| • โวยหมอแม่แตงไม่รักษาคนไข้ |
|
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 04 ก.ค. 54 เวลา 12:23:17 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ญาติผู้ป่วยโดนงูฉกโวย หามผู้ป่วยมารักษาแพทย์โรงพยาบาลแม่แตง กลับนิ่งเฉยปล่อยข้ามวัน ไม่ฉีดยาเซรุ่ม จนกระทั่ง ต้องหามส่งโรงพยาบาลในตัวเมือง แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตอนาจเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 ก.ค. 2554 ได้มีชาวบ้าน นำโดย นาย ประสิทธิ์ มูลละ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ 2 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย นาย ประเสริฐ บูชาเนตร อายุ 50 อยู่บ้านเลขที่ 187 ต.อินทขิล อ.แม่แตง ซึ่งเป็นญาติของ นาย วิชัย สมเพราะ อายุ 54 ปี ผู้เสียชีวิต อยู่บ้านเลขที่ 124 หมู่ 2 บ้านวังแดง ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้ร้องเรียน ต่อผู้สื่อข่าว ว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา ขณะที่ ผู้ตาย คือ นายวิชัย สมเพราะ ได้ออกไปหาปลากลางทุ่งนา แล้วถูกงูเห่ากัดบริเวณหลังมือ จนกระทั่งญาติได้พากันปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการนำผ้ามัดไว้เหนือบาดแผล จากนั้นก็พากันนำตัว นายวิชัย ไปโรงพยาบาลแม่แตง ด้วยสภาพที่ยังเดินและพูดกับญาติได้ แต่บ่นบอกว่าเจ็บบาดแผล เมื่อมาถึงโรงพยาบาล หมอและพยาบาล ไม่ได้ฉีดยาเซรุ่ม รักษาให้ทันท่วงที โดยปล่อยให้นอนทรมาน อยู่ ข้ามวัน ไปจนถึงวันที่ 24 มิถุนายน เท่าที่ตรวจสอบพบว่าทำการรักษาแค่เพียงฉีดยาแก้ปวดให้เท่านั้น ผู้ตายก็บ่น ว่าเจ็บปวดมาก จนนอนไม่ได้ทั้งคืนกระทั่งต่อมา ได้มีนายแพทย์ และพยาบาลของโรงพยาบาล มาทำการรักษา ด้วยวิธีที่ผิดจากความเป็นจริง โดยไม่ได้ฉีดยาเซรุ่ม แต่อย่างใด แต่กลับแก้ผ้าที่รัดพิษไว้ โดยพยาบาลและแพทย์บอกว่า เป็นวิธีการรักษาสูตรใหม่ ซึ่งทางญาติสงสัยและห้ามไม่ให้ แก้ผ้ารัดพิษเหนือบาดแผลออก เพราะถ้าไม่ได้ฉีดยาเซรุ่ม เมื่อแก้ผ้าที่รัดเหนือบาดแผลออก พิษจะแล่นเข้าสู่หัวใจอย่างรวดเร็วและอันตรายมาก แต่แพทย์ ก็ยังตัดผ้าออก เชื่อว่าพิษคงจะแล่นเข้าสู่ร่างกาย จนเป็นเหตุให็ผู้ตายทรุด ตาบอด เลือดออกหู จมูก จากนั้นแพทย์ ก็นำตัวส่งโรงพยาบาลนครพิงค์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ตอนแรกยังบอกว่าให้ไปเอง บังเอิญ วันนั้นรถพยาบาลกำลังจะไปส่งคนไข้ที่ตัวเมืองพอดี จึงขออาศัยไปด้วย เมื่อไปถึงโรงพยาบาลนครพิงค์ ทางแพทย์และพยาบาลก็มาดูแล เป็นอย่างดี แตกต่างจากที่โรงพยาบาลแม่แตงมาก ซึ่งทางแพทย์ โรงพยาบาลนครพิงค์ กล่าวเพียงว่า มาช้าไป ทำไมไม่รักษา แก้พิษก่อน ทางญาติก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเพราะที่โรงพยาบาลบอกว่าเป็นวิธีการรักษาสูตร ใหม่ สูตรใหม่แบบนี้ ทางญาติไม่อยากได้เพราะรักษาแล้วใส่โลงในที่สุดทางแพทย์ของโรงพยาบาลนคร พิงค์วินิจฉัยว่า ผู้ตายเสียชีวิตเนื่องจากภาวะหัวใจล้มเหลว จากอาการถูกงูเห่ากัด นาย ประสิทธิ์ มูลละ และ นาย ประเสริฐ บูชาเนตร ญาติ ยังกล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ตามทางญาติ ยังได้ติดต่อไปยังทางแพทย์ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา แต่ยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบ มีเพียงเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลแม่แตงที่พาญาติไป พบกับแพทย์สาธารณะสุขเพื่อชี้แจงสาเหตุการตาย เหตุการณ์ดังกล่าว ทางญาติจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเนื่องจากการรักษาที่ผิดพลาดจนเป็นเหตุให้มี