ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่วางมาตรการแก้ไขปัญหาข้าวเหนียวระยะยาวโดยการเปลี่ยนพื้นที่ไปปลูกข้าวจ้าวแทน ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มปริมาณและคุณภาพข้าวระยะสั้นปีนี้การค้าภายในให้ อคส.รับซื้อตรงหลัง ครม.อนุมัติงบให้จัดการ ชาวนารอไม่ไหวรุกหนักขอความชัดเจนระยะเวลารับซื้อเพราะยังช้าไม่ทันใจเดี๋ยวข้าวมีปัญหาเพราะฝนกระหน่ำหนัก มีเผาหุ่น "มิ่งขวัญ" ขู่
เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2551 นายพนิจ เจริญบูรณ์ เกษตรจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยถึงกรณีปัญหาราคาข้าวเหนียวตกต่ำในปีนี้ว่า ปีที่ผ่านมาข้าวเหนียวมีราคาแพง เหตุหลักเนื่องจากสาธารณรัฐประชาชนจีนรับซื้อข้าวเหนียวเพื่อไปหมักสุรา รับกีฬาโอลิมปิคที่กำลังจะมีขึ้นกลางปีนี้ เกษตรกรจึงได้ปลูกข้าวเหนียวมากในปีนี้ แต่ปรากฏว่า ปีนี้ราคารับซื้อข้าวเปลือกเหนียวไม่เป็นไปตามราคาข้าวเปลือกเจ้า ขณะที่เกษตรในภาคเหนือปลูกข้าวเหนียวร้อยละ 90 และปลูกข้าวเจ้าเพียงร้อยละ 10 ของพื้นที่การเพาะปลูกเท่านั้นอย่างไรก็ตามกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้วางมาตรการรับมือระยะยาวในการลดต้นทุนการผลิต โดยจะต้องมีการตรวจสอบคุณภาพดิน วัดธาตุอาหาร ใส่ปุ๋ยให้ตรงกับความต้องการของพืช เพิ่มปริมาณผลผลิตและลดต้นทุนโดยจะทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาที่ดิน กรมส่งเสริมการเกษตรและกรมการข้าว ขณะที่ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ตลาดโลกมีความต้องการข้าวเจ้าจำนวนมาก และปีนี้ข้าวเจ้าราคาดีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับประเทศที่ผลิตข้าวได้ประสบภัยธรรมชาติ ในปีต่อไปได้มีการวางแผนว่า จะลดพื้นที่ปลูกข้าวเหนียวเพื่อการบริโภคในจังหวัดและเพิ่มพื้นที่ปลูกข้าวเจ้าเพื่อขาย ซึ่งทั้งข้าวเหนียวและข้าวเจ้ามีระยะเวลาตั้งแต่ปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 4 เดือน และพื้นที่ภาคเหนือสามารถปลูกได้ทั้งข้าวเหนียวและข้าวเจ้า
สำหรับข้าวเหนียวนาปรังในจังหวัดเชียงใหม่ปีนี้มีผลผลิตประมาณ 30,000 ตัน จากเดิมเคยมี 70,000 ตัน เนื่องจากเมื่อช่วงต้นฤดูกาล ประสบภาวะขาดแคลนน้ำ เพราะอ่างเก็บน้ำไม่มีน้ำส่งเพียงพอ จึงไม่น่าเป็นปัญหาในการรับซื้อของรัฐบาลที่จะออกรับรับซื้อจากเกษตรกรในเร็ว ๆ นี้
ด้านนายสมชัย เวชโพธิ์กลาง การค้าภายในจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากกรณีปัญหาราคาข้าวเหนียวตกต่ำ ล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้อนุมัติให้มีการรับซื้อข้าว ความชื้น 15 เปอร์เซ็นต์เกวียนละ 9,000 บาท และความชื้นเกิน 25 เปอร์เซ็นต์ที่เกวียนละ 7,000 บาท ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่จะรับซื้อ ที่โรงสีอินเตอร์ไรซ์ โดยเจ้าหน้าที่จากองค์การคลังสินค้า(อคส.)จะมาดูแลรับซื้อจากเกษตรกรโดยตรง หลักเกณฑ์เบื้องต้นจะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรอย่างถูกต้อง ซึ่งทางการค้าภายในจังหวัดเชียงใหม่จะออกสำรวจโรงสีที่มีความพร้อมเพื่อเปิดจุดรับซื้อเพิ่มเพื่อรองรับกับความต้องการของชาวนาไม่ให้กระจุกตัว
