ปรินส์ปิด 7 วันล้างโรงเรียนป้องกันหวัด 09สธ.ชี้ช่วงขาขึ้นการระบาด
ปรินส์ปิด 7 วันล้างโรงเรียนป้องกันหวัด 09สธ.ชี้ช่วงขาขึ้นการระบาด ...........ปรินส์ป้องกันหวัด............... ผู้บริหารโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์เชียงใหม่ นำร่องสั่งปิดโรงเรียน 7 วัน ตามแนวนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 นำเจ้าหน้าที่ระดมทำความสะอาดครั้งใหญ่ทั่วโรงเรียน เพื่อความสบายใจ เชื่อจะปลอดเชื้อ 100 เปอร์เซนต์ ด้านสธ. เสนอที่ประชุมไข้หวัดใหญ่ระดับชาติ ปรับยุทธศาสตร์การป้องกันโรคในสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก เช่น โรงเรียน สถานประกอบการ ค่ายทหาร พร้อมวางแนวทางสำหรับดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะการให้ยาต้านไวรัส และขยายช่องทางสื่อสารข้อมูลความรู้ให้เข้าถึงประชาชนมากขึ้น ชี้สถานการณ์ขณะนี้เป็นช่วงขาขึ้นของการระบาด คาดระบาดนานถึง 2 ปี ผู้มีความเสี่ยงสูงคือ นักเรียนและผู้ทำงานออฟฟิศ ขณะที่สวนสัตว์เชียงใหม่เข้มงวด ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไข้หวัด 2009 ขึ้นป้ายวอน ผู้ป่วย ไข้หวัด อย่ามาเที่ยวสวนสัตว์เชียงใหม่ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดสู่สัตว์และผู้อื่น ส่วนขนส่งเชียงใหม่เร่งรณรงค์แจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนและผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ส่วนชาวบ้านร้องเรียนร้านเภสัชชุมชนเอาเปรียบชาวบ้าน ฉวยโอกาสขึ้นราคาหน้ากากอนามัยจากกล่อง 120 ขึ้นเป็น กล่องละ 150 บาท เดือดร้อนถ้วนหน้า เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 15 ก.ค.52 นายยุทธชัย ดำรงมณี รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมนักเรียนและชุมชนสัมพันธ์ โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย ได้นำพนักงานทำความสะอาดฉีกน้ำยาฆ่าเชื้อโรคและทำความสะอาดห้องเรียนรวม และห้องต่างๆ ภายในโรงเรียนหลังจากพบว่ามีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ซึ่งทางโรงเรีนยปรินส์รอยแยลส์ได้ปิดโรงเรียนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในโรงเรียน นายยุทธชัย ดำรงมณี รองผู้อำนวยการฯ เปิดเผยว่า จากสถานการที่มีเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 แพร่ระบาดในจังหวัดเชียงใหม่ ทางโรงเรียนจึงได้เป็นห่วงถึงสุขภาพของนักเรียน ซึ่งล่าสุดนั้นทางโรงเรียนได้มีมาตราการให้ครูประจำชั้นดูแลนักเรียนในชั้นหากพบว่ามีนักเรียนคนใดป่วยก็จะติดต่อให้ผู้ปกครองมารับทันที ซึ่งที่ผานมาก็สามารถป้องกันได้ในระดับหนึ่ง ล่าสุดทางโรงเรียนได้รับแจ้งจากทางสาธารณะสุขจังหวัดแล้วว่านักเรียนของโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์ ได้ติดเชื้อแล้ว จำนวน 3 คน เป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลาย จำนวน 2 คน และนักเรียนชั้นมัธยมต้น 1 คน ซึ่งทางโรงเรียนได้เป็นห่วงว่าจะมีการเชื้อไข้หวัดกระจายอยู่ในโรงเรียนทำให้นักเรียนติดเชื้อได้จึงได้ทำการปิดโรงเรียนหยุดทำการเรียนการสอนในตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย ตั้งแต่วันที่ 15 - 21 ก.ค.52 และเปิดเรียนในวันพุธที่ 22 ก.