กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
น่านเร่งค้นหาร่างแม่เฒ่า
..............ค้นร่างแม่เฒ่า..................
หน่วยราชการ อปท. ระดมทีมช่วยเหลือเหยื่อน้ำป่าเมืองน่าน ล่าสุดเร่งค้นหาร่าง แม่เฒ่าที่ยังคงสูญหายอีก 1 ราย หลังก่อนหน้านี้พบศพแล้ว 2 ศพ ด้านผวจ.ฯ สั่งนำเรือช่วยค้นหาอีกทาง ขณะที่ชาวบ้านยังรอรับการช่วยเหลือจากทุกหน่วยงาน เบื้องต้นกาชาด นำธารน้ำใจทยอยเข้าช่วยเหลือแล้ว ด้านจังหวัดเชียงราย ภัยน้ำป่ายังรุนแรง อ.เวียงป่าเป้า น้ำจากอ่างเก็บน้ำแม่ฉางข้าว ล้นทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน6 หมู่บ้าน กว่า 1,000 หลังคาเรือน ได้รับความเสียหาย และทำให้ถนนทรุดตัวลง ส่วนที่ อ.แม่สายน้ำในแม่น้ำสายเอ่อล้นเข้าท่วมย่านตลาดการค้าแม่สาย และไร่นาของชาวบ้านเสียหายเป็นจำนวนมาก
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 ก.ย.51 ที่จ.น่าน เป็นวันที่ 2 หลังจากที่ ได้เกิดเหตุน้ำป่าหลากเข้าท่วมบ้านเรือนทำราษฎร ที่ บ้านห้วยธนู หมู่ 7 และบ้านห้วยป๊าก ต.ตาลชุม บ้านห้วยม่วง ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ได้รับความเสียหาย พัดบ้านจมหายไปกับกระแสน้ำ 8 หลัง มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ขณะนอนหลับอยู่ในบ้าน และ เสียหายบางส่วน 100 กว่าหลังคาเรือน ขณะนี้พบศพแล้ว 2 ราย คือ นางอำพร ปาโน อายุ 61 ปี และ ศพ นางสม ไชยสลี อายุ 65 ปี ศพลอยไปติดแท่นสูบน้ำพลังไฟฟ้าบ้านน้ำปั้ว อ.เวียงสาห่างจากที่เกิดเหตุกว่า 70 กม.
ส่วนศพที่ยังหาศพไม่พบ คือ นางอ่อน อินธิยา อายุ 64 ปี ที่ทางญาติเข้าใจว่าศพถูกบ้านทับจมอยู่ใต้บ้าน ซึ่งทาง นายนรินทร์ เหล่าอารยะ นายก อบจ.น่าน ได้นำรถแมคโคร เข้าขุดรื้อใต้บ้านที่จมอยู่ก็ไม่พบ ขณะที่กำลังบ้านอยู่นั้นได้มีชาวบ้านแจ้งว่ามีกลิ่นคล้ายกลิ่นซากศพ อยู่ที่ใต้สะพานห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กม. จึงได้แจ้งให้ จนท.ชุดกู้ภัย อบจ.น่าน จนท.ทุกหน่วยงานเข้าตรวจสอบพร้อมใช้รถแมคโคร ช่วยรื้อ โดยมีญาติที่ทราบข่าวต่างก็มาช่วยกันค้นหาก็ไม่พบยังคงต้องรอว่าศพอาจจะลอยออกแม่น้ำน่านไปไกล โดยนายสมพงษ์ อนุยุทธพงศ์ ผวจ.น่าน ได้สั่งการให้ ปภ.น่าน นำเรือเร็ววิ่งตรวจตามลำน้ำน่าน ค้นหาศพ นางอ่อนฯ อีกทางหนึ่งแล้ว
ทางด้านหน่วยงานราชการ นำโดยนายมนัส ขันใส นายอำเภอท่าวังผา กล่าวได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและตั้งหน่วยแพทย์เคลื่อนมาคอยให้บริการประชาชน ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านห้วยธนู โดย มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียง นำโดยนายนรินทร์ เหล่าอารยะ นายก อบจ.น่าน นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศบาลเมืองน่าน ,พอ.บุญสันต์ นนทธิจันทร์ ผบ.นพค.31 ปัว จ.น่าน, นายธวัช เพชรวิระ ปภ.น่าน ,นายเอกนก มังคละ นายก อบต.ตาลชุม ได้นำถุงยังชีพ น้ำดื่ม ไปแจกให้กับชาวบ้าน ทางด้านอบต.บ่อ อบต.ศรีภูมิ อบต.ตาลชุม ได้นำรถน้ำไปบริการแจกจ่าย และฉีดล้างทำความสะอาดบ้าน และแจกจ่ายน้ำดื่มสะอาด ทางด้านเหล่ากาชาดจังหวัดน่านก็ได้นำอาหารไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยและจนท.ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ด้วย
