| • หมอพรทิพย์ส่งผลตรวจแก๊สน้ำตาแล้ว |
|
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 14 ต.ค. 51 เวลา 10:28:16 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เมื่อ วันที่ 13 ต.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์หลังนำผลการทดสอบยิงแก๊สน้ำตาแจงต่อคณะกรรมการสิทธิฯ ว่าจากการทดสอบยิงแก๊สน้ำตาเมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมาพบว่าระเบิดแก๊สน้ำตาจากจีนทั้งชนิดขว้างและชนิดยิงพบสารประกอบ อาร์ดีเอ็กซ์ซึ่งเป็นสารระเบิดร้ายแรงซึ่งตำรวจได้ให้ข้อมูลแล้วว่าแก๊ส น้ำตาดังกล่าวถูกนำมาใช้มากสุดในวันที่ 7 ต.ค. นอกจากนี้ สภาพบาดแผลของ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ ผู้เสียชีวิต พบว่ามีแผลเป็นวงกลมที่เกิดจากวงกระแทกขนาดเท่ากับระเบิดแก๊สน้ำตารูปทรง กระบอกสีเขียวโดยภายใน 1 นาทีหลังจากกระแทก เป้าหมายจึงระเบิด ดังนั้น จึงไม่ต้องตรวจพิสูจน์หรือทดลองอะไรเพิ่มอีกแล้วเพราะหลักฐานค่อนข้างชัดเจน ว่าเกิดจากความรุนแรงและอาวุธที่เจ้าหน้าที่นำมาใช้
ถามแล้วของจีนซื้อปี 2538
พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าวอีกว่า จากการสอบถามทหารและตำรวจได้ให้ข้อมูลว่าในต่างประเทศจะใช้แก๊สน้ำตาจาก สหรัฐฯเพื่อสลายการชุมนุม เพราะมีความปลอดภัยกว่า แต่ปัญหาคือมีราคาแพง อย่างไรก็ตามในเบื้องต้น พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พร้อมให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งได้รับการชี้แจงว่าผู้ใช้แก๊สไม่ได้เป็นผู้ซื้อ จึงไม่รู้ว่าถืออะไรอยู่ในมือและแก๊สชุดดังกล่าวก็สั่งซื้อตั้งแต่ปี 2538 ไม่แน่ใจว่าที่ผ่านมามีการทดสอบนำมายิงบ้างหรือไม่
กก.สิทธิฯ รอสรุปฟ้องรัฐ
ด้านนายสุรสีห์ โกศลนาวิน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า จากการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุมาตรวจพิสูจน์พบว่ามีความรุนแรงเกิดขึ้นจริง หลังจากนี้กรรมการสิทธิฯจะต้องสอบปากคำผู้บาดเจ็บและตำรวจเพิ่มเติม โดยในช่วงบ่ายวันนี้จะนำข้อเท็จจริงทั้งหมดเสนอกรรมการสิทธิฯชุดใหญ่ เพื่อลงความเห็นว่ากรรมการสิทธิฯจะฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐที่ใช้ความรุนแรงหรือ ไม่ ขณะนี้การสอบสวนของกรรมการสิทธิฯก็มีพยานทางนิติวิทยา� ศาสตร์ และพยานบุคคลมากพอสมควร แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะเกรงหลักฐานจะสูญหาย
เล็งขอข้อมูล ขรก.-นักการเมือง
ต่อมา นายเสน่ห์ จามริก ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดแถลงภายหลังได้รับรายงานข้อเท็จจริงเบื้องต้นจากการลงพื้นที่ตรวจสอบ เหตุการณ์ สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้จะเป็นปัญหาทางการเมือง แต่ได้เกิดความรุนแรงขึ้นบนท้องถนน มีผู้สูญเสียเป็นประชาชนและตำรวจ ทั้งนี้หน้าที่ของคณะกรรมการสิทธิฯ จะไม่จำกัดอยู่เพียงการตรวจสอบว่ามีการใช้ความรุนแรงจากใคร แต่จะตรวจสอบลึกไปถึงการรับผิดชอบตามระดับการบังคับบัญชา และความรับผิดชอบทางการเมือง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตำรวจคงไม่สามารถเข้าไปใช้ความรุนแรงได้ด้วยตัวเอง หลังจากนี้ กรรมการสิทธิฯจะเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล โดยเฉพาะนายตำรวจระดับบังคับบัญชาและนักการเมือง ซึ่งมีข่าวว่าเป็นผู้ออกคำสั่ง อย่างไรก็ตาม แม้กรรมการสิทธิฯจะมีอำนาจเรียกข้าราชการและนักการเมืองเข้าให้ ข้อมูล แต่ที่ผ่านมานักการเมืองและข้าราชการไม่ให้ความสำคัญกับคณะกรรมการสิทธิฯ จึงได้แต่มองในแง่ดีและตั้งความหวังว่าผู้มีอำนาจจะร่วมมือเปิดเผยว่าความ จริงเป็นอย่างไร
ชี้ช่องผู้เสียหายฟ้องเองได้
