เพลิงไหม้พระวิหารเก่าแก่วัดดังเมืองลำพูน วอดเสียหายกว่า 10,000,000 บาท พร้อมพระพุทธรูปไม้เก่าแก่และธรรมมาสน์โบราณ ประมาณค่ามิได้เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐาน เกิดจากมีการจุดเทียนบูชาทิ้งไว้ ทำให้เกิดไฟไหม้
เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.00น.วันที่ 18 ส.ค.นี้ พ.ต.ท.ชัชวาล สุทธาวา สารวัตรเวร สภ.เหมืองจี้ อ.เมืองลำพูน ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้พระวิหารวัดสันคะยอม หมู่ 1 ต.ป่าสัก อ.เมือง จ.ลำพูน ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหลัง หลังจากที่ได้รับแจ้ง จึงได้พร้อมกับหน่วยกู้ภัย 2 และรถดับเพลิงจาก อบต.ป่าสัก ,อบต.เวียงยอง,และใกล้เคียง รวมทั้งหมดจำนวน 10 คัน รุดไปที่เกิดเหตุพบ ชาวบ้าน และพระเณรในวัด และใกล้เคียงพากันมามุงดูในที่เกิดเหตุเป็นจำนวนมาก ซึ่งเปลวไฟกำลังลุกโชนบนหลังคาพระวิหาร และในพระวิหาร เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังฉีดน้ำสกัดเพลิง แต่ไม่สามารถต้านเพลิงได้ เพลิงได้โหมไหม้พระวิหารจนวอดเสียหายทั้งหลัง
จากการสอบสวน พระอธิการสมพงษ์ สถิรวุโฒ อายุ 32 ปี เจ้าอาวาสทราบว่า ก่อน เกิดเหตุเมื่อ เวลา 19.00 น.หลังจากพระเณรในวัด ได้มีการไหว้พระสวดมนต์แล้ว ได้แยกย้ายกันกลับกุฏิ จนกระทั่งต่อมาเมื่อ เวลา 19.20 น.ได้มี สามเณรหาญ ถาศักดิ์ อายุ 13 ปี ขึ้นมาบนพระวิหาร เพื่อจะปิดประตู ก็พบไฟกำลังลุกไหม้ ตรงที่บริเวณด้านหน้าพระประธานลุกลามไปทั่วภายในบริเวณพระวิหารอย่างรวดเร็ว จึงได้เอะอะโวยวายขึ้น และเรียกให้ชาวบ้านมาช่วยดับไฟ แต่ไม่ทันการณ์
พระอธิการสมพงษ์ สถิรวุโฒ เผยอีกว่า พระวิหารที่ถูกไฟไหม้ในครั้งนี้คิดเป็นมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10,000,000 บาท และทรัพย์สินมีค่าหลายอย่างเช่น พระพุทธรูปไม้เก่าแก่ของวัดอีกเป็นจำนวนมาก ธรรมาสน์ไม้โบราณแบบเมืองเหนือล้านนาลายทอง อีก 1 หลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ จะได้มีการสำรวจต่อไป หลังจากเพลิงได้ดับสนิทแล้ว สาเหตุเบื้องต้นนั้นสันนิษฐานว่า คงจะเกิดจากเทียนที่มีผู้จุดบูชาพระที่จุดไว้หน้าพระประธานในพระวิหาร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการจะมาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป อนึ่งสำหรับพระวิหารหลังดังกล่าวบูรณะ ครั้งหลังสุดเมื่อปี 2507.