• ระเบิดถล่มศาลปกครองสงสัยฝีมือแก๊งป่วนเมือง**เชียงใหม่ |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 29 มี.ค. 53 เวลา 18:56:34 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
มือลึกลับปาระเบิดถล่มสนามศาลปกครองเชียงใหม่ ดังสนั่นหวั่นไหวกลางดึกตำรวจนำกำลังตรวจสอบเจอกระเดื่องระเบิด เอ็ม 67 ตกอยู่เก็บเป็นหลักฐาน ในขณะเดียวกันคืนที่ผ่านมามีคนร้ายวางระเบิด ตู้โทรศัพท์สาธารณะ กลางเมือง ใกล้สถานบันเทิงใหญ่เมืองเชียงใหม่ แรงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว รถตำรวจจอดอยู่ใกล้เคียงพังยับ เบื้องต้นพบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง ชนิดอัดลงในกระป๋องแป้ง ทั้งสองเหตุการณ์ เชื่อเป็นฝีมือกลุ่มป่วนเมือง ทางด้านพ่อเมืองเชียงใหม่ สั่งการหน่วยงานราชการเฝ้าระวัง ป้องกันความเสียหาย จากมือที่สามก่อกวน
เหตุระเบิดป่วนเมืองรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 29 มีค.นี้ พ.ต.ท.พุฒิ มณเฑียร สารวัตรเวร สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ รับแจ้งมีเหตุระเบิด บริเวณสนามฟุตบอล ด้านหลังอาคารที่ทำการศาลปกครองเชียงใหม่ ถนนเชียงใหม่ -ลำปาง ต.ช้างเผือก จึงไปสอบสวนร่วมกับ พ.ต.อ.สมบัติ สุภาภา รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และ พ.ต.ท.ฐานันดร วิทยาวุฒฒิกุล สว.ตำรวจวิทยาการ เขต 32 บริเวณที่เกิดเหตุพบ หลุมขนาดกว้างประมาณ 1 คืบ ลึกประมาณ 5 ซม.บริเวณสนามใกล้ที่จอดรถหลังอาคารที่ทำการศาล และตรวจสอบบริเวณใกล้จุดระเบิดพบ กระเดื่องระเบิดขนาด เอ็ม 67 ตกอยู่ 1 อัน จึงเก็บไว้เป็นของกลาง
จากการสอบสวน รปภ.ศาลปกครองเชียงใหม่ ให้การว่าเมื่อช่วง เวลาประมาณ 22.00 น.คืนที่ผ่านมาได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด บริเวณจุดดังกล่าว จึงได้รายงานเบื้องต้นให้ เจ้าหน้าที่ประจำศาลทราบ และรุ่งเช้าจึงนำความแจ้งตำรวจดังกล่าว หลังสอบสวนแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐาน จะเป็นการกระทำของกลุ่มป่วนเมือง สร้างสถานการณ์ให้บ้านเมืองวุ่นวาย จะได้สืบสวนหาตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ขณะเดียวกันก่อนหน้านั้นเมื่อ เมื่อ เวลา 23.00 น.วันที่ 28 มี.ค.นี้ พ.ต.ท.กิตติพันธ์ คำวรรณ สารวัตรเวร สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิด ที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะ ตั้งอยู่หน้าวัดทรายมูลเมือง ถนนมูลเมือง.ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และอยู่ติดกับย่านสถานบันเทิงใหญ่ ของเมืองเชียงใหม่ แรงระเบิดทำให้มีรถยนต์ชาวบ้านที่จอดได้รับความเสีย จึงได้รีบรายงานให้ พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พ.ต.ท.สวัสดิ์ หล้ากาศ รอง ผกก.สส.ฯ และ พ.ต.ท.ฐานันดร วิทยาวุฑฒิกุล สว.ตำรวจวิทยาการเชียงใหม่ เขต 32 เดินทางมายังที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบว่า มีคนมามุงดูจุดเกิดเหตุจำนวนมาก ตำรวจจึงรีบกันผู้คนออกจากพื้นที่เกิดระเบิด และตรวจสอบพบว่า จุดที่ระเบิดอยู่ภายในตู้โทรศัพท์ แรงระเบิดทำให้โทรศัพท์ได้รับความเสียหาย และกระจกแตกหมดรัศมีแรงระเบิดประมาณ 20 เมตร ทำให้รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กข 8734 เชียงใหม่ เป็นของ ร.ต.อ.มานพ ค้าขาย รอง สว.ธร.สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ที่ขับมาจอดบริเวณดังกล่าว และลงไปทำธุระบริเวณใกล้กันนั้นห่างจากตู้โทรศัพท์ ประมาณ 20 เมตร กระจกหลังแตกละเอียด
และในที่เกิดเหตุ ทางตำรวจได้ตรวจพบ ชิ้นส่วนของระเบิด เป็นเศษกระป๋องแป้งยี่ห้อหนึ่งแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจายอยู่ไปทั่ว ทางตำรวจได้สอบพยานคนหนึ่ง ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุพบว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังจะเดินมาโทรศัพท์ แต่ได้สังเกตเห็นมีวัตถุสิ่งหนึ่งตกอยู่ ใกล้ๆตู้โทรศัพท์ โดยมีควันลอยออกมา จึงได้รีบถอยห่างออกไป และสักครู่ก็เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น ซึ่งทางตำรวจวิทยาการฯได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นระเบิดแสวงเครื่อง ชนิดอัดลงในกระป๋องแป้ง และใช้สายชนวนจุดให้ระเบิด ซึ่งทางตำรวจ จะได้ตรวจกล้องวงจรปิดของชาวบ้านที่ติดไว้หลายจุดในบริเวณใกล้จุดที่ระเบิด เพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่า เป็นกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีต่อบ้านเมืองสร้างสถานการณ์ป่วนเมืองขึ้นมา
