| • คอยาวย้ายแล้ว |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 14 ก.ย. 50 เวลา 10:07:05 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
คอยาวย้ายแล้ว
..............สั่งย้ายคอยาว................
จังหวัดแม่ฮ่องสอน ดำเนินการย้ายกะเหรี่ยงคอยาว จาก 2 หมู่บ้านไปอาศัยอยู่ในที่แห่งใหม่ ตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ต้องการให้กะเหรี่ยงคอยาวอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม เพื่อประโยชน์ของกิจการท่องเที่ยว และสะดวกต่อการควบคุมดูแล ขณะที่การย้ายในครั้งนี้พบว่า มีผู้สมัครใจไปเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น สาเหตุมาจากเคยอยู่ในสถานที่ ที่สะดวกสบาย และหวั่นรายได้จากนักท่องเที่ยวจะลดลง
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2550 เวลาตั้งแต่ 09.00 น. นายวรศักดิ์ พานทอง รอง ผบ.ร้อย กองร้อย อาสารักษาดินแดน ที่ 1 จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยกำลังอาสารักษาดินแดนจำนวน 25 นาย ได้เข้าไปดำเนินการขนย้ายกะเหรี่ยงคอยาว บ้านห้วยเสือเฒ่า หมู่ที่ 8 ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยใช้รถบรรทุกจำนวน 3 คัน บรรทุกสิ่งของ เครื่องใช้ และเครื่องเรือนของกะเหรี่ยงคอยาวจำนวน 8 ครอบครัว ที่สมัครใจจะย้ายไปอยู่ที่บริเวณพื้นที่บ้านห้วยปูแกง ต.ผาบ่อง อ.เมือง ซึ่งเป็นสถานที่ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้จัดเตรียมสถานที่ไว้เพื่อรองรับกะเหรี่ยงคอยาวจากสองหมู่บ้าน คือ หมู่บ้านห้วยเสือเฒ่า หมู่ 8 ต.ผาบ่อง และบ้านในสอย หมู่ 4 ต.ปางหมู
นางสาวมะหล่อ อายุ 24 ปี หญิงสาวชาวกะเหรี่ยงคอยาวหนึ่งใน 8 ครอบครัว ซึ่งเป็นชุดแรกที่ย้ายไป อาศัยอยู่ในที่จังหวัดจัดให้ เปิดเผยว่า ตนเองและครอบครัว รวมทั้งคนอื่นๆ ได้สมัครใจที่จะย้ายไปอยู่ในที่แห่งใหม่ ที่ทางจังหวัดจัดให้ โดยให้เหตุผลว่า ตนอาศัยอยู่ที่บ้านห้วยเสือเฒ่ามากว่า 10 ปี แต่ชีวิตก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ทางองค์การเอ็นจีโอก็ไม่เคยมาเหลียวแล หรือให้การช่วยเหลือ อีกทั้งบ้านของตนก็อยู่ท้ายตรอกแคบๆ เมื่อมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวก็จะถูกคนอื่นๆ ตัดหน้าไปเสียก่อนทำให้ไม่ค่อยมีรายได้เท่าไหร่นัก จึงคิดว่าหากย้ายไปอยู่ในสถานที่แห่งใหม่ที่ทางจังหวัดจัดให้ และมีสถานที่อยู่กว้างขวางจึงน่าจะรองรับนักท่องเที่ยวได้มากกว่า และดีกว่าอาศัยอยู่ที่เดิม ประกอบกับเมื่อเป็นความต้องการของทางราชการ จึงน่าจะให้ความร่วมมือด้วยดี
อย่างไรก็ตามในการย้ายกะเหรี่ยงคอยาวในครั้งนี้พบว่า มีผู้ประสงค์ที่จะย้ายไปอาศัยอยู่ในที่แห่งใหม่ คิดเป็น ร้อยละ 10 ของจำนวนกะเหรี่ยงคอยาวทั้งหมดเท่านั้น สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากเคยอาศัยอยู่ในที่สะดวกสบาย และมีสาธารณูปโภคครบครัน ทั้งไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์ ที่มีทั้งระบบมือถือ และตู้โทรศัพท์ขององค์การโทรศัพท์ นอกเหนือไปจากนั้นคือการที่มีกลุ่มอิทธิพลที่มีรายได้จากกะเหรี่ยงคอยาว และเสียประโยชน์จากการย้ายกะเหรี่ยงคอยาวได้ปลุกระดมให้กะเหรี่ยงต่อต้านการย้าย และให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงให้แก่กลุ่ม เอ็นจีโอ ทำให้มีการประท้วงและต่อต้านการย้ายมาแล้วหลายครั้ง
นอกจากนั้นกรณีที่ประชาชนคนไทยที่มีรายได้พ่วงไปกับการท่องเที่ยว กะเหรี่ยงคอยาวบางส่วนก็ไม่พอใจ รวมไปถึงธุรกิจการท่องเที่ยวอื่นๆ อาทิ การนั่งช้างท่ี่อยู่ในโซนเดียวกันกับกะเหรี่ยงคอยาว เมื่อมีการย้ายออกไป ก็จะทำให้กลุ่มธุรกิจส่วนอื่นๆ ได้รับผลกระทบตามไปด้วย
ข่าวจาก เชียงใหม่นิวส์
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1371 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 14 ก.ย. 50
เวลา 10:07:05
|