ผู้เสียชีวิต ไม่ใช่ชาวบ้านไม่เคยพบเหตุการณ์คนถูกงูเห่ากัด ที่ผ่านมา ในหมู่บ้านก็เคยมีคนถูกงูกัด เช่น เหตุการร์ของ นาย จันทร์ พรมมา อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 2 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เล่าว่า เมื่อ5 ปีที่ผ่านมา ก็เคยถูกงูกัดบริเวณ ขา ครั้งนั้น ก็ใช้ผ้าพันเหนือบาดแผล และนำมารักษาต่อที่โรงพยาบาลแม่แตง ซึ่งครั้งนั้น ยังรักษาสูตรเก่า ด้วยการฉีดยาเซรุ่มก่อนทันที ต่อจากนั้นจึงค่อยตัดผ้าที่รัดเหนือบาดแผลออก จนรอดชีวิตมาถึงทุกวันนี้ แต่ถ้าครั้งนั้นรักษาแบบสูตรใหม่ตามที่พยาบาลหรือหมอบอก อย่างกรณี ของ นาย วิชัย ตนคงจะเสียชีวิตแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พยายามติดต่อไปยัง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่แตง และแพทย์ที่ทำการรักษาผู้ตายแล้ว ในเวลา 14.30 น. วันเดียวกัน ขณะที่ยังอยู่ในงานศพของ นายวิชัย สมเพราะ เพื่อที่จะขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายวิชัย แต่ ทางโรงพยาบาล มีเจ้าหน้าที่ เป็นสุภาพสตรีรับสาย บอกว่า ไม่สามารถติดต่อ ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลได้ เนื่องจากติดธุระที่ในเมืองเชียงใหม่ โดยพาญาติไปพบเจ้าหน้าที่สาธารณะสุข และไม่ได้ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ติอต่อไว้ส่วนเบอร์โทรศัพท์ที่มีไว้เป็นเบอร์ เก่ายกเลิกไปแล้ว จนไม่สามารถติดต่อได้ขณะที่ ทาง นางคำหล้า ช่อฟ้า ชาวบ้านใน บ้านหมู่ 1 ต.อินทขลิ ญาติอีกคนที่มาช่วยงานศพ บอกว่า เมื่อเดือน พ.ค.2554 ที่ผ่านมา ตนก็สูญเสียสามีไป เพราะทางโรงพยาบาลรักษาล่าช้าเนื่องจากสามีป่วย ด้วยอาการช็อกระหว่างรอรักษาพูดจาไม่ดี ถามว่า สามียังหายใจอยู่รึ
เปล่า ตนก็งง บอกว่า ยังหายใจอยู่ หลังจากบอกไป พยาบาลบอกว่า งั้นก็ให้รอไปก่อน ซึ่งเรื่องนี้ เป็นหน้าที่ของพยาบาล ของหมอ ที่จะต้องมาตรวจอาการ ไม่ใช่มาถาม ญาติ อยากบอกผ่านสื่อไปว่า โรงพยาบาลใคร ๆ ก็ไม่อยากมา หากไม่จำเป็นเจ็บไข้ได้ป่วย ถามว่า เงินเดือนที่ได้ มันเป็นภาษีของประชาชน เมื่อเขาจ้างไปรักษาก็ควรจะรักษาตามแบบฉบับที่ได้ร่ำเรียนมา ไม่ต้องแบ่งมาตรฐานการรักษา คนรวย คนจน ที่ผ่านมามีเรื่องร้องเรียนโรงพยาบาลแห่งนี้บ่อยครั้ง แต่ทางโรงพยาบาลก็ไม่ได้ปรับปรุงการให้บริการแต่อย่างใด แม้กระทั่ง ก่อนหน้านี้ด้วยเช่นกันชาวบ้านไปรักษาอาการใส้ติ่ง แพทย์ พยาบาลกลับให้กินแค่ยาแก้ปวดแล้วให้กลับบ้าน จนกระทั่งใส้ติ่งแตก จนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด สุดท้ายก็กลับมาที่โรงพยาบาลอีก ถามว่า แบบนี้ใครรับผิดชอบ เรื่องนี้ ที่ออกมาร้องเรียนก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร เพียงอยากจะบอกว่า ขอ
ให้รายของ นายวิชัย นี้ เป็นรายสุดท้าย และให้โรงพยาบาลมีการปรับปรุง หรือ สลับปรับเปลี่ยนบุคลากรของโรงพยาบาล ผู้ที่พูดจาไม่ดีอาจจะเพราะคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ หรืออาจจะเพราะ มีปัญหาทางครอบครัว ก็ย้ายไปอยู่แผนกที่ไม่ต้องสัมผัสกับคนไข้หรือญาติผู้ป่วย ปรับปรุงวิธีการรักษาให้รวดเร็วและวินิจฉัยถูกกับโรคด้วยความจริงจัย ไม่ต้องการให้คนป่วยเสียชีวิตขึ้นอีกที่ออกมาพูดครั้งนี้ เพราะอึดอัด กลั้นมานานจึงอยากจะระบายความน้อยใจ ความในใจให้ฟังเพื่อการปรับปรุงที่ได้มาตรฐานต่อไป.
ที่มา http://www.chiangmainews.co.th/page/?p=32581
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 2252 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 04 ก.ค. 54
เวลา 12:23:17
|
