ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2551 ที่หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีม็อบเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเหนียวบ้านแม่แฟก ต.ร่มหลวง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จำนวน 100 คน นำโดยนายจำรัส ลุมมา ได้เดินทางมายื่นหนังต่อนายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
นายจำรัส ลุมมา กล่าวว่า เพื่อขอความเป็นธรรมและเห็นใจเกษตรกร จึงขอให้ทางจังหวัดเชียงใหม่ นำปัญหาของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรางที่ราคาตกต่ำอยู่ในขณะนี้ ให้รัฐบาลปรับราคา เนื่องจากมีพื้นที่ปลูกข้าวจำนวน 2,800 ไร่ ผลิตจะออกมา 2,240,000 กิโลกรัม ขณะที่ต้นทุนผลิตตกไร่ละ 5,500 บาท แต่พ่อค้ามารับซื้อเพียงตันละ 6,000 บาท ประกอบกับชาวนาส่วนใหญ่ต้องเช่าพื้นที่จากนายทุนและกู้เงินจาก ธกส.และเงินนอกระบบบางส่วน หากประสบปัญหาราคาเช่นนี้ชาวเกษตรกรต้องเดือดร้อนที่เป็นหนี้สินอย่างแน่นอน พวกเราจึงได้รวบตัวกันมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับทางจังหวัด ซึ่งมีข้อเรียกจำนวน 5 ข้อดังนี้
1. ให้จังหวัดและรัฐบาลช่วยประกันราคาข้าวในกิโลกรัมละ 9 บาท ซึ่งขณะนี้พ่อค้าซื้อในราคา 5.40 บาท
2. ให้ทางจังหวัดราคาสินค้าทางเกษตรทุกชนิดตลอดปีด้วย
3. ให้ดูแลราคาข้าวทั้งนาปรางและนาฤดูปกติด้วย
4. ให้ทางพณิชย์จังหวัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบพ่อโกงตราชั่งด้วย
5. ให้รัฐบาลหาแหล่งซื้อปุ๋ยในราคาที่ถูกกว่าปัจจุบันอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าฯได้เชิญหัวส่วนราชการทั้งหมดมาชี้แจงข้อเรียกให้แก่กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเหนียวทราบโดยพร้อมเพียงกันทุกประการทั้ง 4 ข้อ ส่วนข้อแรก สำหรับราคาข้าวที่ได้เรียกร้องไปกิโลละ 9 บาทนั้น สามารถหาทางออกได้ 2 ทางคือ 1. ให้พ่อค้าทางภาคกลางมาช่วยซื้อ โดยสามารถซื้ได้ใน 2 ราคาคือสำหรับข้าวเปียกจะรับซื้อได้ กิโลกรัมละ 7 บาท ส่วนข้าวแห้งจะซื้อกิโลกรัมละ 9 บาท
รองผู้ว่ากล่าวอีกว่า จะนำข้อเรียกร้องทั้งหมดเสนอให้รัฐบาลทราบเพื่อจะแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไปเพราะปัญหาราคาข้าวไม่มีเฉพาะเชียงใหม่แห่งเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นกลุ่มเกษตรก็ได้แยกย้ายกันสลายตัวกลับบ้าน
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|