เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 25 มิ.ย. 2553 พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.จิรุจจ์ พรหโมบล รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.สิทธิพร ศรีจันทร์ทับ รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.สุธีระ ปุณณบุตร ผบก.ก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบก.ภ.เชียงใหม่ พตอ.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบก.ภ.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ ผกก.สส.1 บก.สส..ภ 5 พ.ต.อ.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผกก. สภ.เมือง เชียงใหม่ พตท.ธวัชชัย อยู่มาก รอง ผกก.สส.ภ.5 ร่วมกับ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผบก.สตม.5 พล.ต.ต.มนู เมฆหมอก ผบก.สส. สตม.พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผกก.สส.สตม. ได้แถลงข่าวร่วมกันจับกุมตัว ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ตามคดีอาญาที่ 899/2553 และ ตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ คดีที่ จ.298.1/25535 ถึง จ.298.7/25535 ลงวันที่ 24 มิ.ย.53 ประกอบไปด้วย
นายวอง ซี ไว อายุ 38 ปี ชาวมาเลเซีย นางยุภาพร วอง อายุ 29 ปี (ภรรยา) อยู่บ้านเลขที่ 90 ซอยโสภรณพิทยาคุณานุสรณ์ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายสุพิณ ขะพินิจ อายุ 53 ปี (พ่อของนางยุพาพร และ เป็นพ่อตานายว่อง) อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 6 ต.วังปลาป้อม อ.นาวัง จ.หนองบัวลำพู นางมุกดา ขะพินิจ อายุ 53 ปี (ภรรยานายสุพิณและเป็นแม่ยาย) นายนัชพล นามสุนธุ์ อายุ 23 ปี (หลานเขยนายสุพิณ) อยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ 17 ต.บุ่งค้า อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร นายวานิช สุขไชย อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 11 ต.บุ่งค้า อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร และ นายสมบัติ ช่อกลาง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.ยโสธร พร้อมด้วยของกลางรถยนต์ปิคอัพอัพโตโยต้า วีโก้ สี่ประตูสีบรอนซ์ ทะเบียน ฌ-7382 กทม.นำตัวมาแถลงข่าวที่ หน้า ที่ทำงาน ตร.ภ.5
พล.ต.ท.สมคิด กล่าวว่า จากกรณีจากกรณีชาวบ้านพบศพถูกฆ่ายัดกระสอบนำมาทิ้งไว้ข้างถนน(ใกล้ป้ายบอกทางไป อ.หางดง) ถ.เลียบลำน้ำปิง หมู่ 4 เขตบ้านดอนชัย ต.ป่าแดด อ.เมือง เชียงใหม่ (เมื่อตอนเช้าวันที่ 15 มิ.ย.) หลังจากเกิดเหตุ พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบก.ภ.เชียงใหม่ ได้ลงไปควบคุมคดีมอบหมายงานให้ พ.ต.ต.ไกรศรี จุฬพรรค์ ช่วยรายการ สว.สส. สภ.เมือง เชียงใหม่ พ.ต.ต.ยุทธพงษ์ หอมจรรยา สว.สส. สภ.เมือง เชียงใหม่ ทำงานประสานกับตำรวจภาค 5 ได้แกะรอยจากหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุคือเชือกไนล่อนสีขาวสลับแดงที่ใช้มัดผู้ตาย โดยนำไปตรวจสอบตามห้างต่างๆทั่วเมืองเชียงใหม่ จนไปได้เบาะแสจากภาพกล้องวงจรปิด ว่ามีนายวอง ซี ไว และนางยุพาพร สองผัวเมียมาซื้อไปจากห้างโฮมโปร สาขาบิ๊กซีหางดง ถ.เชียงใหม่-ฮอด ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยกลุ่มคนร้ายยังได้ซื้อค้อนปอนด์ขนาดใหญ่และถุงดำไปอีกด้วย ได้ใช้รถยนต์ปิคอัพโตโยต้าวีโก้ 4 ประตูสีบรอนซ์ ทะเบียน ฌ-7382 กทม.จนตำรวจสามารถแกะรอยไปถึงที่พักใน "ไอร์แลนด์วิวเพลสรีสอร์ท" ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับเทศบาลตำบลสุเทพ ถ.คันคลองชลประทาน ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
