• พระครูฉาวยอมรับผิด พยานยันมั่วนร.สาวในกุฏิ |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 23 ก.พ. 51 เวลา 10:11:08 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
2 เจ้าอาวาสฉาวที่ก่อเรื่องมัวหมองมั่วสีกาในกุฏิวัด ถูกชาวบ้านนัดประชุมใหญ่รุมซักกลางที่ประชุม พร้อมรุมแฉพฤติกรรมที่ทำมานานกว่า 3 ปีฤกษ์ดีตอนตี 3 มีสีกาสาวมาชงกาแฟ ถูกรุมซักหนักเล่นลิ้นกล่าวสำนวน "สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ขอโอกาสกลับตัว " ชาวบ้านโห่ไล่ สุดท้ายขอเวลา 1 เดือน พิจารณาตนเองจะสึก หรืออยู่ต่อ ชาวบ้านรุมด่ายับหากด้านอยู่ เจอไล่รุนแรง ส่วนชาวบ้าน จ.ลำปาง ข้องใจพฤติกรรม เจ้าอาวาสของวัดตนเองที่พบเป็นข่าวในสื่อ ยกโขยงเดินทางข้ามจังหวัด ขอทราบความจริง หลังเจ้าอาวาสทุศีล อ้างถูกใส่ร้าย ได้ทราบรายละเอียดถึงอึ้ง เตรียมประชุมอัปเปหิเช่นกัน
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 21 ก.พ.51 ที่ศาลาการเปรียญวัดต้นผึ้ง หมู่ 1 ต.เหมืองง่า อ.เมือง จ.ลำพูน ได้มีการประชุมชาวบ้านคณะศรัทธาวัดต้นผึ้ง เพื่อซักถามถึงเรื่องกรณีที่ได้มีชาวบ้านกว่า 200 คนได้พากันล้อมกุฏิ พระครูจารุวรรโณภาส อายุ 57 ปี เจ้าอาวาสวัดต้นผึ้ง และรองเจ้าคณะตำบลเหมืองง่า ที่แอบพานักเรียนสาวอาชีวะ 2 คน เข้ามามั่วในกุฏิพร้อมกับพระอธิการบุญศรี อภิวังโส อายุ 49 ปี เจ้าอาวาสวัดชมภูหลวง อ.เมือง จ.ลำปาง เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 19 ก.พ.51 และถูกคณะศรัทธาจับได้ และลงมติให้พิจารณาตนเองให้พ้นจากวัด และให้ตะเพิด พระอธิการบุญศรี ให้พ้นจากวัดทั้งคืน ฐานที่ทำให้วัดเสื่อมเสียชื่อเสียงประพฤติตนไม่เหมาะสม ตามที่ได้เสนอไปนั้น
โดยการประชุมวันนี้มีนายสุทัศน์ สินธุเทียม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ต.เหมืองง่า เป็นประธานในที่ประชุม และมีชาวบ้านคณะศรัทธาวัดชมภูหลวง ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง จำนวนหนึ่งที่เดินทางด้วยรถยนต์ จำนวน 10 คัน ได้เข้าร่วมประชุมด้วย เพื่ออยากทราบข้อเท็จจริง ว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นไปตามที่ พระอธิการบุญศรี พูดกับคณะศรัทธาของวัดชมภูหลวงว่า ตนเองถูกใส่ร้าย ไม่เป็นจริงตามที่เป็นข่าว
ซึ่งการประชุมในวันนี้ นายสนั่น นันทขว้าง อายุ 57 ปี กรรมการวัด ได้เล่าถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในคืน วันที่ 19 ก.พ.51 ให้ที่ประชุมฟังอย่างละเอียด โดยเล่าเริ่มตั้งแต่ ชาวบ้านเห็น นักเรียนสาววัยรุ่น 2 คนขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในวัดและมีชาวบ้านพากันมาล้อมกุฏิ เจ้าอาวาสฯ และพบ 2 วัยรุ่นสาวอยู่ในกุฏิ พร้อมกับสอบถามถึง สาเหตุที่มาอยู่ในกุฏิพระที่ในวัด และเชิญตัวมาพูดต่อหน้าคณะศรัทธาประชาชน โดย 1 ใน 2 สาววัยรุ่นคือ น.ส.ต้อย อายุ 19 ปี บอกว่า พระอธิการบุญศรี โทรนัดให้มาพบ ตลอดถึงได้มีการสอบถาม ถึงความสัมพันธ์ ในด้านการเป็นญาติ พี่น้องกับ พระอธิการบุญศรี ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่ใช่ ตามที่พระบุญศรี ได้พูดกับ นายสนั่น และยังได้เล่าถึงการได้รับเงินจำนวน 800 บาท ,ได้รับของฝากขนม ตลอดถึงการได้รับอุปการะส่งเสียให้เรียนจาก พระอธิการบุญศรี และเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับการที่หญิงสาวเข้ามาพบกับ พระทั้ง 2 ในกุฏิครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อชาวบ้านที่เป็นศรัทธาวัดชมพูหลวง อ.