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่มีการประเมินเบื้องต้นว่า จะมีปริมาณข้าวเหนียวนาปรังไม่เกิน 30,000 ตัน ขณะเดียวกันกลไกตลาดเริ่มขยับ ข้าวเหนียวเริ่มมีราคาสูงขึ้น ส่วนการช่วยเหลืออื่น ๆ ได้มีการประสานไปยังโรงสีข้าวในภาคกลาง เช่น จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อให้ขึ้นมารับซื้อข้าวเหนียวของเกษตรกรเพื่อกระจายตลาดไปสู่กลุ่มผู้บริโภคให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
วันเดียวกันกลุ่มเกษตรกรชาวนา ต.แม่แฝก อ.สันทราย อำเภอดอยสะเก็ดและใกล้เคียงได้รวมตัวกันที่หน้าที่ว่าการอำเภอก่อนเคลื่อนมาที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้เพื่อเรียกร้องความชัดเจนในการรับซื้อว่าเริ่มที่ไหนชัดเจนอย่างไร เพราะมีแต่การแจ้งข่าวไม่มีการกำหนดความชัดเจนว่าจะรับซื้อเมื่อใด โดยนายสมาน ทัดเที่ยง แกนนำเกษตรกรในพื้นที่กล่าวว่า เมื่อ ครม.อนุมัติและหน่วยงานส่วนกลางชี้แนวทางแล้วตอนนี้ยังไม่มีการดำเนินการเกษตรกรก็ห่วงว่าข้าวจะชื้นสูงเพราะฝนตกหนักและอยากทราบว่า อคส. หรือหน่วยงานที่รับ ผลิดชอบจะซื้อเมื่อใดที่ไหนบ้างตอนนี้ทราบแต่ว่าให้โรงสีอินเตอร์ไรซ์เป็นผู้รับซื้อ แต่ก็ไม่ได้กำหนดว่าเริ่มอย่างไรบ้าง ทำให้เกษตรกรต้องขอความชัดเจนและรวมตัวกันไปที่ศาลากลาง โดยไม่ให้มีผลกระทบกับประชาชนและจะไม่ปิดถนนโดยไร้เหตุผลแน่นอน หากไม่ได้รับความสนใจก็อาจจะเป็นแนวทางสุดท้าย แต่ต้องพูดกันด้วยเหตุผลและทำจริง
นอกจากนี้เกษตรชาวนายังขอขยับราคารับซื้อที่เกวียนละ 8,000 บาทในความชื้น 30% ซึ่งได้ยื่นหนังสือให้พาณิชย์จังหวัดเพื่อประสานไปยังส่วนกลางในการตัดสินใจตามที่เกษตรกรเรียกร้อง เพราะราคาที่ 7,000 บาทไม่คุ้มต้นทุนที่ดำเนินการไป ซึ่งมีการกำหนดท่าทีว่าต้องได้คำตอบในเวลา 16.00 น.หากไม่ชัดเจนหรือไม่มีท่าทีใดๆ ก็จะปิดถนนสายเชียงใหม่ฝาง เช่นกัน แต่ทั้งนี้ก็ยอมสลายตัวเวลาต่อมาและจะหารือกันต่อในวันรุ่งขึ้นเพราะจังหวัดโดยนายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าฯ ได้มาหารือและย้ำว่าศุกร์นี้จะมีการเริ่มรับซื้อเกวียนละ 7 พันบาทในความชื้นเกิน 25% แต่หากความชื้นน้อยกว่าจะได้ราคาเกวียนละ 8 พันบาทหรือไม่จะหารือกันเพื่อความชัดเจนและรอท่าทีกระทรวงพาณิชย์อีกครั้ง ซึ่งระหว่างร้องเรียนมีการเผาหุ่นนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ด้วย.
ข่าวจาก ไทยนิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|