| • ชม.หมอกคลุมฝุ่นละอองเกินยอดดอยมองไม่เห็นแล้ว |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 26 ก.พ. 52 เวลา 23:08:03 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ชม.หมอกคลุมฝุ่นละอองเกินยอดดอยมองไม่เห็นแล้ว
.............ชม.หมอกคลุม.............
หมอกควันเชียงใหม่กระทบหนัก ไม่สามารถมองเห็นวัดพระธาตุดอยสุเทพแล้ว เนื่องจากหมอกควันพิษปกคลุมเมือง ทั้งวัน ถนนหนทางวิสัยทัศน์ในการมองเห็นลดลง ประชาชนเริ่มเจ็บป่วยเพราะได้รับผลกระทบจาก ฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ชาวบ้านร้องเรียน สนามหญ้าศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ต้นไม้แห้งเหี่ยว ไร้คนดูแล อีกทั้งประชาชนที่ออกกำลังกายช่วงเย็น ใช้สนามฟุตบอล ฝุ่นคลุ้งเต็มสนาม ไร้รถน้ำมารด เพื่อลดปริมาณฝุ่นวอนช่วยเหลือนักกีฬาด่วน ขณะที่เมืองรถม้า ครองแชมป์ หมอกควันเกินมาตฐาน ทะลุไป 200 ไมโครกรัม แล้ว จากค่าปกติ 120 ไมโครกรัม
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 ก.พ. 2552 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากปัญหาหมอกควันพิษปกคลุมภาคเหนือ ที่มีสาเหตุ มาจากการเผาป่า เพื่อหาของป่า และการเผาป่าทำไร่ ขณะที่พื้นที่ในตัวเมืองเชียงใหม่พบว่ามีการเผาขยะ ซึ่งส่งผลให้หมอกควันพิษปกคลุมในชั้นบรรยากาศ เนื่องจากสภาพภูมิประเทศของภาคเหนือ มีลักษณะเป็นแอ่งกะทะ ดังนั้น หมอกควันจึงปกคลุมตลอดเวลา ล่าสุด จากการตรวจสอบด้วยสายตา ช่วง ถนนคันคลองชลประทาน ไปถึงบ้านพัก 700 ปี มีหมอกปกคลุม ขาวโพลนเต็มไปหมดและยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว และหากมองด้วยสายตาจะพบเห็นชัดเจน
เมื่อมองไปทางวัดพระธาตุดอยสุเทพ ก่อนหน้านี้จะสามารถมองเห็นตัวองค์พระธาตุ ได้ชัดเจน แต่ขณะนี้ มีหมอกควันปกคลุมหนาแน่นตลอดทั้งวัน จึงไม่สามารถมองเห็นได้ อย่างไรก็ตาม จากปัญหาการเผาป่า และการลักลอบเผาขยะ ซึ่งจะสะสมในอากาศพื้นที่ทั่วไปของจังหวัดเชียงใหม่ ยังคงพบว่ามีการลักลอบเผาขยะกันต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตัวเมืองเชียงใหม่ มีการร้องเรียนการเผาขยะในที่โล่งแจ้งแทบทุกวัน เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบได้แค่ตักเตือนโดยไม่มีมาตรการที่เด็ดขาด ดังนั้น ผู้ลักลอบเผาจึงไม่เกรงกลัว
ขณะที่หน่วยงานท้องถิ่น และส่วนราชการอื่น ๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ได้ร่วมกันรณรงค์ เพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควัน อย่างต่อเนื่อง ทางด้าน องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ได้รณรงค์การแก้ไขปัญ หาหมอกควันอย่างเข้มข้น ภายใต้โครงการร่วมมือร่วมใจ อากาสสดใส เชียง ใหม่ไร้หมอกควัน โดยในเขตเทศบาลเมืองแกนพัฒนา อำเภอแม่แตง จังหวัด เชียงใหม่ ทั้งส่วนราชการ นักเรียน ผู้นำชุมชน กลุ่มแม่บ้าน และประชาชนทั่ว ไปต่างก็ตื่นตัวที่จะร่วมรณรงค์ให้ปัญหาหมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่หมด ไป ทั้งนี้ได้ร่วมเดินขบวนพาเหรดชูป้ายผ้ารณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่เขตเทศ บาลให้หยุดการเผาทั้งการเผาขยะ หรือแม้แต่การเผาเศษวัสดุเหลือใช้จากการ เกษตรที่มักจะเผากันในระยะนี้ ส่งผลให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กก่อ ให้เกิดปัญหาหมอกควัน นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการกระตุ้นเตือน พร้อม ให้ความรู้ถึงปัญหาหมอกควัน พิษภัยที่เกิดจากหมอกควันจากไฟป่า เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักและร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่ ทางเทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล และหน่วยงานท้องถิ่นทั่วไป มีการรณรงค์ให้ประชาชนพากันออกมารดน้ำต้น ไม้ รดน้ำหน้าบ้านเพื่อป้องกันฝุ่นละอองฟุ้งกระจายในอากาศ และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ ฝุ่นละอองของเชียงใหม่เกินมาตฐาน ปรากฎว่า ตอนนี้ได้มีประชาชนที่ไปใช้บริการจอดรถ และพักอาศัยหลบร้อนข้างริมสนามฟุตบอล ขณะมาติดต่อราชการ ร้องเรียนเข้ามาว่า บริเวณศาลากลางจังหวัด
