จากกรณีนักเรียนโรงเรียนอุโมงค์วิทยาคม จังหวัดลำพูน ยกพวกรุมทำร้ายรุ่นน้องจนได้รับบาดเจ็บ และยังถ่ายคลิปวีดิโอประจานด้วยนั้น ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ก.ย. คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า ปัญหาพฤติกรรมเด็กจะต้องมีการวางระบบดูแลให้ดีขึ้น เมื่อก่อนจะมีระบบดูแลพฤติกรรมนักเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษา ปีนี้จะขยายไปยังโรงเรียนขยายโอกาสให้ ครบถ้วน และอยากให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) มีบทบาทที่จะไปดูแลเรื่องการส่งเสริมความประพฤตินักเรียน ควบคุมพื้นที่เสี่ยง รวมถึงช่วยดูแลเด็กที่มีปัญหาที่อยู่นอกโรงเรียนด้วย และอาจต้องมีโครงการใหม่รองรับเด็กที่มีปัญหา กระจายตัวอยู่ ตามโรงเรียนต่างๆ จึงอาจจัดให้มีสถานที่สำหรับอบรมระยะสั้น หรือเป็นโรงเรียนแบบกึ่งวิถี เพื่อปรับนิสัยนักเรียน โดยเป็นสถานที่ที่ให้เด็กได้พักพิงชั่วคราว ให้ การดูแลแบบครูดูแลศิษย์ด้วยความรัก ความเข้าใจ ให้ เด็กมีความสำนึก เปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อยุติปัญหาก่อนกลับมาเรียนอีกครั้ง เนื่องจากเด็กเกเรมีจำนวนมาก เกินกำลังที่ครูจะดูแลได้ เพราะครูไม่ได้รับการอบรมเรื่องการแก้ปัญหาสังคม อย่างไรก็ตาม จะต้องคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงรายละเอียดอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร ไม่เหมือนกับสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เนื่องจากสถานภาพเด็กที่จะเข้ามาอบรมปรับพฤติกรรม จะเป็นเด็กที่มีปัญหา มีพฤติกรรมเกเร แต่ไม่ได้ กระทำความผิดกฎหมายร้ายแรงเหมือนกับสถานพินิจ
คุณหญิงกษมากล่าวอีกว่า ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นในโรงเรียนอย่างต่อเนื่องขณะนี้ หากมีระบบดูแลที่ดีในโรงเรียนก็น่าจะช่วยได้ อย่างไรก็ตาม คงไม่ได้ สะท้อนว่านโยบายส่งเสริมคุณธรรมในสถานศึกษาไม่ได้ผล เพราะเด็กที่มีปัญหาเป็นผลพวงจากสังคม หากดูประวัติส่วนใหญ่จะมีปัญหามีความรุนแรงในบ้าน หรือถูกทอดทิ้ง การแก้ปัญหาด้วยการนำสิ่งดีๆ เข้าไปอย่าง เดียวคงไม่พอ ต้องแก้ปัญหาให้เด็กด้วย
ด้านนายวิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การจัดสถานที่ขึ้นมาดูแลเด็กมีปัญหาโดยเฉพาะเป็นแนวคิดที่ดี และโดยหลักการสามารถทำได้ เพราะเด็กบางกลุ่มโรงเรียนปกติอาจจะไม่สามารถให้การศึกษาได้ ก็อาจต้องแยกออกมา เหมือนกับโรงเรียนดัดสันดานสมัยก่อน แต่ต้องศึกษารายละเอียดอย่างรอบคอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปัจจุบันนี้มีโรงเรียนลักษณะพิเศษ หลายประเภท เช่น โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ สำหรับดูแล เด็กเร่ร่อน ถูกทอดทิ้ง โรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง ดูแลเด็กติดยา แต่ยังไม่มีโรงเรียนสำหรับปรับพฤติกรรมเด็ก ทั้งนี้ แนวทางการดำเนินงานคงมีลักษณะคล้ายกับสถานพินิจฯ แต่เด็กที่เข้าไปอยู่ไม่ใช่เด็กที่ก่อคดีอาญา เพียงแต่ต้องปรับพฤติกรรมบางอย่าง ทั้งนี้ เลขา กพฐ.เห็นว่าเหมาะสมก็เสนอมาได้ หรืออาจจะนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์แก้ปัญหาและพัฒนาเยาวชนในสถานศึกษา ตนเป็นประธานอยู่ก็ได้ เนื่องจากมีคณะกรรมการจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะช่วยกันพิจารณาได้อย่างรอบคอบ
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดลำพูน นายวิจิตรกล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะจังหวัดลำพูนเป็นเมืองสงบ แสดงว่าปัญหาความรุนแรงได้ขยายตัวไปทั้งในเมืองและชนบทด้วย มองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมีสาเหตุจากจิตวิทยากลุ่ม โรงเรียนคงไม่สามารถห้ามการรวมกลุ่มของนักเรียนได้ แต่ต้องส่งเสริมให้รวมกลุ่มกันทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ เช่น เล่นกีฬา เพื่อที่เด็กจะได้ ไม่มั่วสุมกันทำสิ่งผิดๆ
ข่าวจาก ซีเอม 108