และตำรวจพบว่ากลุ่มคนร้ายมีทั้งชาวจีนมาเลเซียและคนไทยประมาณ 8 คน มาเปิดห้องพักที่ รีสอร์ทดังกล่าวและผู้ตายคือ ทราบชื่อผู้ตาย คือ นายควา ฮอก ซุน อายุ 41 ปี ชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน และตำรวจยังมีหลักฐานที่นายวอง ผู้ต้องหาคนแรกที่ ไปรับตัวนายซุน มาจากสนามบินเชียงใหม่ จนตำรววจนำพยานมาสอบสวนต่อจิ๊กซอจนพบว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้ มีทั้งหมด 8 คน มีนายวอง ซี ไว เป็นหัวหน้าแก๊ง โดยได้ร่วมกันวางแผน เพื่อจะลวงนายซุนมาจากประเทศมาเลเซีย เพื่อฆ่าปิดปาก โดยคนร้ายทั้งหมด ได้ไปเช่าเปิดห้องพักที่รีสอร์ทดังกล่าว และใช้ห้องพักหมายเลข 1 เป็นห้องที่เตรียมไว้สังหารนายซุน มีการไปซื้อกุญแจลูกบิดที่ร้านโฮมโปรมาเปลี่ยนลูกบิดกุญแจ เพื่อเปิดทางสะดวกให้ทีมฆ่าเข้าไปลงมือได้อย่างสะดวก จนทางพนักงานสอบสวนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 7 คน หลบหนีไปได้ 1 คนคือนายม้า ไม่ทราบนามสกุล ได้หลบหนีไปพร้อมกับรถปิคอัพอีซูซุสีแดง ไม่ทราบทะเบียน
ผบภ.5 เปิดเผยถึงแรงจูงใจที่ผู้ต้องหากลุ่มนี้ ลวงนายซุน มาฆ่าทิ้ง ในชั้นการจับกุมผู้ต้องหาได้เปิดปากรับสารภาพว่า นางวอง เคยเป็นเพื่อนกับนายซุน ทำธุรกิจผิดกฎหมายร่วมกัน คือจะมีการลักลอบขนเฮโรอีนออกจากประเทศไทยเพื่อเข้าไปขายในประเทศมาเลเซีย โดยทำมานานร่วม10 ปี นายวอง ผู้ต้องหาจะเป็นหุ้นส่วนในการลักลอบค้าเฮโรอีนด้วย โดยจะใช้จังหวัดเชียงใหม่ เป็นฐานการลำเลียงยาเสพติด นางจากนายซุน มีภรรยาเป็นชาวพม่า ที่จะคอยลำเลียงเฮโรอีนและยาไอซ์มาจากชายแดนพม่า ก่อนที่จะแพ็คส่งเข้าไปขายในประเทศมาเลเซีย สาเหตุที่ต้องลวงนายซุนเพื่อมาฆ่าปิดปาก เนื่องมาจากนางวอง และ ภรรยาต้องการจะถอนตัวออกจากขบวนการค้ายาเสพติด แต่นางซุน ไม่ยอมให้ถอนตัว และยังข่มขู่เอาชีวิตตลอดเวลาหากพวกตนเลิก ประกอบกับ นายซุนยังติดหนี้ค่าซื้อค้ายากับกลุ่มผู้ต้องหาร่วม 3 ล้านบาท
นายวอง และภรรยาจึงวางแผนลวงนายซุนขึ้นมาหากที่ จ.เชียงใหม่ อ้างว่า มียาล็อตใหม่เข้า โดย นางยุภาพร ได้วานให้ นายสุพิณ (พ่อ) และนางมุกดา (แม่) ไปหาทีมสังหารเพื่อมาฆ่านายซุน จนนายสุพิณ ได้ไปติดต่อให้ นายรัชพล หลานเขย ไปติดต่อทีมสังหารทั้ง 4 คน โดยจ่ายค่าจ้างวาน แล้วผู้ต้องหาสองผัวเมียก็ขนพ่อตา แม่ยายและทีมสังหารมาเช่าห้องพัก ในรีสอร์ท เพื่อเริ่มวางแผน เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. โดยมีการวางแผนจะไม่ใช้ปืนเนื่องจากเสียงดัง จนทีมสังหารได้วางแผนเปลี่ยนกุญแจ และซื้อเชือกและค้อนปอนด์จากห้างโฮมโปร เพื่อฆ่าปิดปากนายซุน แบบเงียบ ๆ โดยคืนวันเกิดเหตุ หลังเที่ยงคืนวันที่ 15 มิ.ย. ทีมสังหารทั้ง 4 คนก็ใช้กุญแจสำรองย่องเข้าไปเปิดห้องพักนายซุน แล้วรุมจับมัดมือมัดเท้าและใช้ถุงดำคลุมหัวก่อนที่จะตีด้วยค้อนปอนด์จนเหยื่อเสียชีวิต จากนั้น ห่อศพใส่ถุงดำและกระสอบบรรทุกศพใส่ท้าบยรถยนต์วีโก้ของ นายวอง นำไปทิ้งยังจุดที่มีชาวบ้านและตำรวจไปพบศพ ซึ่งคดีนี้ตำรวจใช้เวลาในการทำคดีร่วม 10 วัน โดยได้รับความร่วมมือ จาก ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจ สตม.และตำรวจ บก.ภ.หนองบัวลำพู จนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหา 7 คน ผบก.ภ.5 กล่าว
พล.ต.ต.สมคิด ยังเผยว่า ขณะนี้ได้ประสานไปยัง นายตันสีมูร์ซ่า ผบ.ตร.มาเลเซีย เพื่อขยายผลไปตรวจสอบประวัติของนายซุน ผู้ตายและเส้นทางการเงินของผู้ตายและกลุ่มผู้ต้องหา และวิธีการลักลอบขนยาเสพติดเข้าไปในประเทศมาเลเซีย ที่ผู้ต้องหากลุ่มนี้ลักลอบทำมานาน ขณะเดียวกันยังได้ตรวจสอบเงินในบัญชีของกลุ่มนายวอง ว่าจะสามารถใช้ พรบ.ฟอกเงินเข้าไปดำเนินการได้หรือไม่ หลังจากที่แถลงข่าวเสร็จ ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาผู้ต้องหาทั้งหมดไปให้ พ.ต.ท.ชาญวิทย์ แต้ประจิตร พนักงานสอบสวน สบ.3 รับตัวไปดำเนินคดี และนำไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและส่งไปฝากขังต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ ในตอนสายของวันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย)
พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด มาชี้รถยนต์โตโยต้าวีโก้ ที่ใช้บรรทุกศพนายซุนพร้อมกับนำมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่หน้า ตร.ภ.5 ประกอบไปด้วยนายวองซีไว (รูปร่างท้วมเสื้อยืดขาวแขนดำ)นางยุภาพร (ภรรยาใช้ผ้าขาวปิดหน้า) ทีมสังหารสวมเสื้อลายดอกสีฟ้าและสีขาวยืนข้าง ผบ.ช.ภ.5 ขอบคุณข่าว-ภาพ จากไทยรัฐ http://www.thairath.co.th/content/region/91910