เกย์ กระเทย ชาย-หญิง ยึดลานท่าแพเร่ขายบริการ แฉเด็กชาย 13 - 15 ปีเริ่ม เข้าวงการค้ากามริมถนน กลุ่มเชียงใหม่อารยะสลด นักเที่ยวต่างชาติขนานนามเชียงใหม่ "Sexual Hub" จี้รัฐเร่งแก้ไข ปลัดจังหวัดสั่งดีเดย์ 1 ม.ค. กวาดล้างหนักลบภาพเสื่อม
เมื่อ เวลา 10.00 น. วันที่ 25 ธ.ค. ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายสุรชัย จงรักษ์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ ได้เชิญตัวแทนจากตำรวจภูธรจังหวัด สำนักงานวัฒนธรรมสำนักงานพระพุทธศาสนา เทศบาลนครเชียงใหม่ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และ ตัวแทนจากกลุ่มเชียงใหม่อารยะ เข้าหารือเพื่อหามาตรการดำเนินการกับกลุ่มสาว ประเภทสองและหญิงขายบริการที่ยึดลานเอนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เตร็ดเตร่ค้าประเวณีให้กับนักท่องเที่ยว จนส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่เป็นอย่างมาก
นายนที ธีระโรจนพงษ์ แกนนำกลุ่มเชียงใหม่อารยะ เปิดเผยว่า กลุ่มเชียงใหม่อารยะ ซึ่งเป็นการรวมตัวของเอกชนทุกภาคส่วน ในจังหวัดเชียงใหม่ คอยเฝ้าระวังด้านวัฒนธรรม มีความกังวลเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับปัญหาการค้าประเวณีในจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีข้อมูลว่า ขณะนี้บริเวณลานเอนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ รวมถึงบริเวณใกล้เคียง โดยเฉพาะถนนลอยเคราะห์ ได้มีสาว ประเภทสอง เกย์ หญิงและชายขายบริการ ยึดพื้นที่ริมถนนและบนลานท่าแพเตร็ดเตร่ค้าประเวณี เป็นประจำทุกคืน ตั้งแต่ 21.00 - 04.00 น.
กลุ่ม คนเหล่านี้ ยังสร้างความรำคาญให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ด้วยการเข้าไปตามตื้อ ซึ่งพฤติกรรมที่เกิดขึ้นได้สร้างความเสียหายกับภาพลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีศิลปวัฒนธรรมที่ดีงาม และจากปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้ในขณะนี้เมืองเชียงใหม่ถูกกล่าวถึงในเชิงลบว่าเป็น "Sexual Hub" เนื่องจากพฤติกรรมที่เกิดขึ้นอยู่บริเวณลานท่าแพซึ่งถือเป็นจุดสัญลักษณ์ หรือ แลนด์มาร์ค (Landmark) ของเมืองเชียงใหม่
ปัญหาที่เกิดขึ้น นอกจากมีผลกระทบด้านภาพลักษณ์แล้ว ยังส่งผลกระทบกับสภาพ จิตใจของคนเชียงใหม่ ซึ่งในขณะนี้ผู้หญิงชาวเชียงใหม่รวมถึงกระเทยบางคนไม่กล้าผ่านไปทำ ธุระในย่านดังกล่าวเพราะมักถูกมองว่าไปขายบริการ ขณะเดียวกันยังมีผลด้านสังคมและ วัฒนธรรม โดยล่าสุดมีวัยรุ่นหญิงชายจำนวนไม่น้อยเลือกเส้นทางหากินวิธีนี้ โดยหากเป็นหญิงจะ คิดค่าบริการประมาณ 500 บาท ส่วยวัยรุ่นชายอายุ 17-18 ปี คิดราคา 1,000 - 1,500 บาท และ ที่น่าตกใจคือพบชายวัยรุ่นอายุ 13-15 ปี เริ่มเข้าสู่วงการขายบริการด้วยจำนวนหนึ่ง
นายนที กล่าวว่า หน่วยงานภาครัฐจะต้องใช้อำนาจและกฏหมายเท่าที่มีอยู่ในมือเข้า ดำเนินการ และหากจะเป็นได้ให้จับกุมดำเนินคดีอย่างจริงจรัง และต่อเนื่อง ขณะที่หน่วยงานเจ้าของพื้นที่อย่างเทศบาลนครเชียงใหม่ อาจส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปประจำในย่านดังกล่าว เพื่อป้องปรามไม่ให้มีการค้าประเวณีได้ โดยเฉพาะในช่วงสิ้นปี ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในย่านดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
นายสุ รชัย จงรักษ์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวมีมานาน ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจได้เข้ากวาดล้างจับกุมบ่อยครั้ง แต่ก็ยังกลับมาอีก เพราะมีโทษปรับน้อยมากในความผิดฐานเตร็ดเตร่ค้าประเวณี อย่างไรก็ตาม จังหวัดเชียงใหม่ได้ให้ความ สำคัญกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และได้กำชับไปยังอำเภอเมืองเชียงใหม่ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ให้กวด ขันจับกุมให้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนสิ้นปีจะมีการประชุมร่วมากันระหว่างผฝ่ายปกครองและตำรวจ เพื่อหามาตรการที่ชัดเจนอีกครั้ง ในการจัดการปัญหาดังกล่าว โดยหลังจากวันที่ 1 ม.ค. 52 เป็นต้นไป จะถือเป็นวันดีเดย์จัดการกับปัญหาการค้าประเวณีอย่างเข้มข้น
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก คมชัดลึก