ขณะเดียวกันทางด้าน นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ยังคงสั่งการไปยังทุกส่วนราชการให้เฝ้าติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอย่างใกล้ชิด หากมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดจะได้เตรียมพร้อมรับมือได้ทัน โดยเฉพาะการเฝ้าระวังความปลอดภัยของสถานที่ราชการ ซึ่งต้องทำความเข้าใจกับราชการและเจ้าหน้าที่รวมทั้งประชาชนที่อาจจะต้องได้รับผลกระทบจากมาตรการเฝ้าระวังที่จะต้องมีการตรวจตราการเข้าออกเพื่อป้องกันมือที่สามมาก่อเหตุความไม่สงบขึ้น เพราะสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ ซึ่งยังมีเหตุการณ์การเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งมีการความเคลื่อนไหวของมวลชนจะรวมกันจากภูมิภาคต่าง ๆ เข้าไปในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ช่วงเวลาของวันที่ 12 มีนาคม 2553 เป็นต้นมาและต่อเนื่องอีกหลายวันถึงขณะนี้ เพราะฉะนั้นความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ทางรัฐบาลมีความเป็นห่วงใยปัญหาหลาย ๆ อย่างที่จะเกิดขึ้นได้จะเป็นเหตุให้มีการแจ้งเตือนให้ระมัดระวังและติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด
ดังนั้น จังหวัดและหน่วยงานที่มีความรับผิดชอบทางความมั่นคงและหน่วยงานต่าง ๆ ได้ร่วมกันทำงานมาโดยตลอด และหลายประการที่ได้มีการวิเคราะห์สถานการณ์ได้ว่า มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มความเป็นห่วงในหลายกรณี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่ตั้งของส่วนราชการที่สำคัญ และคาดการณ์ได้ว่าจะเป็นที่เป้าหมาย เช่น ศาลากลางจังหวัดศูนย์ราชการกระทรวงการคลัง ศาลจังหวัด รวมทั้งที่ตั้งของส่วนรัฐวิสาหกิจ เช่น ไฟฟ้า ประปา โทรคมนาคม รวมทั้งที่ตั้งของหน่วยกำลังต่างๆ ทั้งตำรวจ และทหาร เป็นส่วนบอกเหตุที่จะต้องเป็นห่วงและระมัดระวัง แต่ก็ยังคาดหวังว่าจะไม่มีความรุนแรง และพยายามอย่างยิ่งที่จะให้ดูแลสถานการณ์ไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น ขอให้หัวหน้าส่วนราชการดูแลส่วนราชการที่ท่านรับผิดชอบอยู่อย่างเข้มงวด หากมีสิ่งผิดปกติใด ๆเกิดขึ้น ขอความกรุณาให้รีบรายงานเข้ามาที่ที่ทำการปกครองจังหวัด และตำรวจได้โดยตรง จะได้เข้าไปช่วยดูแล
นอกจากนี้ ขอให้ติดตามข่าวสารต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด จะได้ประเมินสถานการณ์ได้ด้วย และในขณะเดียวกัน หากมีสถานการณ์ที่ไม่ปกติ จังหวัดจะได้รีบแจ้งหัวหน้าส่วนราชการ และจะได้นำวิธีการปฏิบัติเพิ่มเติมด้วย เพราะฉะนั้นขอความกรุณาให้ สามารถติดต่อกับท่านได้ผ่านระบบสื่อสารที่รวดเร็ว เช่น เครื่องมือสื่อสาร โทรศัพท์ เป็นต้น ประการที่ 3 ขออภัยหัวหน้าส่วนราชการด้วย ที่จำเป็นที่จะต้องมีมาตรการที่ศาลากลางจังหวัดในขณะนี้เตรียมการดูแลรักษาสถานที่ราชการ ให้ดำเนินการไปก็เพียงแต่เป็นเครื่องช่วยรักษาสถานที่ราชการให้มั่นคงมากยิ่งขึ้น เป็นเครื่องช่วยที่จะให้หากมีสถานการณ์สื่อมวลชน จะได้มีฉนวนช่วยได้ที่จะได้ลด/ป้องกันความเสี่ยง ในการเกิดเหตุการณ์รุนแรง ซึ่งแนวทางนี้ อาจสร้างความไม่สะดวกให้แก่หัวหน้าส่วนราชการและข้าราชการ และคนที่มาติดต่องานด้วย ถ้าสถานการณ์ไปในทางที่ดีแล้วก็จะคลี่คลายแล้ว จะได้ดำเนินการเข้าสู่ภาวะปกติ และขอความร่วมมือในการระมัดระวังในช่วงนี้ด้วย
หากได้รับการแจ้งเตือนได้รับการร้องขอให้ปฏิบัติก็ขอให้หัวหน้าส่วนราชการ/หัวหน้าหน่วยงาน ได้กรุณาปฏิบัติและสนับสนุนการปฏิบัติของหน่วยงานที่ร้องขอด้วย หรือหน่วยปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น ในเมืองนี้จะใช้รถดับเพลิง เครื่องใช้ต่าง ๆ ก็ขอความกรุณาไว้ล่วงหน้าด้วย อุปกรณ์ที่มาใช้ป้องกันนี้มาจากความร่วมมือของหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะเทศบาลนครเชียงใหม่ ที่ช่วยในการสนับสนุนจำนวนมากในการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวที่ใกล้ถึงเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่เมืองเมษายนนี้ด้วย หากสถานการณ์บ้านเมืองเป็นเช่นนี้เชื่อว่าบรรยากาศเงียบเหงาทั่วประเทศแน่นอน.
ข่าวจาก ไทยนิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1292 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 29 มี.ค. 53
เวลา 18:56:34
|