โดยเฉพาะบริเวณสนามฟุตบอล ปรากฎว่ามีกลุ่มวัยรุ่นในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่รักการออกกำลังกาย ทั้ง กลุ่มวัยรุ่น อ.แม่ริม กลุ่มข้าราชการของจังหวัดเชียงใหม่ เข้าไปใช้บริการ เล่นฟุตบอลในช่วงเย็นของทุกวัน ทำให้ สนามหญ้าเต็มไปด้วยฝุ่นละอองลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ส่งผลให้ ต้นไม้ และ ดอกไม้ ริมสนาม ถูกจับไปด้วยฝุ่น ทำให้ต้นไม้ และดอกไม้ บริเวณดังกล่าว ดูสกปรกไปด้วยฝุ่นละออง ทั้งที่เป็นสถานที่ราชการ โดยไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปรดน้ำต้นไม้แต่อย่างใด ขณะที่กลุ่มนักกีฬาที่ไปใช้บริการดังกล่าว ต่างก็ได้รับความเดือดร้อนบางคนพากันนำหน้ากากปิดจมูกเนื่องจากฝุ่นละอองเต็มไปหมด เกรงว่าจะเจ็บป่วยด้วยโรคปอด เพราะฝุ่นเต็มไปหมด ขณะออกกำลังกาย โดยไม่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลคอยรดน้ำบริเวณสนามเลย ส่วนต้นไม้ก็แห้งเหี่ยวเฉาตาย เนื่องจากขาดน้ำ หากมีการรดน้ำ ทั้งต้นไม้และสนามฟุตบอลในช่วงเย็น ปัญหาฝุ่นละอองจะลดลงได้ และสุขภาพของประชาชนที่มาออกกำลังกายบริเวณสนามกีฬาดังกล่าวก็จะดีตามไปด้วย อีกทั้งประชาชนที่มาติดต่อราชการก็จะพลอยได้รับความร่มรื่นไปด้วย
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็ก ๆ และประชาชนออกมาเล่นกีฬา ไม่หันหน้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อีกทั้งลดปัญหาฝุ่นละอองบริเวณดังกล่าว ผู้ร้องเรียนอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ที่อยู่ใกล้และมีรถน้ำหลายคัน ควรจะจัดรถน้ำไปรดน้ำสนามฟุตบอลให้ด้วยเพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองในขณะนี้
จังหวัดลำปาง ปริมาณฝุ่นขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนของจังหวัดลำปาง (PM10) มีค่าสูงขึ้นเกิน 200 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม.อีกครั้ง และยังคงสูงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ โดยล่าสุดวันที่ 25 ก.พ. 2552 วัดค่า PM10 ได้ 201.5 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. ค่า AQ1 อยู่ที่ 135 ซึ่งทั้งสองค่าเกินมาตรฐานที่กำหนด คือ PM10 ต้องไม่เกิน 120 ค่า AQ1 ต้องไม่เกิน 100 ทั้งนี้ จะสังเกตได้จากสภาพบรรยากาศทั่วไปของจังหวัดลำปาง โดยเฉพาะบนถนนสายต่างๆยังคงมีหมอกควันสีขาวปกคลุมทั่วบริเวณ รวมถึงบริเวณรอบนอก เทือกเขาก็จะมองแทบไม่เห็นและ เทศบาลนครลำปาง ได้มีคำสั่งให้รถดับเพลิงของเทศบาลนครลำปาง นำน้ำออกพ่นตามสวนสาธารณะ บนท้องถนนสายหลักต่างๆ ภายในเขตเทศบาลนครลำปาง เป็นเวลา เพื่อดับความร้อนและช่วยลดปริมาณฝุ่นละออง
ขณะที่จำนวนผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินหายใจ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2552 ซึ่งมีปริมาณฝุ่นสูงที่สุดและมากที่สุด จนถึง วันที่ 23 ก.พ. 52 พบว่า มีผู้ป่วยนอกจำนวน 3,169 คนส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็กเล็ก ผู้ป่วยใน จำนวน 259 คนจังหวัดพะเยา นายอนุสิทธิ์ เมธาวรารักษ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า จากการเกิดสภาพหมอกควันเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดพะเยาในวันที่ 25 ก.พ.52 ซึ่งถือได้ว่าเป็นครั้งแรกในพื้นที่ โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กว่า 10 ไมครอน 141 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้คือ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จึงทำทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลงอยู่ที่ 3 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้ได้มีการเร่งประสานงานไปยังหน่วยงานทุกแห่งและประชาชนในพื้นที่ให้ร่วมมือกันป้องกันปัญหาหมอกควันอย่างเข้มงวดมากขึ้น