นายเสน่ห์กล่าวต่อว่า การสลายการชุมนุมที่ผ่านๆมาเป็นที่น่าเสียใจว่าระดับความรับผิดชอบทางการ เมืองไม่มีเลย กรรมการสิทธิฯทำรายงานเสนอไปยังสภา แต่สภาก็ยังไม่ทำอะไร อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่าครั้งนี้จะได้รับความร่วมมือที่ดีจากทุกฝ่าย เพราะสถานการณ์ กดดันให้รัฐบาลต้องร่วมมือเปิดเผยข้อเท็จจริง ส่วนการฟ้องร้องดำเนินคดี กรรมการสิทธิฯอาจจะเป็นตัวแทนฟ้องคดีให้กับประชาชนผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสีย ชีวิต หรือให้ผู้ที่ได้รับความสูญเสียสามารถนำรายงานของกรรมการสิทธิฯ ไปเป็นเอกสารประกอบการฟ้องร้องดำเนินคดีด้วยตัวเองได้
อยู่ไอซียู รพ.วชิรฯ 4 ราย
ด้านอาการของผู้บาดเจ็บจากเหตุสลายชุมนุมนั้น นพ.ชัยวัน เจริญโชคทวี ผอ.รพ.วชิรพยาบาล กล่าวว่า ได้ทูลเกล้าฯถวายรายงานเบื้องต้นผลการรักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์การสลาย การชุมนุมที่เข้ารักษาใน รพ.วชิร�พยาบาล ผ่านทางกองงานราชเลขาธิการในสมเด็จพระ�นางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีความห่วงใยพสกนิกรไทยทุกคน ทั้งนี้ รพ.วชิรพยาบาล มีผู้บาดเจ็บเข้ารักษาทั้งหมด 169 ราย ประกอบด้วย วันที่ 7 ต.ค. ภาคเช้า 63 ราย ภาคบ่าย 101 ราย และวันที่ 8 ต.ค. 5 ราย และนับตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. จนถึงวันนี้ รพ.วชิรพยาบาลยังมีผู้รักษาอยู่ 11 ราย ในจำนวนนี้ 4 ราย พักอยู่ในห้องไอซียู ซึ่งอาการหนักที่สุดยังเป็นนายธัญญา กูลแก้ว ขาขาด ยังไม่รู้สึกตัว แต่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนอื่น หรือการติดเชื้อ สำหรับ ส.ต.อ.จักรา ขันธชัย อาการทั่วไปปกติ หายใจทางคอที่เจาะไว้ ไม่มีภาวะการติดเชื้อ ส่วน น.ส.นาฏยา ธิญา อยู่ในห้องเบิร์นยูนิต เพราะมีบาดแผลลึก ต้องป้องกันการติดเชื้อ สภาพทั่วไปอาการดีขึ้น รู้สึกตัว พูดจา สื่อสารได้ และนายประภาส ศรีสุพัฒนกุล เดิมรักษาอยู่ในห้องทั่วไป แต่เพิ่งถูกย้ายเข้าไปห้องไอซียู เพราะมีไข้สูงจากการติดเชื้อ ซึ่งเกิดจากบาดแผลที่ฉีกขาดบริเวณเท้าข้างขวา ส่วนรายอื่นๆ ที่เหลือนั้น อาการดีขึ้นเป็นลำดับ แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านเป็นรายๆไป ส่วนนายปิตินนท์ แก่นสาร นักข่าว จส.100 เดิมรักษาอยู่ในห้องไอซียู ขอย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพ เพราะมีสัญญาระหว่างบริษัทกับโรงพยาบาล
เร่งคณะทำงานรู้ผลใน 7 วัน
ด้าน พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ผบช.สตม. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์การเคลื่อนไหวกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า ผบ.ตร.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานฯ ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ อดีตตำรวจ ประชาชน เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. ตั้งใจจะทำความจริงให้ปรากฏ ไม่ได้ตั้งธงหรือโน้มเอียงฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ถึงแม้จะเป็นคณะกรรมการฯที่ ผบ.ตร.ตั้งขึ้นมา ขอให้นำเอาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานทั้งหมด มาพิจารณาให้ได้ว่า การกระทำใดที่ขัดต่อกฎหมาย ระเบียบบังคับ และบุคคลใดที่ต้องรับผิดชอบเพื่อนำข้อเท็จจริงมาเสนอต่อประชาชน โดยเร่งสอบสวนให้เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน
รอฟังผลสอบยังไม่สรุปใครผิด
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ระบุว่า ผลตรวจพบสารระเบิดในอุปกรณ์แก๊สน้ำตาของจีน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต พล.ต.ท.ชัชวาลย์ตอบว่า ได้เห็นอุปกรณ์แก๊สน้ำตาที่ตำรวจใช้ในการควบคุมฝูงชน ทั้งชนิดยิงและขว้าง ไม่อยากแสดงความคิดเห็น อยากให้เป็นหน้าที่คณะกรรมการฯ เท่าที่ทราบ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ต้องการพิสูจน์ประเด็นที่ว่าแก๊สน้ำตาที่ใช้มีสารระเบิด และดินระเบิดอยู่หรือไม่ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรอยู่ในรายละเอียดต้องรวบรวมข้อเท็จจริงต่อไป ยังไม่ได้มีการสรุปว่าตำรวจผิดหรือถูก เชื่อว่าข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้นหลังการตรวจสอบคณะทำงานชุดนี้จะ อธิบายได้
