• "กล้วยร้อยหวี"โผล่คนน่านแห่ขอหวย |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 01 ต.ค. 50 เวลา 09:37:36 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
"กล้วยร้อยหวี"โผล่คนน่านแห่ขอหวย
.............แห่ขอหวย...............
พระครูวัดหัวข่วง เมืองน่านพบกล้วยร้อยหวี ออกลูกดกจนเรี่ยราดถึงพื้นดิน ชี้เป็นของหายากที่หายไปนาน คนโบราณปลูกเพื่อเป็นสิริมงคล ให้อายุยืน 100 ปี ชาวบ้านทราบข่าวพากันไปดูเพื่อขอเลขเด็ดไปเสี่ยงโชคกันตามระเบียบผู้สื่อข่าวรายงาน ว่าเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2550 พระครูพิเศษนันทวุฒิ เจ้าอาวาสวัดหัวข่วง ถนนมหายศ ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน เปิดเผยว่า ทางวัดได้นำพันธุ์กล้วยร้อยหวี มาปลูก และตอนนี้ได้ออกลูกออกมาเป็นจำนวนมาก จากต้นจนถึงพื้นดิน จนต้องนำไม้มายึดไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นหัก และถือเป็นของหาดูได้ยาก
จึงได้เดินทางไปพิสูจน์ ต้นกล้วยร้อยหวี ปลูกอยู่ใกล้กำแพงวัดทางด้านทิศตะวันตก ใกล้กับเจดีย์วัดหัวข่วง พบ ต้นกล้วยขนาดกอไม่ใหญ่มากนัก จำนวน 2 กอ ในกอที่ 1 นั้นมี 4 ต้น สูงประมาณ 2.3 เมตร มีต้นหนึ่งที่ออกปลีกล้วย ได้ออกดอกออกผลที่สวยงามมากภายในวัด และลูกกล้วยขนาดเล็กสีเขียว จนรอบก้านปลี เป็นจำนวนมาก หัวปลีเกือบจรดพื้น วัดจากก้านปลี จนถึงหัวปลีได้ราว 165 ซม.และกอที่ 2 มี จำนวน 5 ต้น มีต้นหนึ่งได้ออกปลีชนิดเดียวกัน ได้ออกได้ออกดอกออกผลได้ประมาณ ครึ่งของลำต้นกล้วยร้อยหวี โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวพากันไปขอเลขเด็ดซื้อหวยเสี่ยงโชคหลายคนแล้ว บ้างก็อ้างกันไปต่าง ๆ นานาว่าเจอเลขเด็ด และมั่นใจว่าจะได้รับโชคอย่างแน่นอน
พระครูพิเศษนันทวุฒิ เล่าให้ฟังว่า “อาตมาเป็นคนอำเภอแม่จริม จ.น่าน สองปีที่แล้วได้กลับไปบ้าน วัดบ้านแคว้ง ต.หนองแดง อ.แม่จริม จ.น่าน ได้พบ หนานพิพัฒน์ วงศ์พุทธคำ ทราบว่าหนานพิพัฒน์ได้พบต้นกล้วยร้อยหวีอยู่ 1 ต้น ซึ่งได้สูญพันธุ์ไปประมาณปี พ.ศ.2538 พอปี พ.ศ.2548 ได้เกิดแตกหน่อขึ้นมาอีกจากจุดเดิมที่สูญพันธุ์ไป ก็เกิดแปลกใจ ทำไมต้นกล้วยเน่าไป 10 ปี ถึงมีกล้ากล้วยออกมาจากจุดเดิมได้อีก เกรงจะสูญพันธุ์ จึงได้นำมาปลูกข้างเจดีย์วัดหัวข่วง ได้ประมาณ 2 ปี ขณะนี้ต้นกล้วยได้ออกหวีแล้ว 1 เครือ และได้ขยายปลูกอีก 1 ต้นก็เริ่มออกผลเช่นกัน
พระครูพิเศษนันทวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า อยากจะให้คนรุ่นหลังได้เห็น ได้รู้จัก เพราะตอนนี้ไม่มีให้เห็นแล้ว ต้นที่เห็นนี้ปลูกมาแล้ว 2 ปี ตอนเป็นหัวปลีได้ 3 เดือน ตอนนี้ขึ้นเดือนที่ 4 ที่บอกว่าเป็นกล้วยร้อยหวี ก็ร้อยหวีจริงๆ วันก่อนให้เณรลองนับดู ได้ 87 หวี แต่ก็ยังไม่หมด เพราะหัวปลียังออกลูกได้อีกเรื่อยๆ ที่วัดปลูกไว้ 2 กอ กำลังออกปลีได้สิบกว่าหวีอีกกอหนึ่ง ซึ่งการออกลูกจะออกตลอดปี อีกทั้งนี้ยังเป็นไม้มงคลที่มีมานานแล้ว แต่ได้สูญพันธุ์ไปเกือบหมด นิยมปลูกเพื่อต่ออายุของคนปลูกให้มีอายุร้อยปีขึ้นไปเหมือนกล้วยร้อยหวี ( คนโบราณเชื่อว่าหากปลูกกล้วยร้อยหวี
จะถือเป็นสิริมงคล เป็นการต่ออายุตัวเอง ให้อายุยืนยาว 100 ปีขึ้นไป ) เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล เพื่อความอุดมสมบูรณ์เจริญรุ่งเรืองของคนปลูก คนภาคกลางนิยมปลูกเป็นไม้ประดับไว้ในบ้าน เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้าน เป็นที่นิยมของคนมีฐานะ มีผลขนาดเล็กเท่านิ้วก้อย ลักษณะต้นไม้ใหญ่มาก ต้นกล้วยร้อยหวีสูงไม่เกิน 2 เมตร ขยายพันธุ์โดยการแตกหน่อใช้หน่อปลูก ที่สำคัญ เหตุที่กล้วยร้อยหวีเกือบสูญพันธุ์เพราะผลของกล้วยรับประทานไม่ได้จึงไม่นิยมปลูก จึงไม่ได้มีการปลูกแพร่พันธุ์ออกไป เมื่อก่อนก็พอมีให้เห็นอยู่ แต่ตอนนี้ไม่เห็นนานแล้ว อาตมาจึงได้นำมาปลูกเพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้เห็น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กล้วยร้อยหวี หรือที่ชาวบ้านเรียก กล้วยงวงช้าง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Musa chiliocarpa Back. อยู่ในวงศ์ MUSACEAE มีลักษณะ เป็นไม้ล้มลุก มีลำต้นเป็นเหง้าใต้ดิน ลำต้นเทียมเป็นกาบใบหุ้มซ้อนกัน สูง 3-3.5 เมตร แตกกอเช่นเดียวกับกล้วยทั่ว ๆ ไป ใบเป็นใบเดี่ยวรูปขอบขนาน กว้าง 40 ซม. ยาว 2-2.5 ซม. โคนมน ปลายตัด ดอกออกที่ปลายต้น เป็นปลีห้อยลงมา กล้วยร้อยหวีมีงวงปลียาวเป็นพิเศษ บางครั้งถึง 2 เมตร
มีจำนวนหวีมากอยู่ชิดกัน ผล มีขนาดเล็กเรียงเบียดกันแน่นในหวี ผลสุกสีเหลือง รสหวานรับประทานได้ มีเมล็ดขนาดเล็กจำนวนมาก การกระจายพันธุ์และนิเวศวิทยา มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินโดนีเซีย ปัจจุบันนำมาปลูกแพร่หลายทั่วไป ตามหมู่บ้านและวัด ประโยชน์ของกล้วยร้อยหวีใช้ปลูกเป็นไม้ประดับให้ความแปลกตา และสวยงาม ปกติออกปลี ปีละครั้งเท่านั้น
ข่าวจาก เชียงใหม่นิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 4795 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 01 ต.ค. 50
เวลา 09:37:36
|