สำหรับการตรวจวัดคุณภาพอากาศของจังหวัดพะเยา ที่ได้มีการติดตั้งหน่วยตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเคลื่อนที่ บริเวณศาลาประชาคม ศูนย์ราชการจังหวัดพะเยา เพื่อทำการตรวจวัดและเฝ้าระวังปริมาณฝุ่นละอองในบรรยากาศในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน คือ ในช่วงระหว่าง 50 – 70 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรและไม่เกิน 80 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่ครั้งนี้มีปริมาณมากถึง 141 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากการสันนิษฐานคาดว่า อาจจะเกิดจากได้รับผลกระทบจากพื้นที่จังหวัดหรือประเทศใกล้เคียง ประกอบกับสภาพความกดอากาศ โดยในส่วนการเกิดปัญหาไฟป่าในพื้นที่ยังไม่พบว่ามีปริมาณที่มากนัก ทั้งนี้ ทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพะเยา ยังคงต้องทำการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด พร้อมกับขอความร่วมมือกับทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควบคุมดูแล โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรให้งดการเผาในช่วงนี้ เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้น
จังหวัดน่านรายงานข่าวแจ้งว่า จากสภาพอากาศแปรปรวน โดยอุณหภูมิแตกต่างมากระหว่างช่วงเช้ามืดกับตอนกลางวัน โดยช่วงเช้าอากาศยังคงหนาวเย็นอุณหภูมิอยู่ที่ไม่เกิน 17 องศาเซลเซียส ทำให้ผู้คนโดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำงานกันแต่เช้า จำพวกพ่อค้า แม่ค้าและผู้ทีไปจับจ่ายซื้อของตามตลาดเช้าต้องสวมเสื้อกันหนาวกันอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนตอนกลางวันอุณหภูมิสูงขึ้นที่ 38.8 องศาเซลเซียส ถือว่าร้อนจัด จนร่างกายรู้สึกอ่อนเพลียกับการสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เด็กเล็ก และ ผู้สูงอายุ หลายคนร่างกายปรับสภาพไม่ไหวต้องล้มป่วยโดยเฉพาะเด็กเล็ก สาเหตุน่าจะเกิดจากการที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควันพิษปกคลุมภาคเหนือในขณะนี้
ทางด้าน นายแพทย์ นิวัฒน์ชัย สุจริตจันทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน เปิดเผยว่า ช่วงนี้มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลน่านทั้งเด็กเล็กและผู้สูงอายุเฉลี่ยวันละ 200 คน โดยในช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนนี้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาแล้วไม่ต่ำกว่า 1,000 คน โดยเด็กเล็กจะมีอาการเป็นไข้หวัด มีน้ำมูกไหล ไอเจ็บคอ ส่วนผู้สูงอายุมีอาการเหนื่อยหอบ หายใจติดขัด ซึ่งแพทย์จะให้รักษานอนโรงพยาบาล 2 วัน อาการดีขึ้นจึ้งให้กลับบ้าน อย่างไรก็ตามยังไม่ถึงขั้นมีผู้ป่วยอาการหนัก หรือเสียชีวิต สำหรับการป้องกันนั้น หากเป็นเด็กเล็กให้ดื่มไม้ผลไม้และนมโดยเฉพาะนมถั่วเหลืองให้มาก ส่วนผู้ใหญ่ให้ดื่มน้ำผลไม้และน้ำเย็นสลับกัน 1 ชั่วโมง ตอนกลางคืน และตอนเช้ามืด ต้องสวมเสื้อผ้าที่หนาทำร่างกายให้อบอุ่น ส่วนตอนกลางวันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต้องเหลีกเลี่ยงการตากแดดร้อนจัดด้วย
ข่าวจาก เชียงใหม่นิวส์
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1811 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 26 ก.พ. 52
เวลา 23:08:03
|