ผบช.น.ย้ำ ตร.ดูแลทุกคน
ส่วนที่ บช.น. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. กล่าวว่า ในวันนี้เป็นวันตำรวจ ขอให้ตำรวจทุกคนรับใช้ดูแลประชาชนปกป้องชีวิตและทรัพย์สินให้ดีที่สุด หากจะมีอะไรที่กระทบกระเทือนใจบ้างขอให้อดทน และขอแสดงความเสียใจ ขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น และเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต เพราะว่าการสูญเสียเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้ เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ก็ขอยืนยันว่า ตำรวจจะบริการประชาชนไม่ว่าสาขาอาชีพไหนเท่าเทียมกันหมด และถ้าผลการสอบสวนข้อเท็จจริงออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับตามนั้น คณะกรรมการถือว่าเป็นคนกลาง เป็นคนที่มีความยุติธรรมทุกอย่างดีแล้ว เราจะไปปฏิเสธกระบวนการยุติธรรมคงไม่ได้
“ชวรัตน์” ชง ครม.ตั้ง กก.เยียวยา
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.00 น. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีด้านสังคมในฐานะประธานคณะกรรมการเยียวยาความเสียหายจากเหตุ การการสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ได้เป็นประธานการประชุมอย่างไม่เป็นทางการครั้งแรก จากนั้นนายชวรัตน์ให้สัมภาษณ์ ทางโทรศัพท์ว่าได้ประชุมเพื่อพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับ ความเสียหายจากเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค. โดยคณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการจำนวน 24 คนมาจากปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อาทิ ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งปลัด กทม.ผู้อำนวยการ สำนักงบประมาณ และอัยการสูงสุด โดยมีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการและเลขานุการ ทั้งนี้ตนเองจะเสนอให้ ครม.ให้ความเห็นชอบในการประชุมวันที่ 14 ต.ค.นี้ อย่างไรก็ตามนายกฯและรัฐบาลเป็นห่วงเรื่องนี้มาก เราจะดำเนินการให้เร็วที่สุดหลังจาก ครม.ให้ความเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการแล้ว หากเป็นไปได้จะเรียกประชุมคณะกรรมการวันที่ 16 หรือ 17 ต.ค. ทันที
เร่งช่วยเหลือด่วนอย่างเป็นธรรม
นายชวรัตน์กล่าวด้วยว่าคณะกรรมการเยียวยาจะยึดแนวทางในการพิจารณาให้ความ ยุติธรรมแก่ทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน และเป็นธรรมอย่างที่สุด โดยจะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด ตามที่นายกฯ แสดงความเป็นห่วง และมอบหมายให้เป็นนโยบายเร่งด่วน ให้มีกรอบระยะเวลาดำเนินการ 90 วัน นับแต่วันที่ ครม.ให้ความเห็นชอบ จะมีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาอีก 1 ชุด เพื่อพิจารณาดูแลเรื่องความเสียหาย โดยอนุกรรมการจะรับข้อมูลจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดต่างๆ จากคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการสอบสวนจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และคณะกรรมการสอบสวนที่นายกฯ แต่งตั้ง รวมทั้งขอข้อมูลจากศูนย์นเรนทร ศูนย์เอราวัณมาร่วมพิจารณา โดยเบื้องต้นเรื่องตัวเลขค่าชดเชยความเสียหาย แก่ผู้ได้รับผลกระทบ ก็มีระเบียบทางราชการที่เกี่ยวข้องเป็นหลัก ต้องพิจารณาดูเป็นรายกรณี เมื่อถามว่าฝ่ายค้านและพันธมิตรฯ ไม่ไว้วางใจในคณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้น นายชวรัตน์ตอบว่าเขาจะมองอย่างไรก็มองไป แต่เรายึดหลักความถูกต้องและเป็นธรรมเป็นที่ตั้ง เชื่อว่าภายใต้การนำของตนเองคงไม่แหกโค้งไปที่ไหน เราจะเอาความเสียหายของประชาชนเป็นหลัก
ที่มา ไทยรัฐ
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1139 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 14 ต.ค. 51
เวลา 10:28:16
|
