กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
แม่ตะมานโชว์แฟชั่นช้างศิลป์ระดับโลก ..............แฟชั่นช้าง.................
ปางช้างแม่ตะมาน เชียงใหม่ จัดงานอะเมซซิ่งไทยแลนด์แสดงแฟชั่นโชว์ผลงานชุดเสื้อที่ตัดเย็บจากผลงานช้าง หลังใช้งวงถ่ายทอดงานศิลปะลงบนผืนผ้าไหม และผ้าฝ้าย เผยผลงานช้างถูกพัฒนานำไปใช้ในชีวิตประจำวัน อาทิ ตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าสวมใส่ ทำผ้าพันคอ หมวก กระเป๋า หรือแม้แต่เครื่องใช้ภายในบ้าน ขณะที่ศิลปินล้านนานยังให้ช้างระบายสีลงที่ตัวสร้างความฮือฮาให้กับผู้ร่วมงาน บรรดาสื่อร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 25 ก.ค.2550ที่ปางช้างแม่ตะมาน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ได้มีการจัดการแถลงข่าวการพัฒนางานศิลปะของช้างจากปี พ.ศ. 2543 - 2550 ( The Development of Elephant Arts 2000 – 2007 ) มีการแสดงแฟชั่นโชว์ผลงานชุดเสื้อที่ตัดเย็บจากผลงานช้างที่วาดระบายสีศิลปะลงผืนผ้าไหม และผ้าฝ้ายของไทย ผู้ที่ร่วมแถลงข่าวมีนายจุณพงศ์ สาระนาคผู้อำนวยการสำนักงานททท.ภาคเหนือ เขต 1, นางอำไพพรรณ ทับทอง เจ้าของกิจการปางช้างแม่ตะมาน นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ประธานชมรมฮักช้าง/ที่ปรึกษาโครงการผสมเทียมช้าง นายบุญรัตน์ ณ วิชัยประธานชมรมส่งเสริมสล่าล้านนา และมีบริษัทเอกชนมีนายเฉลิมชาติ นครังกุล บริษัทเด่นชัยเทรดดิ้ง, นายสุภาพ ปลื้มปรีดี บริษัท เอส พีพับลิชชิ่ง กรุ๊ป จำกัด, นายวรวัชร ตันตรานนท์บริษัท ซีอาร์เชียงใหม่ ( ประเทศไทย ) จำกัด,นายโองการ ไชยองค์การ บริษัท อินดีด ครีเอชั่น จำกัดและนายทศพล เพชรัตนกูล ศิลปินผู้ฝึกสอนศิลปะให้ช้างวาดภาพ โดยมีพิธีกรชื่อดัง เล็กสารคามเป็นพิธีกร
นายจุณพงศ์ สาระนาค ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.ภาคเหนือ เขต 1 กล่าวว่าจากการวาดภาพลงบนแผ่นกระดาษมาวาดลงบนผืนผ้าหลากหลาย ซึ่งสามารถนำไปตัดเย็นเป็นเสื้อผ้าหรือผลิตเป็นของใช้ต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มของผลผลิตจากช้างไทยและด้วยความร่วมมือร่วมใจของสล่าล้านนา ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะจะทำให้ผลผลิตจากความสามารถของช้างเชียงใหม่ซึ่งได้รับการออกแบบตัดเย็บจากดีไซน์เนอร์ชั้นนำก้าวสู่วงการแฟชั่นระดับสากลได้ในไม่ช้า"ในวันนี้ จึงน่ายินดีอย่างยิ่งที่มีการพัฒนาผลงานภาพวาดของช้างให้มีมูลค่าและนำไปใช้ประโยชน์มากขึ้นกว่าในอดีต ด้วยการให้ช้างวาดภาพลงบนผืนผ้าหลากหลาย เช่น ผ้าไหมผ้าฝ้ายและอื่นๆ จากความร่วมมือของปางข้างแม่ตะมาน นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะและองค์กรเอกชนหลายแห่งในจ.เชียงใหม่ ผลผลิตที่ได้จากความสามารถของช้างไม่เพียงแต่จะใช้โชว์ หรือประดับตกแต่งเท่านั้นแต่จะสร้างมูลค่าเพิ่มจากการนำไปตัดเย็บเป็นเครื่องนุ่งห่มหรือผลิตเป็นของใช้ที่เป็นประโยชน์มากขึ้น ถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ซึ่งจะสร้างความแปลกใหม่และน่าทึ่งให้กับวงการแฟชั่นได้อย่างแน่นอน"
ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.ภาคเหนือ เขต 1 กล่าวอีกว่า"ช้างและความสามารถของช้างมีคุณเอนกอนันต์ต่อการท่องเที่ยวของจ.เชียงใหม่ไม่เพียงแต่จะเป็นสิ่งดึงดูดใจที่สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวเท่านั้นแต่ผลผลิตจากความสามารถของช้างยังสร้างรายได้มหาศาลจากการจำหน่ายทั้งในอดีตและอนาคตด้วยเหตุนี้สมควรหรือไม่ที่คนไทยต้องร่วมมือกันอนุรักษ์และดูแลความเป็นอยู่ของช้างไทยอเมซซิ่งไทย อเมซซิ่งไทยแลนด์"
ด้านนางอัญชลี กัลมาพิจิตร ที่ปรึกษาโครงการผสมเทียมช้างไทย และในฐานะประธานชมรมฮักช้างเปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 เป็นต้นมา ได้มีการริเริ่มงานศิลปะจากปลายงวงช้างด้วยการฝึกสอนช้างให้วาดรูปขึ้นยังจังหวัดเชียงใหม่ผลงานของศิลปินช้างในสมัยนั้นล้วนเป็นการทำงานแนวนามธรรม ( Abstract ) ทั้งสิ้น ในปีพ.ศ. 2545 งานของช้างได้ถูกพัฒนาขึ้นจากการวาดภาพแนวนามธรรมมาสู่การวาดภาพแนวเหมือนจริง ( Realistic ) เป็นครั้งแรกของโลก มีการวาดภาพแนวเหมือนจริง เช่น ดอกไม้ ต้นไผ่ และพวงองุ่น ต่อมาในปีพ.ศ. 2546ได้มีการนำผลงานของศิลปินช้างจาก 3 จังหวัดในประเทศไทยไปจัดแสดงยังพิพิธภัณฑ์ศิลปะคาวามูระ ประเทศญี่ปุ่น การจัดงานในครั้งนั้นนับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากมีผู้เข้าชมและให้ความสนใจงานของศิลปินช้างเป็นจำนวนมากและได้มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานศิลปะของช้างจากประเทศไทยออกไปในระดับนานาชาติต่อมาในปีเดียวกัน( พ.ศ. 2546)ได้มีการจัดแสดงงานศิลปะของช้างขึ้นยังจังหวัดเชียงใหม่โดยใช้ชื่องานว่า “ นิทรรศการศิลปะจากปลายงวง ครั้งที่ 1” และในที่สุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปีพ.ศ. 2548 งานวาดรูปแนวเหมือนจริงของกลุ่มศิลปินช้างจำนวน 8 เชือกก็ได้รับการบันทึกสถิติโลกกินเนสส์เป็นครั้งแรกของโลกในการสร้างงานศิลปะร่วมกันชื่อ “ ลมหนาว สายหมอก เสน่หาแห่งล้านนา หมายเลข 1 ” และได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือ
บันทึกสถิติโลกกินเนสส์เมื่อปี พ.ศ. 2549 โดยมีการจำหน่ายหนังสือไปทั่วโลกการทำงานศิลปะของช้างในครั้งนั้นได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอย่างมากมายและทำให้มีนักท่องเที่ยวที่สนใจอยากจะชมงานศิลปะของช้างเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วยซึ่งนั่นก็ทำให้การทำงานศิลปะของช้างได้ขยายออกไปเป็นวงกว้างตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ และมีการหารูปแบบการวาดรูปของช้างที่แตกต่างกันออกไปเพื่อดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวโดยพบว่าในปัจจุบันมีศิลปิน ช้างอาศัยอยู่ในประเทศไทยมากที่สุดจากการสำรวจเฉพาะในภาคเหนือมีศิลปินช้างอยู่ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จังหวัดลำปาง จำนวนมากถึง 19 เชือก , ปางช้างแม่สา 17 เชือก, ปางช้างแม่ตะมาน 7 เชือก , ปางช้างเชียงดาว และปางช้างแม่แตงอีกจำนวนหนึ่งทั้งนี้ยังไม่นับศิลปินช้างที่จังหวัดเชียงรายและแม่ฮ่องสอน ซึ่งหากนับโดยรวมแล้วในประเทศไทยน่าจะมีศิลปินช้างมากถึง 100 เชือกเลยทีเดียวซึ่งก็เพียงพอที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตศิลปินช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก "ในปี พ.