• ภาคเหนือ อุณหภูมิลด1-2องศา และ ร้อนกว่าปีที่แล้ว |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 07 ก.พ. 55 เวลา 12:24:19 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ลมตะวันตกพัดปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าว มีอากาศหนาวเย็นและอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศา ประกอบกับ มีลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดปกคลุมภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งในระยะนี้ อนึ่ง ในช่วงวันที่ 8-12 ก.พ. ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เข้ามาปกคลุมประเทศ ไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรกหลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส โดยเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ออกประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือฉบับที่ 1 ( 1/2555 ) เรื่อง ภัยธรรมชาติในช่วงฤดูร้อน ของภาคเหนือ ปี พ.ศ.2555 โดยพบว่าฤดูร้อนของประเทศไทยปีนี้ จะเริ่มต้นกลางเดือนกุมภาพันธ์ โดยจะมีอากาศร้อนและมีฟ้าหลัว (หมอกแดด)ในตอนกลางวัน ระยะที่มีอากาศร้อนจัดส่วนมาก จะอยู่ในช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงปลายเดือนเมษายน บางช่วงจะมีฝนตกลงมา ทำให้คลายความร้อนลงไปเล็กน้อย และปีนี้ภาคเหนือจะมีอุณหภูมิเฉลี่ย อยู่ที่ประมาณ 38-41 องศาเซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิสูงสุดของปีที่แล้ว อยู่ที่ อำเภอเมืองจังหวัดตาก มีอุณหภูมิสูงสุดที่ 40.4 องศาเซลเซียส ส่วนปริมาณฝนปีนี้จะต่ำกว่า ปี 2554 และฤดูร้อนจะสิ้นสุดประมาณกลางของเดือนพฤษภาคม แล้วจะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนต่อไป
ส่วนภัยธรรมชาติ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงฤดูร้อน ของภาคเหนือ ปีนี้ คือ พายุฤดูร้อน ที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงของเดือนมีนาคม และเมษายน ซึ่งเป็นพายุฝนฟ้าคะนอง พายุลมแรง และอาจเกิดลูกเห็บตกลงมาด้วย ซึ่งจะทำความเสียหายแก่ชีวิต ทรัพย์สินและสิ่งปลูกสร้าง ตลอดจนพืชผลทางการเกษตรได้ ดังนั้นเกษตกรและประชาชน ควรติดตามสภาพอากาศ ดูแลสิ่งปลูกสร้างให้แข็งแรง ตัดแต่งกิ่งไม้ ค้ำยันลำต้นไม้ผลที่ไม่มีรากแก้ว ปลูกไม้ยืนต้น เช่นสนทะเล ทำแนวกันลม สภาวะความแห้งแล้ง ฤดูร้อนปีนี้อากาศร้อนมากกว่าปีที่แล้วในบ้างพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นทางจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง และปริมาณฝนจะน้อยกว่าปีที่แล้ว อาจจะไม่พอเพียงกับการอุปโภค บริโภค และการใช้น้ำเพื่อการเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่ที่เคยแล้งซ้ำซากและอยู่นอกเขตชลประทาน ซึ่งอาจทำให้ฤดูแล้งในภาคเหนืออาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ จึงควรใช้น้ำอย่างประหยัดและวางแผนการใช้น้ำให้มีประโยชน์สูงสุด
นอกจากนี้ อากาศที่ร้อนและแห้ง อาจจะเอื้ออำนวยต่อการเกิดอัคคีภัย ตลอดจนไฟป่าได้ง่าย และทำความเสียหายมาก ยากแก่การควบคุม จึงควรดูแลดับฟืนไฟทุกครั้ง หรือทำแนวกันไฟในพื้นที่เสี่ยงภัย ยกเลิกเผาวัสดุในที่โล่งแจ้งทุกชนิด และในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม พายุไซโคลน ในทะเลอันดามัน อาจเคลื่อนตัวเข้าใกล้ด้านตะวันตกของภาค ทำให้มีฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่มได้ จึงควรซักซ้อมความพร้อมอพยพ และติดตามสภาพอากาศตลอด 24 ชั่วโมง หรือสอบถามข้อมูลได้ที่053-277919 053-922365 หรือ www.cmmet.tmd.go.th
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1468 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 07 ก.พ. 55
เวลา 12:24:19
|