ค.52 รวม 7 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคและป้องกันไม่ให้เด็กนักเรียนติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น โดยทางโรงเรียนได้ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคฉีกดทำความสะอาดห้องเรียนและอุปกรณ์การเรียน เพื่อฆ่าเชื้อโรคไม่ให้แพร่กระจายได้ หลังจากที่โรงเรียนได้เปิดเรียนตามปกติแล้วทางโรงเรียนได้มีมาตราการให้นักเรียนทุกคนที่มาโรงเรียนต้องใช้หน้ากากอนามัยปิดปากและจมูกทุกคนหากไม่ปิดก้จะไม่ให้เข้าโรงเรียเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมนักเรียนและชุมชนสัมพันธ์ โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย กล่าวอีกว่า การปิดโรงเรียนในครั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 เพราะหากยังคงเปิดสอนต่อไปอาจทำให้นักเรียนล้มป่วยลงและเสียการเรียนมากกว่านี้ ด้วยความรับผิดชอบของทางผู้บริหารฯ โรงเรียนจึงได้ตัดสินใจให้หยุดการเรียนการสอนเพื่อเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด ดีกว่ามาแก้ปัญหาใหญ่ทีหลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ และพิจารณาปรับยุทธศาสตร์การดำเนินงานให้สอดรับกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของประเทศ โดยขณะนี้การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 อยู่ในช่วงขาขึ้นของการระบาด และขยายตัวไปทั่วประเทศ คาดว่าการแพร่ระบาดจะยังเพิ่มต่อเนื่องในช่วงปีนี้ และอาจยาวนานถึง 2 ปี ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทางวิชาการคาดการณ์ว่า ในปีนี้ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ของประเทศ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ และจะมีการแพร่กระจายได้รวดเร็วและกว้างขวางกว่าไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่มีภูมิต้านทานต่อเชื้อนี้ โดยกลุ่มนักเรียน คนวัยทำงาน จะมีความเสี่ยงติดเชื้อมากกว่ากลุ่มอื่น เนื่องจากมีกิจกรรมทางสังคมมากกว่า ทั้งนี้ มาตรการสำคัญที่ยังต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง คือการป้องกันโรค โดยให้ผู้ที่ป่วยพักฟื้นอยู่กับบ้าน ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ และให้ประชาชนทุกคนล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ขณะเดียวกันก็ต้องลดความรุนแรงของโรคและลดอัตราเสียชีวิต โดยการดูแลและให้ยาต้านไวรัสแก่ผู้ป่วยอย่างเหมาะสม โดยในวันนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอปรับยุทธศาสตร์ เพื่อจัดการแก้ปัญหาไข้หวัดใหญ่ของประเทศ 3 ด้าน ได้แก่ 1.การดูแลรักษาผู้ป่วย โดยปรับระบบบริการในโรงพยาบาลทุกแห่งให้มีช่องทางพิเศษสำหรับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่โดยเฉพาะ มีแนวทางในการรักษาและให้ยาต้านไวรัสแก่ผู้ป่วย และพิจารณาตรวจชันสูตรทางห้องปฏิบัติการเฉพาะในรายที่มีอาการรุนแรงและเพื่อการเฝ้าระวัง โดยมีกระทรวงสาธารณสุข คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยต่างๆ และกทม. รับผิดชอบ 2.การป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยเปลี่ยนจากการคัดกรองผู้ที่เดินทางระหว่างประเทศ มาเป็นการป้องกันในสถานที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก เช่น โรงเรียน สถานบันเทิง สถานประกอบการ ค่ายทหาร และมีการปรับมาตรการในการควบคุมป้องกันโรค ให้สอดรับกับความรุนแรงของการแพร่ระบาด มีกระทรวงศึกษาธิการ แรงงานฯ มหาดไทย กลาโหม สาธารณสุขและกทม. รับผิดชอบ และมาตรการที่ 3 เป็นการปรับด้านการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม โดยขยายช่องทางในการสื่อสาร และเสริมบทบาทท้องถิ่น ชุมชน ให้เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น มีกรมประชาสัมพันธ์ กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ และสสส. รับผิดชอบ ด้านนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในวันนี้ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณ จำนวน 250 ล้านบาท เพื่อให้กระทรวงสาธารณสุขจัดซื้อวัตถุดิบเพื่อผลิตยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ เพิ่มอีก 10 ล้านเม็ด จากขณะนี้ที่มีสำรองอยู่ 5 ล้านเม็ด ซึ่งเพียงพอสำหรับผู้ป่วย 1.5 ล้านคน และอนุมัติงบจัดซื้อวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ จำนวน 2 ล้านโดส อีก 600 ล้านบาท ซึ่งองค์การเภสัชกรรมได้สั่งจองกับบริษัทซาโนฟี่ไว้แล้ว จะได้รับประมาณเดือนตุลาคมนี้ นอกจากนี้ ยังได้มีมติเห็นชอบตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ที่เสนอให้ทุกส่วนราชการอนุญาตให้ผู้ป่วยที่เป็นหวัด หยุดพักรักษาตัวที่บ้านได้จนกว่าจะหายดี โดยไม่ถือเป็นวันลา และไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์ ส่วนสถานประกอบการ กระทรวงสาธารณสุขจะประสานกระทรวงแรงงานฯ เพื่อขอความร่วมมือในการอนุญาตให้พนักงานที่ป่วยไข้หวัดใหญ่ ลาหยุดได้โดยไม่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ และได้รับค่าตอบแทนตามปกติ สำหรับโรงเรียนกวดวิชาที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ หลังจากครบกำหนดปิดแล้ว จะขอความร่วมมือให้จัดระบบตรวจคัดกรองนักเรียน ถ้าพบมีไข้ให้หยุดเรียนจนกว่าจะหาย และให้ทำความสะอาดสถานที่อย่างเข้มงวด และจัดเจลหรือสบู่สำหรับล้างมืออย่างพอเพียง ทางด้านสวนสัตว์เชียงใหม่นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ แพร่ระบาดหนักในประเทศไทย และรัฐบาลได้ขอความร่วมมือไปยังโรงเรียนต่าง ๆให้ปิดเทอมเร็วกว่า กำหนด ทางสวนสัตว์เกรงว่าเด็กนักเรียนที่ปิดเทอมอาจใช้เวลาในวันหยุดนี้เดินทางมาเข้ามสวนสัตว์ซึ่ง เป็นเรื่องที่ดี แต่ที่ห่วงคือในส่วนของเด็กนักรียนที่หากรู้ตัวว่ามีอาการป่วย ไอ จามและเป็นหวัด อยากขอความร่วม มือให้ผู้ปกครองและเด็ก ๆได้ช่วยกวดขันในกลุ่มเพื่อนและคนในครอบครัวของตนเองให้ช่วยกันเฝ้า ระวังกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากรายใดมีอาการป่วยเป็นหวัดควรจะงดเดินทางมาท่องเที่ยวในสวนสัตว์ เชียงใหม่เพื่อดูรักษาสุขภาพของตนเองให้ดีและไม่ให้เชื้อหวัดแพร่ระบาดไปยังคนอื่น นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการป้องกันสกัดโรคหวัด 2009ไม่ให้แพร่เข้ามายังคนและสัตว์ได้โดย ง่าย ทางสวนสัตว์จึงได้มีการขึ้นป้ายขอความร่วมมือประชาชนที่มีอาการป่วย ไอ จามและเป็นหวัดขอ ให้งดเข้ามาชมสัตว์ในส่วนต่างๆของสวนสัตว์เชียงใหม่ นอกจากนี้ผู้บริหารยังได้สั่งการให้จัดซื้อเจลล้าง มือเตรียมนำมาแจกให้กับผู้เข้าชมในส่วนหลักที่เป็นระบบปิดหลายแห่งภายในสวนสัตว์ เช่นทางเข้า โครงการเชียงใหม่ซูอควาเรียม ส่วนจัดแสดงและเข้าชมแพนด้า รวมถึงสโนว์โดมที่กำลังจะเปิดบริการ อย่างเป็นทางการในวันที่ 18 ก.ค.