ศ. 2550 นี้ ที่ปางช้างแม่ตะมาน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ศิลปินช้างจำนวน 7 เชือก คือสีดอหาด พังหงส์ พังลิบบี้ พลายสมใจ พลายสมบูรณ์ พังบุ๋มบิ๋มสีดอจ๊าบและศิลปินผู้ฝึกสอนอาจารย์ทศพล เพชรัตนกูล ในความร่วมมือของกลุ่มศิลปินจากชมรมส่งเสริมสล่าล้านนาได้ทำการทดลองงานศิลปะบนผืนผ้าด้วยกัน โดยทั้งหมดได้เริ่มทำงานมาตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2550ทำให้ขณะนี้งานศิลปะของช้างได้พัฒนาก้าวไกลขึ้นไปอีกระดับเพื่อสู่ระดับสากลเลยทีเดียว"
นางอัญชลี กล่าวอีกว่าการจัดงานต้องการให้มีการจัดแสดงงานของช้างที่พัฒนาขึ้นทั้งด้านเทคนิควัสดุ อุปกรณ์และรูปแบบ โดยผ่านการบอกเล่าถึงวิธีการทำงานศิลปะของช้างที่ไม่ใช่การวาดรูปบนกระดาษแต่เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ได้มีการคิดค้นเทคนิคใหม่ ๆและการประดิษฐ์วัสดุ อุปกรณ์โดยดัดแปลงอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้มีความเหมาะสมและง่ายขึ้นต่อการทำงานของช้างบนผืนผ้าทั้งนี้ช้างบางเชือกอาจมีความคุ้นเคยกับอุปกรณ์เดิม ๆที่ใช้กันอยู่ทั่วไป อย่างแปรงและพู่กัน กระดาษที่ใช้เขียนภาพส่วนใหญ่ก็มักมีสีขาว มีลักษณะสี่เหลี่ยมส่วนผ้าแคนวัสซึ่งสามารถนำมากำหนดขนาดได้ดี กว่ากระดาษแต่ก็ยังเป็นวัสดุที่มีความหนาและเหนียวกว่าผ้าที่ใช้ทดสอบของเราในปัจจุบัน งานวาดรูปแบบเดิมของช้างเหมาะที่จะใช้แขวนประดับในอาคารเท่านั้น แต่งานของช้างที่ถูกพัฒนาขึ้นมาในปีพ.ศ. 2550 นี้ สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง เช่นนำไปตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าสวมใส่ ทำผ้าพันคอ หมวก กระเป๋า หรือแม้แต่เครื่องใช้ภายในบ้าน อย่างผ้าม่าน และหมอนอิงก็สามารถที่จะตัดเย็บจากงานศิลปะบนผืนผ้าของช้างทั้งสิ้น ยังมีดีไซเนอร์ชื่อดังจากต่างประเทศคือ
มิสเตอร์ลอเร้นจ์ โกลเบอร์ค ชาวอังกฤษ เรียนจบจากลอดนดอนคอลเลจ ออฟแฟชั่นที่เป็นผู้ออกแบบและตัดเย็บผ้าไหมที่ช้างวาดระบายสีให้ความสนใจมาร่วมแถลงข่าวด้วยในอนาคตอันใกล้จะนำแฟชั่นผ้าจากผลงานช้างนี้นั้นจัดแฟชั่นโชว์ในเชียงใหม่ในต้นปีหน้าและยังจะนำชุดแฟชั่นดังกล่าวเดินทางไปโชใว์ต่างประเทศที่อเมริกาอีกด้วย
ที่ปรึกษาโครงการผสมเทียมช้างไทย กล่าวอีกว่าสำหรับวัตถุประสงค์แถลงข่าวการพัฒนางานศิลปะของช้างจากปีพ.ศ. 2543 - 2550ดังกล่าวนั้นเพื่อประชาสัมพันธ์การพัฒนางานศิลปะของช้างให้ก้าวหน้าสู่ระดับสากล มีการจัดแสดงนิทรรศการงานศิลปะของช้างในรูปแบบใหม่ยังเสริมสร้างกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น,ส่งเสริมการทำงานร่วมกันกับ “ ชมรมส่งเสริมสล่าล้านนา ” เพื่อสนับสนุนงานผ้าทอของท้องถิ่นไทยที่สำคัญหารายได้สนับสนุน “โครงการผสมเทียมช้าง เพื่องานอนุรักษ์ช้างในประเทศไทย”ต่อไปข่าวจาก เชียงใหม่นิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|