กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ธุรกิจโรงแรมเล็กในเชียงใหม่อ่วมเพราะพิษจากสถานการณ์บ้านเมือง จ่อคิวรอเจ๊งแห่ขายทิ้ง เพื่อทางอยู่รอด ผู้บริหารสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือยอมรับมหกรรมพืชสวนโลกทำให้มีโรงแรมเล็กเกิดขึ้นมากพอเจอปัญหาจึงรับมือไม่ไหว ร้องทุกฝ่ายเร่งเรียกความเชื่อมั่นกลับคืน
นายกนก สุวรรณวิสูตร นายกสมาคมโรงแรมไทย (ภาคเหนือ) เปิดเผยเมื่อเร็วๆนี้ว่า ปัจจุบันโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่มีห้องพักมากกว่า 25,870 ห้องโดยแบ่งเป็นโรงแรม 5 ดาว 2,012 ห้อง โรงแรม 4 ดาว 6,676 ห้อง โรงแรม 3 ดาว 6,304 ห้อง โรงแรม 2 ดาว 6,319 ห้อง ที่เหลืออีกประมาณ 4,700 ห้องเป็นห้องพักระดับ 1 ดาวและไม่มีระดับเป็นดาว โดยพบว่า ในเดือนมิถุนายนนี้ มีอัตราการเข้าพักเพียง 40% จากจำนวนโรงแรมทั้งหมด แตกต่างจากในเดือนมกราคม 2550 ที่มีจำนวนการเข้าพักกว่า 84%
นายกสมาคมโรงแรมไทย(ภาคเหนือ)กล่าวยอมรับว่า ตอนนี้เป็นช่วงโลว์ซีซั่นจริงๆ และมีโรงแรมเฉพาะกิจเกิดขึ้นในช่วงงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ โดยเฉพาะโรงแรม 1-2 ดาวและเกสท์เฮ้าส์มีจำนวนมาก พอมีปัญหาอัตราเข้าพักตกต่ำลง กลุ่มนี้จึงได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะขาดลูกค้าเข้ามาใช้บริการซึ่งจะต่างจากโรงแรมระดับ 3-5 ดาวที่มีการทำตลาดล่วงหน้ายังมีลูกค้ารองรับ แม้ไม่มากแต่ก็ยังทรงตัวต่อไปได้ แต่ระดับ4-5ดาวก็ใช้วิธีปรับลดราคากว่า 50% เพื่อประคับประคองกิจการ
ขณะที่ นายวรพงษ์ หมู่ชาวใต้ เลขาธิการสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ ผู้ประกอบการและบริหารโรงแรมก็กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้กลุ่มทุนจากต่างถิ่นเริ่มเข้ามาเจรจาซื้อขายโรงแรมในจังหวัดใหม่ในอัตราถูก เนื่องจากส่วนใหญ่ผู้ประกอบการต่างประสบปัญหาการท่องเที่ยวตกต่ำ โดยในจำนวนนี้คาดว่า ไม่น้อยกว่า 30 แห่ง ที่เริ่มทยอยซื้อขายกันแล้ว
ผู้บริหารกิจการโรงแรมรายนี้กล่าวว่า เชียงใหม่นับเป็นสถานที่รองรับแขกบ้านแขกเมืองมาช้านาน วันนี้เริ่มมีสัญญาณให้เห็นแล้ว ดังนั้นทุกภาคส่วนต้องเร่งทบทวนปิดช่องโหว่ ก่อนที่การท่องเที่ยวที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดหลักของธุรกิจเชียงใหม่จะขยายวงมากกว่านี้ และคำถามที่ท้าทายยิ่งนัก คือ ผู้เกี่ยวข้องต้องคิดให้หนักว่าจะผลักดันให้เชียงใหม่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนได้อย่างไร
ด้านนายทรงวิทย์ อิทธิพัฒนกุล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากสถานการณ์ท่องเที่ยวของเชียงใหม่ ที่ซบเซาขณะนี้ ทำให้กลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวในเครือข่ายเกิดความเดือดร้อนเป็นอย่างทั้ง ธุรกิจโรงแรม รถเช่า และร้านอาหาร นับว่า น่าเป็นห่วงมาก เพราะถึงขั้นมีการเปลี่ยนโอนเจ้าของหรือเลิกกิจการไปแล้วก็มี ทำให้ทุกธรกิจอยู่ในความเสี่ยง นับตั้งแต่เดือนเมษายนถึงมิถุนายนที่ผ่านมาพบว่า อัตราการเข้ามาในพื้นที่ของนักท่องเที่ยวลดลงกว่า 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทำให้รายได้ที่เข้ามาหมุนเวียนสูญหายไปโดยอัตโนมัติ ส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวขาดทุนกันเป็นจำนวนมาก ตอนนี้มีเพียงโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว " อะเมซิ่งล้านนาเจ้า" ในราคาแพคเก็จเริ่มต้นที่ 2,222 บาท โดยหวังว่า จะฟื้นธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ได้อีกระดับหนึ่งในยามที่สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่เป็นที่วางใจ ทั้งเรื่องการเมืองที่ต่างรอเรื่องการเลือกตั้ง รอการปลดล็อคความสงบเรียบร้อยสู่ปกติรวมทั้งเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาโดยเร็ว เพราะตอนนี้ผลกระทบชัดเจนมาก. ข่าวจากเชียงใหม่นิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|