นี้ ทางด้าน นายอัฌษไธด์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งเชียงใหม่ ได้ขอความร่วมมือจากบรรดาผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ รถประจำทางและรถตู้ ที่จอดอยู่ภายในสถานีขนส่งอาเขตเชียงใหม่ ประตูช้างเผือก เพื่อขอความร่วมมือจาก ประชาชนในการสวมหน้ากากอนามัย ป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยเฉพาะรถโดยสารปรับอากาศ ที่อากาศไม่ถ่ายเท ทั้งนี้เพื่อช่วยกระตุ้นให้ประชาชนหันมาดูแลสุขภาพ ขณะเดียวกันได้ขอ ความร่วมมือจากผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะไม่ให้รังเกียจผู้โดยสารที่ใช้หน้ากาก อนามัยขึ้นรถ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ได้ติดตั้งเอกสาร คู่มือรู้เท่าทันในการดูแลและป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 และเจล สำหรับล้างมือไว้ตามจุดต่างๆของสถานีขนส่งทุกแห่ง เพื่อให้ผู้โดยสารใช้สำหรับล้างมือ หลังลงรถโดยสารประจำทางด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานต่ออีกว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 14 ก.ค. 2552 ได้มีประชาชนร้องเรียนผ่านทางโทรศัพท์มายังกอง บรรณาธิการหนังสือพิมพ์เชียงใหม่นิวส์ ว่า ขณะนี้ ได้มี เภสัชชุมชน ข้างโรงพยาบาลประสาท ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐ มีการเอารัดเอาเปรียบประชาชน เรื่องของการฉวยโอกาสขึ้นราคาหน้ากากอนามัย โดยชาวบ้านร้องเรียนเข้ามาว่า เมื่อ 2 วันก่อน ได้ไปซื้อหน้ากากอนามัยจากเภสัชชุมชนดังกล่าวในราคาปกติ กล่องละ 120 บาท แต่มา วันนี้ กลับมีราคาเพิ่มสูงขึ้นตกราคากล่องละ 150 บาท ซึ่งมองดูแล้วเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เป็นการฉวยโอกาสหาเงินบนความทุกข์ของคนอื่น ทั้งที่เป็นหน่วยงานรัฐ แทนที่จะช่วยเหลือชาวบ้านกลับฉกฉวยโอกาส แบบนี้ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบด่วน และที่น่าละอายใจไปกว่านั้นคือร้าน ค้าหรือร้านขายยาเล็ก ๆ เขาไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคายังคงขายตามปกติ กล่องละ 120 ทางด้าน จังหวัดน่าน นายพิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด แจ้งสรุปรายงานสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ในประเทศไทย ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 14 กรกฎาคม 2552 มีรายงานการพบผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อฯ จำนวน 3,883 ราย ใน 72 จังหวัด พบผู้เสียชีวิต 21 ราย เป็นหญิง 10 ราย ชาย 11 ในอายุระหว่าง 8 - 63 ปี กระจายใน 11 จังหวัด คิดเป็นอัตราป่วยตายร้อยละ 0.54 สำหรับสถานการณ์จังหวัดน่าน จากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 13 กรกฎาคม เวลา 16.00 น. ผู้ป่วยยืนยันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 จำนวน 21 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต แยกเป็นแต่ละอำเภอ ดังนี้ อำเภอเมือง 9 ราย เวียงสา 2 ราย ทุ่งช้าง 2 ราย ท่าวังผา 2 ราย ภูเพียง 2 ราย บ้านหลวง 1 ราย นาหมื่น 1 ราย ปัว 1 ราย และแม่จริม 1 ราย โดยสิ้นสุดการเฝ้าระวังต่อเนื่องครบ 8 วัน จำนวน 15 ราย กำลังรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติ 5 ราย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเฝ้าระวังและควบคุมโรค 11 ราย แยกเป็นรายอำเภอดังนี้ อำเภอเมือง 4 ราย เวียงสา 1 ราย ทุ่งช้าง 2 ราย นาหมื่นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน กล่าวว่า ในการป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัด 2009 ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ได้ขอความร่วมมือทุกภาคส่วน