ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ตำรวจ ร่วมสำนักงานพุทธศาสนาเชียงใหม่ บุกค้นเต้นท์พักชั่วคราวพระสงฆ์ที่มาจากภาคอีสานและเรียกรายจากชาวบ้าน บริเวณถนนเชียงใหม่ พร้อมให้กลับไปจำวัดตามระเบียบพระสงฆ์ต่อไป
เมื่อ วันที่ 6 พ.ค.51 นายจำลอง กิติศรี ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.เชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้ที่ตำรวจสภ.สารภี จ.เชียงใหม่
ได้เข้าตรวจค้นในป่าละเมาะ ริมถนนซูปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ต.ไชยสถาน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ หลังได้รับแจ้งและร้งเรียน
จากชาวบ้านว่าได้มีพระสงฆ์พร้อมแม่ชี จำนวนหลายรูป มาทำการสร้างเพลิงพัก อยู่ในป่าข้างถนนดังกล่าวและคอยออกรับกิจนิมนต์
ของพระสงฆ์ร่วม กับชาวบ้านในระแวกนั้น ซึ่งถือเป็นการไม่เหมาะสมและเป็นภาพที่ไม่สวยงามต่อสายตาชาวพุทธที่พระสงฆ์ไม่อยู่
ในวัดแต่กลับมาอยู่ในป่าข้างทางเป็นเวลานานกว่า 2 เดือนแล้วและให้ครวจสอบพฤติกรรมของบรรดาพระและมีชีดังกล่าวด้วยว่าเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ด้วยหรือไม่
โดยคณะได้เข้าไปในป่าดังกล่าวพบเป็นเพลิงพักหลังใหญ่มุงด้วยผ้าใบกันแดดและฝนภายในเพลิงมีการปักกรดอยู่ในเพลิงพักด้วย
พบกับพระสงฆ์จำนวน 6 รูป สารเณรจำนวน 1 รูปและพรามห์จำนวน 1 คน โดยจากการตรวจสอบพบว่าทุกคนมีหนังสื่อสุทธิ
โดยเป็นพระลูกวัดของวัดศรีนิลวนาราม อ.ผ้าขาว จ.เลย และพระลูกวัดจากจ.ชัยภูมิ ทั้งหมดได้เดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่
ได้นานร่วม 2 เดือนเศษโดยมาทำการปักกรดตั้งรกรากที่ป่าเลาะเมาะแห่งนี้และคอยออกบิณฑบาตร จากประชาชนใน
อ.สารภีทุกวัน และมีการปฏิบัติกิจของสงฆ์ในป่าแห่งนี้ทุกวัน
นายจำลอง กิติศรี ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.เชียงใหม่ การที่เหล่าพระสงฆ์มาอยู่ในป่าแบบนี้ถือว่าเป็นการผิดกฏมหาเถระสมาคม ที่เหล่าพระสงฆ์มาอยู่ในสถานที่อโคจร ที่ไม่ใช่วัด ซึ่งจากการตรวจสอบพระทุกรูปมีใบสุทธิกันหมดก็ไม่มีอะไรผิดแต่ผิดตรงที่อยู่ในสถานที่ที่ไม่ใช่วัด อีกทั้งยังอยู่ร่วมกับพรามห์ ที่เป็นหญิง อีก 1 คนถือว่าไม่เหมาะสมอย่างมาก จึงได้สั่งให้ทำการรื้อเพลิงพักทั้งหมดและส่งพระทุกรูปกลับวัดต้นสังกัดที่จังหวัดต่างๆ และหากอยากจะกลับมาที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อปฏิบัติธรรมหรือใฝ่หาความรู้ก็ให้กลับมาได้แต่ต้องมาอยู่ในสถานที่ที่เป็นวัดเพื่อเป็นระเบียบเรียบร้อยตามหลักศาสนาต่อไป
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|