ทางด้านนายสุเมษ สายสูง พมจ.น่าน ได้นำผ้าห่มพระราชทานจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯจำนวน 100 ผืนมอบให้แก่ผู้ประสบภัย พร้อมมอบเงินให้ญาติที่เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ๆ ละ 2,000 บาท และมอบเงินให้กับผู้ที่บ้านพังทั้งหลัง 8 หลัง ๆ ละ 1,000 บาท เป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น
ขณะเดียวกันได้มีคณะพระสงฆ์ในจังหวัดน่าน นำโดย เจ้าคณะจังหวัดน่าน เป็นตัวแทน ของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช วัดสระเกตุ เขตป้อมปราบฯ กทม. ได้ประธานเครื่องอุปโภค – บริโภค เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสพอุทกภัย ในพื้นที่ 200 กว่าชุด ขณะที่ชาวบ้านอีกหมู่บ้านโวยราชการลำเอียง ไม่ได้รับการช่วยเหลือเท่ากับอีกหมู่บ้าน โดยกลุ่มชาวบ้านบ้านน้ำป้าก หมู่ที่ 7 ตำบลตาลชุม อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน รวมกลุ่มกันออกมาโวยวายว่า ถูกราชการทอดทิ้งไม่ให้การช่วยเหลือเช่นเดียวกับหมู่บ้านอื่นที่ถูกน้ำป่าถล่มเหมือนกัน ซึ่งนางเป็ง สัมวุฒิ อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 33 หมู่ที่ 7 บ้านน้ำปาก พร้อมด้วยกลุ่มชาวบ้านบอกว่า พวกตนรอการช่วยเหลือจากทางราชการตั้งแต่หลังวันเกิดเหตุ แต่การช่วยเหลือมาไม่ถึง และมาถึงน้อยไม่เพียงพอกับชาวบ้านที่เดือดร้อน ซึ่งบ้านเรือนเสียหายบางส่วน 13 หลัง เสียหายทั้งหลัง 1 หลัง นอกจากนั้น พื้นที่การเกษตรโดยเฉพาะนาข้าวเสียหายหมด สิ่งของมีค่า ข้าวเปลือก เมล็ดพันธุ์พืชก็เสียหายเช่น กัน
ชาวบ้านยังบอกว่า ที่น้อยใจเนื่องจากการช่วยเหลือจะไปลงที่หมู่บ้านต้นทาง ที่บ้านห้วยธนู ซึ่งเสียหายหนักก่อน ส่วนที่เหลือชาวบ้านน้ำป้าก จึงจะได้รับ เป็นการสร้างความไม่ยุติธรรมกับชาวบ้าน แม้บ้านเรือนจะเสียหายน้อยกว่า แต่ชาวบ้านก็ไม่มีอาหารการกิน และน้ำดื่ม ตลอดจนไฟฟ้าขณะนี้ก็ยังไม่มีใช้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันวันนี้ตอนบ่ายเหล่ากาชาดจังหวัดน่าน ได้นำถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้งไปมอบให้แก่ชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้านที่เสียหายจำนวน 300 ถุง พร้อมมอบเงินให้แก่ครอบครัว ญาติผู้เสียชีวิต 3 ราย ๆ ละ 2,000 บาท เบื้องต้นก่อน ขณะที่ชาวบ้านจากหมู่บ้านอื่นก็ทยอยน้ำสิ่งของมามอบให้อย่างต่อเนื่อง และตั้งตู้รับบริจาคเงินช่วยกันเองด้วย.