สำรวจบุคลากรในหน่วยงาน หากมีอาการเป็นไข้หวัดให้หยุดพักผ่อนโดยไม่ถือเป็นวันลา หากมีอาการไข้สูง อาเจียน เหนื่อย หอบ หายใจลำบาก ให้รีบพบแพทย์ทันที รณรงค์ทุกคนในสังกัดสาธารณสุขสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกปฏิบัติงานที่ต้องสัมผัสกับประชาชน และผู้ป่วยทุกครั้ง เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 และป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อไปสู้ผู้รับบริการ นอกจากนี้ได้สั่งการให้ อสม.ทุกคน สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกปฏิบัติการ รวมทั้งออกประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนด้วยน 2 ราย แม่จริม 1 ราย และปัว 1 ราย ส่วนที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อเวลา 09.00 น วันที่ 14 กรกฏาคม 2552 ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด นายแพทย์สุวัฒน์ กิตติดิลกกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ประชุมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ( อสม ) กว่า 100 คน รวม 7 อำเภอ เพื่อเฝ้าระวังป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไข้หวัด 2009 นายแพทย์สุวัฒน์ กิตติดิลกกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า “ สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตรวจพบผู้ป่วย จำนวน 4 ราย ซึ่งขณะนี้ผู้ป่วยดังกล่าวอาการเป็นปกติแล้ว แต่ทางทีมแพทย์ได้เฝ้าระวังกลุ่มเครือญาติของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม อสม.ที่เข้าร่วมประชุมในวันนี้มีบทบาทสำคัญในการเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกันโรค และนำความรู้ไปประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้วิธีการป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 กับครอบครัว ชุมชน ให้ปลอดภัยจากโรคดังกล่าว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า “ สาธารณสุขจังหวัด ได้สั่งการไปยังสถานีอนามัยทุกแห่งหากพบผู้ต้องสงสัยให้ดำเนินการตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ทันที พร้อมทั้งให้ติดตามสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ในแต่ละพื้นที่ และรายงานให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอนทราบ นายวัลลภ พริ้งพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานเปิดงานวันรณรงค์ทำความสะอาดใหญ่จังหวัดแพร่หรือ Big Cleaning Day ทั้งนี้เพื่อเป็นการร่วมกันทุกฝ่าย ทุกส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการเร่งทำความสะอาดสถานที่ราชการ สถานที่ทำงาน สถานที่สาธารณะ เพื่อเป็นการป้องกันและลดความเสี่ยงในการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งจังหวัดแพร่พบว่ามีผู้ติดเชื้อทั้งหมดจากข้อมูลล่าสุด จำนวน 15 ราย แต่ได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติแล้วทุกราย นายวัลลภ พริ้งพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าวว่า ได้ย้ำให้บุคลากรทางการแพทย์โดยเฉพาะสำนักงานสาธารณสุข โรงพยาบาลต่างๆ อาสาสมัครสาธารณสุขเร่งออกประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนสนใจที่จะป้องกันตนเอง หลีกเลี่ยงสัมผัสกับเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 และจะไม่ยอมให้ประชาชนชาวจังหวัดแพร่เสียชีวิตจากโรคดังกล่าว .
ข่าวจาก เชียงใหม่นิวส์
