สยอง หนุ่มมะกัน ถ่ายวีดีโอบันทึกภาพ ขณะตัวเองไต่หน้าผา แล้วเกิดพลาดท่า ตกจากผาถ้ำเมืองออน จ.เชียงใหม่ ที่สูงเกือบ 100 เมตร ดับคาที่ ...
ฝรั่งตกหน้าผาดับเมื่อเวลา 14.50 น.วันที่ 16 ต.ค. 52 พ.ต.ท.วาลพ สมาธิ พนักงานสอบสวน(สบ3) สภ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีผู้พบศพ ชาวต่างช่างเสียชีวิต ที่บริเวณปีนหน้าผาด้านหลังถ้ำเมืองออน หมู่ 2 ต.บ้านสหกรณ์ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.กนิษฐ ประสานสุข ผกก.สภ.แม่ออน พ.ต.ท.จักรกฤช ดิษยนันท์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สมเดช จิตพยัค สว.สส. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง หน่วยกู้ภัยแม่ออน พร้อมกับแพทย์เวร รพ.แม่ออน พ.ต.ท.ฐานันดร วิทยาวุฑฒิกุล นวท(สบ2) พิสูจน์หลักฐาน เขต 32 เชียงใหม่ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุที่เกิดเหตุ
ซึ่งอยู่ด้านหลังถ้ำเมืองออน ห่างจากถนนสายเชียงใหม่-น้ำพุร้อนสันกำแพง ประมาณ 800 เมตร ซึ่งมีบริษัทเอกชน 2 บริษัทได้มาเช่าพื้นที่จาก อบต.บ้านสหกรณ์ เปิดเป็นแหล่งสำหรับให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้มาปีนหน้าผากันและถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเชียงใหม่ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาไต่เขาหรือปีนหน้าผากัน
โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีเดินเท้าขึ้นสู่ยอดหน้าผาและใช้เชือกโรยตัวลงสู่ปล่องถ้ำที่สูงชันและอันตรายลึกลงไปอีกประมาณเกือบ 200 เมตรด้วยความยากลำบาก บริเวณกลางปล่องถ้ำพบศพชายชาวต่างชาตินอนหงายเสียชิวิตอยู่ใกล้กับที่ใช้ปีนหน้าผา สภาพศพผู้ตายนอนหงายสวมกางเกงขาสั้นไม่สวมเสื้อ สวมรองเท้าสำหรับปีนเขาโดยที่เอวผู้ตายคาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับปีนเขา และอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับปีนเขามาครบชุดรวมทั้งเชือกโรยตัว แขนข้างขวาหักร่องแร่งเลือดแห้งเกรอะ ใกล้กันนั้นเจ้าหน้าที่ยังพบรองเท้าผ้าใบอีก 1 คู่ และรองเท้าสำหรับเขาสีน้ำตาลอีก 1 คู่ พร้อมกับกระเป๋าของผู้ตายที่ใช้อุปกรณ์สำหรับปีนเขาจำนวนหนึ่งห่างจากศพไปอีกประมาณ 6 เมตร พบกล้องถ่ายรูปคอมแพคยี่ห้อโอลิมปัสตั้งเอียงทำมุมกับที่ผู้ตายไต่หน้าผาโดยเปิดกล้องเอาไว้ในโหมดถ่ายวีดีโอ คาดว่าเป็นของผู้ตายที่เปิดบันทึกภาพตัวเองเอาไว้ในขณะที่กำลังไต่หน้าผา
เจ้าหน้าที่วิทยาการจึงเก็บเอาไว้เพื่อตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง โดยคาดว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง คือตั้งแต่เมื่อวานนี้โดยบริเวณที่จอดรถหน้าทางที่ปีนเขายังพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟสีดำทะเบียน กวจ.801 ลำพูน จอดไว้หนึ่งคันที่บริเวณตระกร้ารถมีหมวกกันน็อคสีเขียววางไว้ 1 อัน คาดว่าเป็นรถของผู้ตายเช่ามา และทราบชื่อผู้ตายต่อมาว่าชื่อ Mr.Jerymy Joe riveira อายุประมาณ 30 ปี สัญชาติอเมริกัน ปัจจุบันพักอยู่ บีเอ็มพี เรสซิเด้นซ์ ในเมืองเชียงใหม่
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายนพดล อุปคำ อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นไกด์ของบริษัททัวร์บริษัทหนึ่งได้ให้การว่าในช่วงบ่ายตนได้พาลูกทัวร์มาปีนเขาตามปกติ ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปบนยอดหน้าผาก่อนเพื่อเตรียมตัวและอุปกรณ์สำหรับไต่หน้าผาอยู่นั้นได้เหลือมองลงไปเห็นศพ Mr.Jerymy Joe riveira อยู่ใต้ปล่องก้นถ้ำ จึงแจ้งให้ตนทราบพร้อมกับแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบดังกล่าว
ด้านนายยอร์ซ มอริส กรรมการผู้จัดการบริษัทเชียงใหม่ร็อคไคล์มมิ่งแอดเวนเจอร์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการปีนเขาได้ร่วมเดินทางมาร่วมสังเกตุการณ์ด้วยในครั้งนี้ให้ความเห็นว่า ผู้ตายน่าจะมาคนเดียวและใช้วิธีปีนเขาแบบที่เรียกกันว่า “ฟรีโซโล่” คือปีนคนเดียวโดยไม่มีผู้ช่วยและไม่ใช้เชือกช่วย ประกอบกับหินตรงหน้าผาสูงเปราะก็เลยคาดว่าพอผู้ตายเอื้อมมือไปเกาะหินบริเวณที่เปราะทำให้หินแตกเป็นเหตุให้ผู้ตายร่วงลงมาจากหน้าผาที่สูงประมาณเกือบ 100 เมตร ตกลงมากระแทกกับโขดหินเบื้องล่างดังกล่าวจนเสียชีวิตคาที่ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำศพนาย Jerymy Joe riveira ส่ง รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ผ่าพิสูจน์ศพอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตเพื่อความชัดเจนอีกครั้งหนึ่งพร้อมกันนี้ก็ได้ประสานไปยังสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่เพื่อรายงานให้ทราบอีกครั้ง
ข่าวจาก ไทยรัฐ