ขาดมนุษยธรรม กระทำดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นว่าแกนนำกลุ่ม นปช. ไม่ได้มีความรักและปรารถนาดีต่อประชาชนอย่างจริงใจ ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้เห็นว่ารัฐล้มเหลว แม้ว่าผลของการกระทำจะสร้างความเสียหายเดือดร้อนแก่ประชาชนโดยทั่วไป และแม้กระทั่งประชาชนที่สนับสนุนฝ่ายตนก็ยังวางแผนเพื่อให้เกิดการสูญเสียได้
มีการเยียวยาและเข้าไปดูแลสวัสดิการของครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เสียชีวิตนั้น ได้มีการเข้าไปเยียวยาทุกรายโดยฝ่ายรัฐแล้ว
แถลงผลความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนคดีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุม พร้อมทั้งแจงรายละเอียด จำแนกประเภท จำนวน เวลา สถานที่ ของผู้เสียชีวิต โดยชี้ให้เห็นว่าผู้เสียชีวิตส่วนหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ และเป็นการเสียชีวิตที่ต่างเวลาและสถานที่กัน มิใช่เป็นการเสียชีวิตในคราวเดียวจากการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่
สาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ ห้างสรรพสินค้าเวิร์ลเทรด เซ็นเตอร์ ในการกระชับพื้นที่กลุ่มผู้ชุมนุม บริเวณสี่แยกราชประสงค์ เมื่อ ๑๙ พ.ค.๕๓ นั้น สืบเนื่องมาจากกลุ่มผู้ชุมนุมแสดงความไม่พอใจที่แกนนำ นปช. คนสำคัญอย่าง นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ประกาศยุติการชุมนุม บริเวณสี่แยกราชประสงค์ และเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ตร. ณ สตช. ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน จึงได้ลงมือวางเพลิงเผาสถานที่ต่างๆกว่า ๓๙ จุด ตามที่สื่อมวลชนได้รายงานข่าวในขณะนั้น รวมถึงการยิงบั้งไฟ พลุ และปาระเบิดขวด เข้าใส่ห้างสรรพสินค้าดังกล่าว บริเวณชั้น ๑ เป็นเหตุให้เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นในเวลาประมาณ ๑๔๐๐ ซึ่งในขณะนั้นพื้นที่โดยรอบห้างสรรพสินค้าดังกล่าวยังเป็นพื้นที่การชุมนุม ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถเข้าพื้นที่เพื่อทำการดับเพลิงได้ เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำการต่อต้านและทำร้ายเจ้าหน้าที่
เพื่อป้องกัน ระงับ ยับยั้ง การก่อเหตุรุนแรงเป็นอันตรายต่อชีวิต ทรัพย์สิน ปกป้องสิทธิของประชาชนโดยทั่วไปตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ และรักษาความสงบเรียบร้อยด้วยความเป็นกลางตามกรอบที่กฎหมายกำหนด
ประเด็นต่าง ๆ ที่กลุ่ม นปช. พยายามนำเสนอ เพื่อชี้นำว่าเจ้าหน้าที่ทำร้ายประชาชนและสร้างความวุ่นวายในห้วงการชุมนุมของกลุ่ม นปช. เมื่อ มี.ค. – พ.ค.๕๓ นั้น ไม่ได้เป็นประเด็นใหม่แต่อย่างใด ล้วนเป็นประเด็นเดิมที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงต่อสาธารณชน, คณะกรรมการสืบสวน และรัฐสภา อย่างชัดเจนแล้ว ดังนั้น ความพยายามดังกล่าวของกลุ่ม นปช. จึงเป็นเพียงความพยายามในการบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อก่อกวนและลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล พร้อมทั้งชี้ให้เห็นว่าการดำเนินการสอบสวนในแต่ละคดีจะต้องดำเนินไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ต้องใช้เวลาในการสืบสวนข้อเท็จจริงจากพยานต่างๆมากมาย เพื่อความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย มิใช่กล่าวอ้างถึงหลักฐานข้อมูลจากแหล่งเดียวที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ยืนยันอย่างที่กลุ่ม นปช. กระทำ
- “เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น เนื่องจากแกนนำผู้ชุมนุมพยายามยั่วยุผู้ร่วมชุมนุมให้ใช้ความรุนแรงมาโดยตลอด รวมทั้งมีกลุ่มติดอาวุธปะปนในกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่จนเกิดความสูญเสีย โยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ และใช้ประโยชน์จากการบาดเจ็บล้มตายมาเป็นประเด็นยั่วยุปลุกระดม ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่บ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ เพียงเพื่อหวังผลการต่อสู้ทางการเมือง เป็นเรื่องที่สมควรประณามในการพาคนไปตายและสร้างความเสียหายให้บ้านเมือง”
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