เมือง จ.ลำปาง ได้ฟังแล้วต่าง ก็พอใจ และบอกว่า ทุกอย่างมีคำตอบอยู่ในตัวของ นายสนั่น นันทขว้าง กรรมการวัดต้นผึ้ง ที่ได้เล่าให้ฟังจนหมดสิ้นแล้ว ไม่ติดใจสงสัยอะไร โดยจะขอกลับไปปรึกษาหารือกันต่อที่วัดชมภูหลวงว่าจะดำเนินการอย่างไรกับ พระอธิการบุญศรี ขณะ เดียวกันผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายศรีบุตร ชุ่มอินทจักร อายุ 72 ปี บ้าน เลขที่160 หมู่ 7 ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปางซึ่งเป็นมัคนายกของวัดชมภูหลวง ก็ได้รับคำตอบว่า ความจริงพฤติกรรมของ พระอธิการบุญศรี ที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงนั้นทางคณะ ศรัทธาก็ได้มีการจับตาดูตลอดมา และเคยให้อภัยมาแล้วหลายครั้ง และนี่ก็เพิ่งจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลชมพู ยังไม่ทันได้ฉลองตำแหน่ง ก็มามีเหตุการณ์ เช่นนี้เกิดขึ้น ยิ่งทางวัดก็จะมีงานปอยหลวงในราวปลายเดือน มี.ค.51 นี้อีก หลังจากกลับไปคงจะ ต้องไปปรึกษาหารือกันก่อน กับคณะศรัทธาของวัดชมภูหลวงว่า สมควรจะดำเนินการอย่างไรต่อไป มัคนายกกล่าว
ส่วนหลังจากนั้นที่ประชุม คณะ ศรัทธาวัดต้นผึ้ง ก็ได้มีการนิมนต์ พระครูจารุวรรโณภาส เจ้าอาวาสมาพูดคุยกับคณะ ศรัทธาประชาชนชาวบ้านต้นผึ้ง โดยมี นายสนั่น นันทขว้าง เป็นผู้ซักถามร่วมกับชาวบ้าน ว่าในเรื่องที่เกิดขึ้นทางคณะศรัทธาวัดต้นผึ้งรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ทั้งๆที่คณะศรัทธารัก และเคารพนับถือเจ้าอาวาส แต่เจ้าอาวาสไม่รักศรัทธาประชาชน เคยให้อภัยมาก็หลายครั้ง ทั้งที่รู้ และเห็นพฤติกรรม ในด้านมั่วผู้หญิง ของพระครู เจ้าอาวาสว่าเป็นอย่างไรมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี แต่พระครูฯเจ้าอาวาสไม่ยอมรับว่า ตนมีความผิด และยังยืนยันว่าตนเป็นโรคความดันเบาหวาน ไม่มีความรู้สึกต้องการทางเพศ
ขณะเดียวกัน นายสมศักดิ์ ศรีชนะ อายุ 64 ปี ที่มีบ้านอยู่ติดกับวัดต้นผึ้ง ได้กล่าวกลางที่ประชุมว่า ช่วงระหว่างเช้ามืดทุกครั้ง ขณะที่ตนออกมาวิ่งออกกำลังกาย ก็ได้พบเห็นผู้หญิงสาวออกจากวัดอยู่บ่อย ๆ ครั้นสอบถาม ก็ได้รับคำตอบจากผู้หญิงสาว คนนั้นว่า "มาชงกาแฟ ให้พระครูฯ เจ้าอาวาส" อย่างนี้แล้ว จะให้เชื่ออีกหรือ ในที่สุดชาวบ้านได้ยื่นข้อเสนอให้พระครูจารุวรรโณภาส ลาสิกขา หรือออกจากวัดไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากถูกชาวบ้านซัก และรุมแฉในที่สุด พระครูจารุวรรโณภาส ก็ทำเป็นใจดีสู้เสือด้วยอาการยิ้มและ ได้เอ่ยขึ้นมาว่า "สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง" ขอโอกาสอีกสักครั้ง จะกลับเนื้อกลับตัว ปรากฏว่า พอกล่าวเช่นนี้ ชาวบ้านที่มาร่วมประชุมก็พากันโห่ไล่ และตกลงกันว่า จะให้พระครูพิจารณาตนเองว่า จะลาสิกขา หรือออกจากวัด ในที่สุดพระครู ขอเวลาต่อรอง อีก 1 เดือนแล้วจะพิจารณาตนเองว่า จะลาสิกขาหรือออกจากวัดต้นผึ้งไป ชาวบ้านพอใจก่อนสลายตัว ขณะที่ได้มีชาวบ้านบางคนได้กล่าวว่า ในอีก 1 เดือนต่อไปข้างหน้านี้ตนคงไม่เข้าวัดทำบุญที่วัดนี้เป็นแน่ เพราะไหว้พระแล้วไม่สนิทใจ บางคนก็บอกว่า เงินที่จะให้ศรัทธาประชาชนบริจาคสร้างพระวิหารของวัดต้นผึ้ง ที่กำลังก่อสร้าง ครอบครัว ละ 100 บาทต่อเดือนนั้นตนคงจะงดก่อนในช่วงนี้ เพราะไม่ศรัทธาแล้วที่มีพระทุศีลอยู่ในวัดต่อไป.
ข่าวจาก ไทยนิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 2755 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 23 ก.พ. 51
เวลา 10:11:08
|