ด้าน นพ.พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน กล่าวว่า ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่รวมทั้งเวชภัณฑ์ จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด รพ.สมเด็จพระยุพราชอำเภอปัว รพ.ท่าวังผา และเจ้าหน้าที่สถานี อนามัย ออกไปให้บริการประชาชนในหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้ว รวมทั้งจัดทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วเพื่อเฝ้าระวังโรคติดต่อในพื้นที่ และให้ความรู้ประชาชนเรื่องการรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ และให้ใช้น้ำดื่มที่มี อย.รับรองคุณภาพ หรือดื่มน้ำต้มสุก ป้องกันโรคท้องร่วง ไทฟอยด์ อหิวาตกโรค และอาหารเป็นพิษ พร้อมแจ้ง เตือนประชาชนให้เฝ้าระวังโรคติดต่อที่มากับน้ำ และนำยาสามัญประจำบ้าน จำนวน 2,000 ชุด รองเท้าบูท ยาป้องกันโรคฉี่หนู ยาทาน้ำกัดเท้า วัคซีนป้องกันบาดทะยัก มอบให้ เพื่อช่วยเหลือราษฎรเป็นการเร่งด่วนแล้ว
ขณะที่นายธวัช เพชรวีระ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน กล่าวว่า ยังคงประกาศเตือนประชาชน 3 หมู่บ้าน ให้เฝ้าระวังน้ำป่าอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสภาพอากาศโดยรวมยังคงมีเมฆฝนปกคลุมอยู่ จึงได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังภัยและออกช่วยเหลือชาวบ้านตลอด 24 ชั่วโมง
ที่ จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2551 จากกรณีที่ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันหลายวันในพื้นที่ จ.เชียงราย ทำให้เกิดน้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนราษฏรและถนนถูกกระแสน้ำตัดขาดหลายแห่ง โดยที่ อ.เวียงป่าเป้า น้ำจากอ่างเก็บน้ำแม่ฉางข้าว หมู่ที่ 10 ต.ป่างิ้ว ล้นอ่างไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร และโรงเรียนใน ตำบลป่างิ้ว ส่วนถนนสายเชียงราย – เชียงใหม่ ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 83 - 84 บริเวณถนนหน้าคริสตจักรป่างิ้ว ระยะทางยาวประมาณ 500 เมตร ถูกน้ำท่วมผิวถนนสูงกว่า 50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ น้ำท่วมประมาณ 6 ชั่วโมงระดับน้ำได้ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เนื่องจากเป็นน้ำป่าไหลมาเร็วและระบายลงสู่แม่น้ำลาวอย่างรวดเร็วการสัญจรไปมาได้เป็นปกติ
นายประสิทธิ์ กอหลวง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่างิ้ว อ.เวียงป่าเป้า เปิดเผยว่าจากเหตุน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมครั้งนี้ทำให้บ้านเรือนราษฎรกว่า 1,000 หลังคาเรือน ใน 6 หมู่บ้านของตำบลป่างิ้ว ถูกน้ำท่วมสูงบางหลังถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร จนทรัพย์สินภายในบ้านได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากเนื่องจากเกิดเหตุช่วงกลางดึกชาวบ้านไม่สามารถเคลื่อนย้ายทรัพย์สินได้ทัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถทราบถึงมูลค่าความเสียหาย ซึ่งในช่วงสายจะเข้าไปสำรวจความเสียหาย นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านอีก 5 ครอบครัวติดอยู่ในหมู่บ้านเนื่องจากสะพานถูกกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากพัดขาด ไม่สามารถข้ามไปมาได้เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ส่วนที่ อ.แม่สรวย ฝนตกหลายวันทำให้น้ำป่ากัดเซาะถนนสายแม่สรวย- ต.วาวี หลักกิโลเมตรที่ 7-8 บ้านทุ่งพร้าว หมู่ 8 ต.วาวี ถูกน้ำกัดเซาะเหลือผิวการจราจรเพียงเล็กน้อยทำให้การสัญจรไปมาไม่ได้รับความสะดวกและผิวถนนทรุดตัวลงไปเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่ทางหลวงชนบท จ.เชียงราย ได้นำรถตักรถเกรดและรถบรรทุกดินไปถมบริเวณที่ผิวการจราจรทรุดตัวลงโดยเร่งทำงานเต็มที่เพื่อให้การสัญจรไปมาได้เหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าถนนทางขึ้นดอยวาวีถูกกระแสน้ำกัดเซาะพังเสียหายถึง 2 จุด แต่ละจุดจะซ่อมแซมอย่างยากลำบาก ส่วนความเสียหายในพื้นที่ อ.แม่สรวย มีสะพาน 8 แห่ง คอสะพาน 4 แห่ง ถนน 5 สาย บ่อปลา และสัตว์เลี้ยงจำนวนหนึ่ง
ทางด้าน อำเภอแม่สายได้มีฝนตกติดต่อกันตั้งแต่เย็นวันที่ 6 ก.ย.จนถึง 10 โมงเช้า วันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมาส่งผลให้มีกระแสน้ำป่าจากยอดดอยกูเต็งนาโหย่ง จำนวนมาก ไหลบ่ามาสมทบกับลำน้ำแม่สาย กั้นพรมแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ทำให้แม่น้ำสาย มีระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนสภาพกลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม ไหลเชี่ยวกราก เพิ่มระดับขึ้นถึงจุดวิกฤตใกล้ทะลักเข้าท่วมย่านการค้าทั้งตลาดการค้าสายลมจอย อ.แม่สาย และฝั่งตลาดท่าล้อ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่าอีกครั้ง ทำให้ร้านค้าต่างๆบริเวณริมแม่น้ำสายได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ส่วนไร่นาของประชาชนทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำสายได้รับความเดือดร้อนอย่างมากเนื่องจากน้ำได้เข้าท่วมไร่นาจนมิดทำให้ผลผลิตเสียหายเป็นจำนวนมาก
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
